“รับสั่งของไทเฮา?” ไป๋ชิงหลิงมองเขาด้วยความสงสัย
ไม่ใช่ว่านางคิดเอาเอง นางคิดว่าเสิ่นหรูเหลียนปฏิบัติกับนางพิเศษเกินไปจริง ๆ ในฐานะแม่ทัพผู้ไม่เห็นแก่ตัวที่ไม่เคยโกหกเจ้านายของตัวเอง การกระทำของเขามันชัดเจนเกินไป
นอกจากนี้ยังทำให้ไป๋ชิงหลิงรู้สึกอ่อนไหวเป็นพิเศษทุกครั้งที่นางเผชิญหน้ากับเสิ่นหรูเหลียน
นางหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพียงภาพลวงตาของนาง
นางไม่ต้องการความรักที่ผิดปกติและบิดเบี้ยวแบบนี้อีกแล้ว
“มีรับสั่งจากไทเฮาบ้างไหม?”
“ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นแม่ทัพเสิ่นโปรดกลับไปเถอะ” สีหน้าไป๋ชิงหลิงเย็นชา และไม่มองเขาแม้แต่น้อย
เสิ่นหรูเหลียนกำมือทั้งสองข้างแน่น หายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า : “ท่านลืมไปหรือ ท่านยังมีลูกอยู่อีกหนึ่งคน ร่างกายไม่สำคัญแล้วงั้นหรือ หรือว่าเตรียมปล่อยให้มันเป็นไปตามยถากรรม จากตรงนี้เดินไปถึงวัดเต๋อหลินจะต้องใช้เวลากี่วัน ท่านไม่ดิ่มเสวยอะไรมาสองวันแล้ว เมื่อถึงวัดเต๋อหลินแล้ว ท่านคงจะต้องคลานขึ้นไปจริง ๆ ”
“ข้ารู้” ไป๋ชิงหลิงหันกลับไปมองที่เขาทันที หลายวันมานี้ นางเหนื่อยมากจริง ๆ
แต่เมื่อเสิ่นหรูเหลียนกล่าวหานางเช่นนี้ ความคับข้องใจและความโศกเศร้าของนางก็พุ่งออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ และนางก็กัดริมฝีปากของนางแน่นเพื่อไม่ให้ระเบิดออกมา
“ขอบคุณแม่ทัพเสิ่นสำหรับความมีน้ำใจของเจ้า แต่ข้าคือพระชายาหรง และข้าไม่สามารถยอมรับความเมตตาของเจ้าได้ แม่ทัพโปรดกลับเข้ากองทัพเถอะ” ไป๋ชิงหลิงหันหน้าหนี
เสิ่นหรูเหลียนก้มหน้าลง ขึ้นหลังม้าด้วยความโกรธแล้วจ้องมองนางจากข้างบน “ท่านก็จัดการเองแล้วกันเถอะ”
“อืม!”ไป๋ชิงหลิงตอบ และเสิ่นหรูเหลียนก็เดินผ่านนางไปขึ้นหลังม้าด้วยความโกรธ
“เสียงเกือกม้า”กั๊บ กั๊บ กั๊บ” ค่อย ๆ จางหายไป และหายไปในที่สุด
ลี่ว์อีมองไปที่ทิศทางที่จากไปของเสิ่นหรูเหลียน และพูดด้วยความโกรธ “ทำไมแม่ทัพคนนี้ถึงนิสัยแย่ขนาดนี้นะ นี่เขาจะช่วยเหลือพระชายา หรือไม่ช่วย ยุ่งเรื่องคนอื่นสินะเขาหน่ะ”
“ลี่ว์อี เราไปกันเถอะ” ไป๋ชิงหลิงไม่ต้องการพูดถึงชายคนนี้มากเกินไป
นางไม่มีคิดอะไรเกี่ยวกับหญิงสาวออกเรือนที่ผู้ชายคนนี้รักเป็นผู้ใดอีก และนางก็ไม่สนใจแล้ว
ตราบใดที่นางหลีกเลี่ยงเขา ระหว่างพวกเขาก็จะไม่มีอารมณ์ใดมาบรรจบกัน
ไป๋ชิงหลิงยังคงเดินทางต่อไป
หรงเยี่ยที่ติดตามนางอย่างเงียบ ๆ ในความมืดได้เห็นทุกสิ่งเมื่อครู่นี้
แต่เขาไม่รู้สึกถึงอารมณ์ใด ๆ เลยนอกจากความทุกข์
เขารู้สึกเสียใจกับหญิงสาวที่โง่เขลาผู้นี้
เมื่อมองดูร่างที่ค่อย ๆ ไกลออกไปของไป๋ชิงหลิง หรงเยี่ยก็พึมพำกับตัวเองว่า “หญิงทึ่ม”
ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว
หลังจากที่ไป๋ชิงหลิงเดินไปหนึ่งวัน ในที่สุดก็เจอโรงน้ำชาที่พักผ่อนได้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...