ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 45

หรงจิ่งหลินแววตาเป็นประกายและรีบดึงชายเสื้อของหรงเยี่ย "เสด็จพ่อ ท่านได้ยินหรือไม่ ท่านต้องทำตัวดีๆ และอย่าทำให้ท่านแม่ตกใจจนหนีไป ไม่เช่นนั้นท่านจะต้องอยู่อย่างเดียวดายเพียงลำพังไปตลอดชีวิต และไม่มีใครสนใจท่านอีก"

"ปีกกล้าขาแข็งใหญ่แล้วนะ" หรงเยี่ยลูบศีรษะของหรงจิ่งหลิน

ไป๋ชงเซิงเห็นการแสดงออกของหรงเยี่ยที่มีต่อหรงจิ่งหลินเช่นนี้ ในใจก็เกิดมีความสุขขึ้นมาเล็กน้อย และหัวเราะออกมา

"สมน้ำหน้า ใครบอกให้ท่านรังแกท่านแม่ของข้า"

หรงจิ่งหลินพยักหน้าเห็นด้วย "ห้ามรังแกท่านแม่อีก จะต้องพาตัวท่านแม่ออกมาจากวังหลวงอย่างปลอดภัย"

หรงเยี่ยมองไปยังเด็กทั้งสองคนและรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก โดยไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้

แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าเขาไม่ได้ปฏิเสธความรู้สึกเช่นนี้เลย

"พาพวกเขาเข้าไป"

"ขอรับ"

หรงเยี่ยเพิ่งจะออกจากจวน ข้างนอกก็มีเสียงร้องของขอทานตัวน้อย

หรงเยี่ยหรี่ตาลงและกล่าวว่า "ไปดูสิว่าพวกเขาร้องเพลงอะไร?"

อิงซารีบวิ่งไปยังขอทานตัวน้อยและวิ่งกลับมาหลังจากนั้นไม่นาน และรายงานถึงบทเพลงที่ขอทานตัวน้อยนั้นร้องโดยไม่ขาดตกแม้แต่คำเดียว "ท่านอ๋องไม่มีทายาทสืบสกุล พระชายาของเขาลักพาตัวเด็กไปเพื่อแอบอ้างเปลี่ยนตัวองค์รัชทายาท แต่กลับต้องถูกจับเข้าคุกไปอย่างคาดไม่ถึง"

"ผู้หญิงคนนี้ช่างกล้าหาญยิ่งนัก" น้ำเสียงของหรงเยี่ยแผ่วเบา แต่กลับไม่มีวี่แววของความโกรธเลยสักนิด

หลังจากนั้นเขายกคิ้วขึ้น "ไปบอกให้พวกเขาร้องเพิ่มอีกสองประโยค"

อ๋า......

อิงซาและอิงอู๋มองหน้ากัน

นายท่านต้องการทำอะไร?

"พระสนมเอกหรงต้องการปกปิดและโยนความผิดให้กับผู้บริสุทธิ์" หรงเยี่ยหยุดชะงัก "หากพระสนมเอกหรงตรวจสอบขึ้นมา เช่นนั้นต้องเกิดปัญหาขึ้นกับที่จวนอย่างแน่นอน"

พอดีกับที่เขาก็มีความโกรธแค้นกับพวกเขาอยู่เช่นกัน!

ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำต่างรู้สึกตกใจอย่างมาก

นายท่านต้องการคิดจะช่วยเหลือผู้หญิงคนนั้น

หรือว่านายท่านตกหลุมรักผู้หญิงคนนั้นเข้าแล้ว

หรงเยี่ยเดินผ่านทหารองครักษ์เหยี่ยวดำโดยไม่สนใจความคิดของพวกเขา และเดินขึ้นรถม้าเพื่อไปยังวังหลวง

