อู่หลานอวี้ก็หยุดร้องไห้แล้วเช่นกัน นางคุกเข่าต่อหน้าจักรพรรดิเหยาแล้วกล่าวว่า “ฝ่าบาท ดูเหมือนว่าจะมีเพียงให้ข้าน้อยตายไปเสียถึงจะสามารถปกปิดเรื่องอื้อฉาวนี้ได้ เพื่อไม่ให้องค์จักรพรรดิต้องทนทุกข์กับความอยุติธรรม ข้าผู้นี้สามารถไปรอท่านอยู่ในยมโลกก่อนได้ ถือเป็นการชดใช้ให้ฮองเฮา”
หลังจากพูดจบอู่หลานอวี้ก็สะดุดเท้าตนเอง นางกำลังจะล้มลงไปกอง
เมื่อเห็นภาพนี้จักรพรรดิเหยาก็ตัวสั่นอย่างรุนแรง พระองค์ลุกขึ้นทันที โอบอู่หลานอวี้จากด้านหลังแล้วพูดว่า “เรื่องนี้ขอข้าคิดดูก่อน”
“ฝ่าบาท…” อู่หลานอวี้มองเขาทั้งน้ำตา “ข้าน้อยไม่อาจอยู่ต่อได้ แม้ข้าน้อยจะสร้างสันติภาพกับเสิ่นชิงแล้ว แต่ข้าน้อย...จะทำให้องค์จักรพรรดิต้องอับอาย ดังนั้นท่านควรมอบความตายให้ข้าน้อยแล้ว”
จักรพรรดิเหยาลดสายตาลงมองหญิงงามในอ้อมแขน
อู่หลานอวี้กับอู่หานยู่ได้รับการสืบทอดจากสายเลือดเดียวกัน ทั้งคู่ล้วนเป็นสายเลือดขององค์หญิงใหญ่
ทั้งสองหน้าตาเหมือนกัน แต่ดวงตาของพวกนางนั้นเหมือนกันทุกประการในเวลาที่พวกนางร้องไห้
ในยามที่อู่หลานอวี้หันหน้ามา จักรพรรดิเหยาก็รู้สึกว่าเขาได้พบกับฮองเฮาอู่อีกครั้ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้ยินอู่หลานอวี้กล่าวว่านางได้สงบศึกกับเสิ่นชิงแล้วความรู้สึกแปลกๆ ก็ปรากฏขึ้นในใจเขา
เขาอยู่บนบัลลังก์มังกรมาเกือบยี่สิบปีแล้ว เขาจัดการกับสตรีมาแล้วทุกประเภท โดยธรรมชาติแล้วเขาย่อมไม่จัดการเรื่องนี้อย่างเบามือเพียงเพราะได้สบสายตาของอู่หลานอวี้
เขาบีบแก้มอู่หลานอวี้ทันที เขาถามด้วยสีหน้าเย็นชา “เหตุใดเจ้าถึงมาที่ห้องบรรทมของหานยู่”
อู่หลานอวี้สั่นสะท้าน นางน้ำตาไหลอีกครั้ง “ข้า...ข้าน้อยเข้าวัง... เพื่อมาเข้าเฝ้าองค์หญิงหลวนอี้ ขณะกำลังจะกลับจวน ข้าน้อยพบว่ากำไลที่เป็นสินเดิมที่ท่านยายของข้ามอบให้หล่นหายไป ข้าน้อยจึงกลับมายังตำหนักเฟิ่งหลวนเพื่อมองหากำไล”
นางยกมือซ้ายขึ้นด้วยแววตาที่มีความคับข้องใจ
จักรพรรดิเหยาขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้น พยายามอย่างหนักที่จะนึกถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นยามนี้ แต่สุดท้ายเขาก็จำอะไรไม่ได้เลย
เขารู้แค่ว่าเขาพบอู่หลานอวี้ในความฝันและมีความสัมพันธ์กับนาง
ทันใดนั้นจักรพรรดิเหยาก็รัดร่างของอู่หลานอวี้ไว้แน่น “ในเมื่อเจ้าอยากตาย ข้าจะเติมเต็มเจ้าเอง!”
หลังจากนั้นไม่นาน ข่าวที่ว่าอู่หลานอวี้ถูกประหารชีวิตเนื่องจากทำลายสิ่งอันเป็นที่รักของฮองเฮาเซี่ยวก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งหลวง ก่อนจะแพร่ไปทั่วทั้งเมืองหลวง
ไป๋ชิงหลิงได้ยินข่าวนี้หลังจากผ่านไปสองวัน
อย่างไรก็ตามนางไม่มีความรักต่อนางอู่มากนัก ดังนั้นนางจึงไม่ได้ใส่ใจกับสาเหตุการเสียชีวิตของอีกฝ่าย
แต่นางไม่คาดคิดว่า ‘ผู้หญิงที่ตายแล้ว’ คนนี้จะสร้างเงาดำมืดบนเส้นทางในอนาคตของหลวนอี๋...
ในช่วงกลางเดือนสิบเอ็ด เมืองหลวงก็หนาวถึงไขกระดูกแล้ว
ในขณะหลับไป๋ชิงหลิงฝันถึงหรงเยี่ย
เขานอนอยู่บนหิมะโดยใช้มือกุมเข่า กัดฟันคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด
เห็นได้ชัดว่าคนที่เจ็บปวดคือหรงเยี่ย แต่นางสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดจนหนาวสั่นถึงไขกระดูกที่หัวเข่าของหรงเยี่ย
รอบตัวเขาเต็มไปด้วยหิมะ ไม่มีที่ให้หลบภัย ทั้งยังไม่มีใครติดตามเขาไปด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...