ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 467

สรุปบท บทที่ 467 มอบความตายให้นางอู่: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

ตอน บทที่ 467 มอบความตายให้นางอู่ จาก ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 467 มอบความตายให้นางอู่ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเกิดใหม่ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ที่เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

อู่หลานอวี้ก็หยุดร้องไห้แล้วเช่นกัน นางคุกเข่าต่อหน้าจักรพรรดิเหยาแล้วกล่าวว่า “ฝ่าบาท ดูเหมือนว่าจะมีเพียงให้ข้าน้อยตายไปเสียถึงจะสามารถปกปิดเรื่องอื้อฉาวนี้ได้ เพื่อไม่ให้องค์จักรพรรดิต้องทนทุกข์กับความอยุติธรรม ข้าผู้นี้สามารถไปรอท่านอยู่ในยมโลกก่อนได้ ถือเป็นการชดใช้ให้ฮองเฮา”

หลังจากพูดจบอู่หลานอวี้ก็สะดุดเท้าตนเอง นางกำลังจะล้มลงไปกอง

เมื่อเห็นภาพนี้จักรพรรดิเหยาก็ตัวสั่นอย่างรุนแรง พระองค์ลุกขึ้นทันที โอบอู่หลานอวี้จากด้านหลังแล้วพูดว่า “เรื่องนี้ขอข้าคิดดูก่อน”

“ฝ่าบาท…” อู่หลานอวี้มองเขาทั้งน้ำตา “ข้าน้อยไม่อาจอยู่ต่อได้ แม้ข้าน้อยจะสร้างสันติภาพกับเสิ่นชิงแล้ว แต่ข้าน้อย...จะทำให้องค์จักรพรรดิต้องอับอาย ดังนั้นท่านควรมอบความตายให้ข้าน้อยแล้ว”

จักรพรรดิเหยาลดสายตาลงมองหญิงงามในอ้อมแขน

อู่หลานอวี้กับอู่หานยู่ได้รับการสืบทอดจากสายเลือดเดียวกัน ทั้งคู่ล้วนเป็นสายเลือดขององค์หญิงใหญ่

ทั้งสองหน้าตาเหมือนกัน แต่ดวงตาของพวกนางนั้นเหมือนกันทุกประการในเวลาที่พวกนางร้องไห้

ในยามที่อู่หลานอวี้หันหน้ามา จักรพรรดิเหยาก็รู้สึกว่าเขาได้พบกับฮองเฮาอู่อีกครั้ง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้ยินอู่หลานอวี้กล่าวว่านางได้สงบศึกกับเสิ่นชิงแล้วความรู้สึกแปลกๆ ก็ปรากฏขึ้นในใจเขา

เขาอยู่บนบัลลังก์มังกรมาเกือบยี่สิบปีแล้ว เขาจัดการกับสตรีมาแล้วทุกประเภท โดยธรรมชาติแล้วเขาย่อมไม่จัดการเรื่องนี้อย่างเบามือเพียงเพราะได้สบสายตาของอู่หลานอวี้

เขาบีบแก้มอู่หลานอวี้ทันที เขาถามด้วยสีหน้าเย็นชา “เหตุใดเจ้าถึงมาที่ห้องบรรทมของหานยู่”

อู่หลานอวี้สั่นสะท้าน นางน้ำตาไหลอีกครั้ง “ข้า...ข้าน้อยเข้าวัง... เพื่อมาเข้าเฝ้าองค์หญิงหลวนอี้ ขณะกำลังจะกลับจวน ข้าน้อยพบว่ากำไลที่เป็นสินเดิมที่ท่านยายของข้ามอบให้หล่นหายไป ข้าน้อยจึงกลับมายังตำหนักเฟิ่งหลวนเพื่อมองหากำไล”

นางยกมือซ้ายขึ้นด้วยแววตาที่มีความคับข้องใจ

จักรพรรดิเหยาขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้น พยายามอย่างหนักที่จะนึกถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นยามนี้ แต่สุดท้ายเขาก็จำอะไรไม่ได้เลย

เขารู้แค่ว่าเขาพบอู่หลานอวี้ในความฝันและมีความสัมพันธ์กับนาง

ทันใดนั้นจักรพรรดิเหยาก็รัดร่างของอู่หลานอวี้ไว้แน่น “ในเมื่อเจ้าอยากตาย ข้าจะเติมเต็มเจ้าเอง!”