และเพลงบอกที่เป็นที่พูดถึงกันในเมืองหลวงก็ถูกแพร่สะพัดเข้าไปในวังหลวง

ตำหนักลี่อี๋

พระสนมเอกหรงตบจานผลไม้ที่อยู่ในมือนางกำนัลจนกระเด็นออกไป สีหน้าของนางมีความโกรธเล็กน้อยและกล่าวว่า "ใครเป็นคนทำ ใครเป็นคนเผยแพร่เพลงบอกนี้ ไม่มีใครคอยดูแลเลยหรือ เหตุใดถึงปล่อยให้พวกเขาเผยแพร่ออกไปเช่นนี้"

นางกำนัลคุกเข่าลงกับพื้นและตัวสั่นเทา

จางกงกงที่เข้ามารายงานก็โค้งตัวลงและกล่าวว่า "หากเรื่องนี้สามารถจัดการได้ คงจัดการไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ ล้วนถูกเผยแพร่มาจากกลุ่มคนขอทานทั้งสิ้น ฝ่าบาททรงให้ความสำคัญกับผู้ลี้ภัยที่อพยพมาจากเขตภัยพิบัติ และไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐในท้องที่กดขี่รังแกพวกเขา ใต้เท้าหญิงซูที่ทุบตีขอทานจนตายไปเมื่อคราวก่อน ก็ได้ถูกฝ่าบาทลงโทษประหารเก้าชั่วโคตร และตอนนี้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก จึงไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนกล้าเข้าไปขัดขวางห้ามปรามพ่ะย่ะค่ะ"

ก่อนที่จักรพรรดิองค์ปัจจุบันจะขึ้นครองบัลลังก์นั้น ได้เคยใช้ชีวิตเป็นขอทานกับท่านพ่อท่านแม่บุญธรรมมาก่อน และหลังจากที่เขาได้ขึ้นครองบัลลังก์แล้ว เขาก็มักให้ความสำคัญกับกลุ่มคนยากไร้และผู้อพยพประสบภัยเหล่านี้เป็นพิเศษ

และมักแจกจ่ายอาหารเพื่อบรรเทาทุกข์ เขาไม่สามารถทนเห็นเจ้าหน้าที่รัฐข่มเหงรังแกต่อกลุ่มคนเปราะบางที่อ่อนแอกว่าได้ หากเขารู้จะต้องถูกลงโทษประหารชีวิตทันที

พระสนมเอกหรงโกรธจนหน้าเขียว

ฝ่าบาทอนุญาตโดยนัยให้นางจัดการเรื่องของพระชายาต้วน นางคิดว่าปล่อยให้ไป๋เจาเสวี่ยทุกข์ทรมานสักเล็กน้อย จากนั้นให้นางปริปากออกมาเองว่าจะไม่เอาความไป๋จิ่น

หลังจากที่ไป๋จิ่นออกมาจากศาลต้าหลี่แล้ว ค่อยจัดการกำจัดไป๋เจาเสวี่ย

แต่ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น

นางทุบกำปั้นลงไปที่โต๊ะและถามว่า "ใครเป็นคนเผยแพร่ออกไป?"

จางกงกงตัวสั่นเทาเล็กน้อยและน้ำเสียงของเขาก็สั่นไปด้วย "แพร่ออกมาจากจวน......จวน......จวนท่านอ๋องหรงพ่ะย่ะค่ะ!"

"จวนท่านอ๋องหรง!" พระสนมเอกหรงคิดว่าเป็นฝีมือของไป๋ชิงหลิงเพื่อการรักษาชีวิตรอดของตัวเอง แต่สิ่งที่นางประหลาดใจก็คือ เพลงบอกนี้กลับถูกแพร่ออกมาจากจวนท่านอ๋องหรง

"ท่านอ๋องหรง!!" นางถามซ้ำออกมาและแทบไม่อยากจะเชื่อ

จางกงกงกล่าว "แพร่ออกมาจวนท่านอ๋องหรงจริงแท้แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ"

วินาทีนี้พระสนมเอกหรงรู้สึกโกรธจัดและโยนถ้วยชาที่นางรักและโปรดปรานมากที่สุดออกไป

จากนั้นตะโกนใส่นางกำนัล "ไปเรียกไป๋เจาเสวี่ยเข้ามาเดี๋ยวนี้"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น