ไป๋ชิงหลิงกลับมามีสติอีกครั้ง นางรีบลุกขึ้นไปเปิดประตู
ไป๋ชงเซิงกระโจมทั้งร่างเข้าไปในอ้อมแขนของนาง กอดนางไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง แล้วพูดพร้อมกับร้องไห้ว่า “ท่านแม่ ข้าฝันถึงจิ่งหลิน เขาบอกว่าเขาหนาวมาก ในสถานที่แห่งนั้นมีเพียงเขาที่อยู่ลำพัง เขาคิดถึงท่านแม่ คิดถึงท่านพ่อ เขาอยากกลับจวน ฮือฮือ...”
“ข้าก็คิดถึงเขาเช่นกัน คิดถึงเขามาก เราจะสามารถพาจิ่งหลินกลับจวนอ๋องได้หรือไม่ ให้เขานอนในโลงน้ำแข็งเหมือนเสด็จย่า แล้วเราจะได้อยู่กับเขาทุกวัน!”
“องค์หญิงน้อย” แม่นมซั่งเห็นว่าไป๋ชงเซิงไม่อยู่ในห้อง นางจึงรีบออกจากห้องข้างและทันได้ยินคำพูดของไป๋ชงเซิง
นางรีบเข้าไปนั่งย่อกายด้านหลังไป๋ชงเซิง วางมือบนไหล่แล้วพูดว่า “องค์หญิงน้อย ท่านจะพูดจาไร้สาระไม่ได้”
“ทำไมจะไม่ได้เล่า?” ไป๋ชงเซิงผลักแม่นมซั่งออกอย่างฉุนเฉียวแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบคมว่า “องค์จักรพรรดิทำได้ แล้วเหตุใดท่านแม่ถึงทำไม่ได้ ข้าอยากให้จิ่งหลินกลับมา เขาลำบากลำบนอยู่ที่นั่นเพียงลำพัง ไม่มีอาหาร ไม่มีเสื้อผ้า ใครๆ ต่างก็รังแกเขา ท่านแม่ เราไปหาจิ่งหลินกันเถอะนะ?”
ยามพูดมาถึงประโยคหลัง ไป๋ชงเซิงก็คว้าเสื้อผ้าของไป๋ชิงหลิงไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง นางร้องไห้จนน้ำตาไหลพรากแล้ว
ไป๋ชิงหลิงมองร่างคนที่อยู่ใต้ร่างนาง หัวใจนางบีบรัด
มีบางเรื่องที่องค์จักรพรรดิสามารถทำแต่ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะทำได้
ยิ่งไปกว่านั้นจิ่งหลินยังถูกฝังอยู่ในสุสานจักรพรรดิแล้ว ซึ่งเป็นการปฎิบัติที่ดีที่สุดสำหรับเขาแล้ว
“แม่นมซั่ง ข้าจัดการเอง” ไป๋ชิงหลิงนั่งยองๆ หันเข้าหาไป๋ชงเซิง แล้วกล่าวว่า “เซิงเอ๋อร์ ขอโทษแม่นมซั่ง”
“เหตุใดข้าต้องขอโทษนางด้วย ข้าไม่ชอบที่นี่ ท่านแม่ ข้าไม่ชอบที่นี่ ออกไปจากเมืองหลวงแล้วกลับหุบเขาเซียนไหลกันเถิด ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่” เมื่อไม่นานมานี้อารมณ์ไป๋ชงเซิงเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ นางสูญเสียความอดทนที่เคยมีเมื่อต้องรับมือกับข้ารับใช้ไป โดยเฉพาะกับแม่นมซั่ง
ทันทีที่แม่นมซั่งเข้ามา นางก็หนีทันที
การเสียชีวิตของหรงจิ่งหลินและการเสียชีวิตของฮองเฮาอู่ทำให้การรับรู้เรื่องครอบครัวของนางพลิกคว่ำ
มันทำให้ไป๋ชงเซิงรู้สึกว่าครอบครัวนี้ช่างเย็นชาและโหดเหี้ยม ตราบใดที่อำนาจของเจ้าแข็งแกร่งเพียงพอ เจ้าก็สามารถบดขยี้ใครจนตายก็ได้ตามใจชอบ
นี่เป็นผลให้นางรู้สึกเบื่อหน่ายวังหลวงและเมืองหลวงมาก
ไป๋ชิงหลิงรู้สึกเป็นทุกข์ แต่ก็โกรธเล็กน้อยกับพฤติกรรมของไป๋ชงเซิง
นางยืนขึ้น ตะโกนอย่างดุเดือด “เซิงเอ๋อร์!”
ไป๋ชงเซิงมองดูนางแล้วร่ำไห้
ไป๋ชิงหลิงพูดอย่างจริงจัง “ข้ารู้ว่าเจ้าคิดถึงจิ่งหลิน แต่แม่นมซั่งคิดเรื่องนี้มากกว่าที่เจ้าคิด นั่นคือเด็กที่นางเลี้ยงดูมาด้วยมือของนางเอง บอกว่าจากไปก็จากไปแล้ว ท่านจะผลักไสแม่นมซั่งเพียงเพราะเจ้าไม่มีความสุขได้อย่างไร วันยามปกติแม่สอนเจ้าไว้อย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นบ่าวรับใช้หรือคนที่สูงกว่าเจ้าก็ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีน้ำใจต่อคนรอบข้าง ถึงจะสามารถจัดการอนาคตของตนได้ดี เจ้าขอโทษแม่นมซั่งก่อน แล้วเรามาคุยเรื่องจิ่งหลินอีกครั้ง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...