สรุปเนื้อหา บทที่ 44 ข้าจะพิจารณาให้ท่านแม่แต่งงานกับท่าน – ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา
บท บทที่ 44 ข้าจะพิจารณาให้ท่านแม่แต่งงานกับท่าน ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
"นางบอกให้เจ้ามาอย่างนั้นหรือ?" หรงเยี่ยหยิบเศษหญ้าชิ้นที่สองออกจากตัวนางอีกครั้ง
นางรู้สึกรังเกียจเล็กน้อยและปัดมือของเขาออก "ไม่ใช่ ท่านแม่ของข้าไม่เคยขอร้องใคร นางเป็นคนที่ดื้อรั้นและกล้าหาญ ข้าไม่ต้องการให้ท่านแม่ต้องตกระกำลำบาก ได้ยินมาว่าพระสนมในวังหลวงล้วนมีจิตใจโหดเหี้ยม และชอบรังแกคนอื่น บางคนเข้าไปแล้วก็ไม่ได้กลับออกมา ข้าไม่อยากเสียท่านแม่ไป"
เมื่อพูดถึงตอนสุดท้าย ไป๋ชงเซิงเริ่มน้ำตาคลอ แต่นางยังคงยืนหยัดโดยไม่ร้องไห้ออกมาต่อหน้าหรงเยี่ย
ทว่ากลับทำให้หรงจิ่งหลินรู้สึกตกใจอย่างมาก
เขากำหมัดแน่นด้วยความร้อนรนกระวนกระวายใจ "นาง นางกล้า"
"หากนางกล้าแตะต้องท่านแม่แม้เพียงปลายนิ้ว ข้าจะสั่งให้เสวี่ยหลางไปกัดนาง"
และตอนนี้แม่นมซั่งก็ไม่ได้ปริปากพูดอะไรอีก
เพราะนายท่านของพวกเขาไม่ได้สั่งให้คนมาจับตัวไป๋ชงเซิงออกไป
"ท่านช่วยท่านแม่ได้หรือไม่" ไป๋ชงเซิงมองหรงเยี่ยด้วยความหวัง
จู่ๆ หรงเยี่ยก็เริ่มรู้สึกสนใจไป๋ชงเซิงขึ้นมาเล็กน้อย
นางอายุเพียงห้าขวบ ซึ่งเท่ากับหรงจิ่งหลิน ทว่ากลับเป็นเด็กฉลาดรู้จักคิดและรู้ทุกอย่าง
เขาไม่เชื่อว่าเด็กคนนี้จะมีความฉลาดเช่นนี้ ต้องเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นอบรมสั่งสอนอย่างแน่นอน
ช่างรู้จักพูดและรู้จักวางแผนนัก
เขานั่งลงเพื่อให้สายตาอยู่ระดับเดียวกับนาง "ท่านแม่ของเจ้ายังบอกอะไรเจ้าอีก?"
"ข้าบอกไปหมดแล้ว ท่านแม่ไม่ได้บอกให้ข้ามาที่นี่ ข้าแอบออกมาเอง ตอนนี้ท่านปู่คงกำลังตามหาข้าอย่างร้อนรน ท่านบอกข้ามาคำเดียวว่าจะช่วยหรือไม่ช่วย"
หรงเยี่ยเงียบขรึมอยู่ครู่หนึ่ง
ไป๋ชงเซิงทำหน้าบูดบึ้งและกล่าวว่า "ไม่ช่วยก็ไม่เป็นไร สิ่งใดที่ตนเองไม่ชอบก็อย่าไปทำกับคนอื่น ขอโทษที่รบกวน"
เมื่อไป๋ชงเซิงพูดจบนางก็ทำให้บูดบึ้งด้วยความเสียใจและผิดหวัง แต่การเคลื่อนไหวของฝีเท้ายังคงมุ่งมั่นและหันหลังเดินกลับออกไป
หรงเยี่ยรู้สึกขบขันกับคำพูดและการแสดงออกของนาง
มุมปากของเขาขยับเล็กน้อย ทำให้สีหน้าเดิมที่ไร้อารมณ์กลับมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง
เมื่อบรรดาคนใช้เห็นเข้าก็ต่างตาค้างตกตะลึง
นายท่านของพวกเขายิ้ม
และตอนนี้หรงเยี่ยก็ยื่นมือไปจับมือของไป๋ชงเซิงและจูงนางกลับมา จากนั้นจึงกอดนางไว้ในอ้อมแขน
หรงจิ่งหลินพยักหน้า "ได้ เสด็จพ่อของข้ามาเงินมากมายมหาศาล"
บรรดาคนใช้ ......
ทันใดนั้นไป๋ชงเซิงก็ถอนหายใจออกมา "ท่านแม่ถูกพระสนมเอกหรงจับตัวไป ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ท่านวางข้าลงเดี๋ยวนี้ ข้าจะกลับจวนติ้งเป่ยโหวเพื่อรอท่านปู่ของข้า"
ไป๋ชงเซิงดิ้นอยู่ครู่หนึ่ง แต่กลับไม่สามารถหลุดพ้นออกจากอ้อมกอดของหรงเยี่ยไปได้
เขาหันหลังและกล่าวกับแม่นมซั่ง "ให้นางอยู่ที่หอเป่าซิน พานางไปอาบน้ำและดูแลนางให้ดี"
"ข้าจะกลับจวนติ้งเป่ยโหว" ไป๋ชงเซิงดิ้นรนอีกครั้ง
หรงเยี่ยใช้นิ้วดีดหน้าผากนางหนึ่งครั้ง "หากต้องการช่วยท่านแม่ของเจ้าก็อยู่นิ่งๆ และอยู่ในจวนอย่าไปไหน"
เมื่อไป๋ชงเซิงได้ยินสิ่งนี้ จิตใจที่วิตกกังวลของนางก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง
นางจ้องมองหรงเยี่ยอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ กลับรู้สึกว่าหรงเยี่ยก็ไม่ได้น่ารังเกียจอะไรเช่นนั้น
เมื่อสักครู่นางใจร้ายกับเขาเกินไปหรือไม่?
แม่นมซั่งอุ้มไป๋ชงเซิงออกไป
ไป๋ชงเซิงหันกลับมาและกล่าวด้วยเสียงอ่อนนุ่ม "หากท่านทำตัวดี ข้าจะพิจารณาให้ท่านแม่แต่งงานกับท่าน!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...