หลังจากนั้นไม่นาน ข่าวที่ว่าอู่หลานอวี้ถูกประหารชีวิตเนื่องจากทำลายสิ่งอันเป็นที่รักของฮองเฮาเซี่ยวก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งหลวง ก่อนจะแพร่ไปทั่วทั้งเมืองหลวง

ไป๋ชิงหลิงได้ยินข่าวนี้หลังจากผ่านไปสองวัน

อย่างไรก็ตามนางไม่มีความรักต่อนางอู่มากนัก ดังนั้นนางจึงไม่ได้ใส่ใจกับสาเหตุการเสียชีวิตของอีกฝ่าย

แต่นางไม่คาดคิดว่า ‘ผู้หญิงที่ตายแล้ว’ คนนี้จะสร้างเงาดำมืดบนเส้นทางในอนาคตของหลวนอี๋...

ในช่วงกลางเดือนสิบเอ็ด เมืองหลวงก็หนาวถึงไขกระดูกแล้ว

ในขณะหลับไป๋ชิงหลิงฝันถึงหรงเยี่ย

เขานอนอยู่บนหิมะโดยใช้มือกุมเข่า กัดฟันคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด

เห็นได้ชัดว่าคนที่เจ็บปวดคือหรงเยี่ย แต่นางสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดจนหนาวสั่นถึงไขกระดูกที่หัวเข่าของหรงเยี่ย

รอบตัวเขาเต็มไปด้วยหิมะ ไม่มีที่ให้หลบภัย ทั้งยังไม่มีใครติดตามเขาไปด้วย

“เจ้าไม่จำเป็นต้องรอรับใช้ต่อหน้าข้า จงรีบไปรับท่านอ๋องกลับมา” ไป๋ชิงหลิงกล่าว

อิงเหลียนก้มหน้าลงแล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ทูลพระชายา ข้าน้อยไม่สามารถทิ้งท่านไปได้ นี่คือคำสั่งของท่านอ๋อง ท่านอ๋องได้สั่งความไว้ก่อนออกเดินทางว่าไม่ว่าพระชายาต้องการจะทำสิ่งใด ข้าน้อยจะต้องพยายามช่วยอย่างเต็มที่ ข้าน้อยไม่สามารถทำตามรับสั่งที่ให้ออกไปตามหาท่านอ๋องได้”

“ข้าฝันถึงเขา ข้าฝันว่าเขาตกอยู่ในอันตราย” ไป๋ชิงหลิงตื่นตระหนก นางคว้าแขนอิงเหลียนอย่างควบคุมตนเองไม่ได้ “ข้าสูญเสียลูกไปแล้ว เจ้ายังอยากให้ลูกอีกคนของข้าขาดพ่ออีกหรือ ยามนี้เขาตกอยู่ในอันตราย เขาอยู่ท่ามกลางหิมะ ภายในทุ่งหิมะหนาทึบ ขาของเขาทนความหนาวไม่ได้ เจ้าต้องรีบพาเขากลับมาเดี๋ยวนี้”

“พระชายา!”

“หากเกิดอะไรขึ้นกับเขา ข้าจะฆ่าเจ้า” ไป๋ชิงหลิงกล่าวคำพูดที่รุนแรง ทั้งยังขู่เขา “จากนั้นก็เนรเทศทหารองครักษ์เหยี่ยวดำ ใต้หล้านี้จะไม่มีทหารองครักษ์เหยี่ยวดำอีกต่อไป”

“พระชายา ข้าน้อยไม่สามารถทิ้งท่านไปได้ แต่ข้าน้อยสามารถส่งคนอื่นไปตามหาท่านอ๋องได้” อิงเหลียนประนีประนอม

“ไม่ว่าเจ้าจะให้ผู้ใดไป เจ้าต้องพาท่านอ๋องกลับมาโดยเร็วที่สุด” ไป๋ชิงหลิงกล่าว

“พ่ะย่ะค่ะ” อิงเหลียนลุกขึ้นแล้วจากไป

แต่ไป๋ชิงหลิงไม่ได้หลับอีกเลย นางอยู่ในท่าเดิมจนถึงรุ่งสาง

ความเจ็บปวดของหรงเยี่ยในหิมะยังติดอยู่ในใจนาง

ที่สุดแล้วนางยังคงรู้สึกยากจะทานทน

“ท่านแม่ ฮือ...” ไป๋ชงเซิงเคาะประตูพร้อมเสียงร่ำไห้...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น