นางไม่ใช้เพียงแค่พูดเท่านั้น แต่นางทำมันจริง ๆ
ตราบใดเป็นคนที่นางต้องการปกป้อง ไม่มีใครที่นางไม่สามารถปกป้องได้
สนมเอกหรงติดตามจักรพรรดิเหยามานานที่สุด และนางรู้โฉมหน้าที่แท้จริงของไทเฮา
นางมีข้อมือ นางมีกลยุทธ์ ไม่เช่นนั้นนางจะไม่สามารถบรรลุจนได้ตำแหน่งไทเฮานี้มาได้
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ไทเฮาเป็นผู้หญิงที่น่ากลัวที่สุดในวังหลัง……
ดังนั้น เมื่อไทเฮายืนอยู่ตรงหน้านาง และเตือนนาง จิตใจของสนมเอกหรงก็ว่างเปล่า !
ไทเฮาเตือนสนมเอกหรง นางหันไปด้านข้างแล้วมองจักรพรรดิเหยาด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม “หมอหลวงจ้าวบอกว่าเข่าของเจาเสวี่ยถูกตัดด้วยอาวุธมีคม และบางส่วนถูกแทงเข้าไปในกระดูก ระหว่างทางไปวัดเต๋อหลิน ขาขวาของนางถูกกับดักสัตว์ร้ายได้รับบาดเจ็บ และนางก็ติดเชื้อจากลมและความหนาวเย็น หัวใจของผู้คนทำจากเนื้อหนังไม่ใช่หิน ลูกที่นางให้กำเนิดนั้น เป็นลูกของลูกชายของเจ้า เป็นเลือดเนื้อของเจ้าและฉุ๋นฮองเฮา หากเจ้าปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างกรุณา ฉุ๋นฮองเฮาก็จะตายตาหลับ ไม่เช่นนั้น ถ้าข้าเป็นนาง ก็คงจะตายอย่างไม่สงบ!”
หลังจากพูดจบ ไทเฮาก็หันหลังกลับอย่างรวดเร็ว และออกจากหอซานไห่
ข้าไม่ต้องการได้ยินกลอุบายไร้สาระของจักรพรรดิเหยา และพระสนมเอกหรงหรือคำพูดเท็จเหล่านี้
นางเบื่อที่จะได้ยิน
จักรพรรดิเป็นคนดื้อรั้นมาก
หลังจากที่ไทเฮาจากไปแล้ว สนมเอกหรงก็มองดูจักรพรรดิเหยาด้วยใบหน้าซีดเซียวแล้วพูดว่า “ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำอะไรเลย หม่อมฉัน……”
“หุบปาก” จักรพรรดิเหยาคำราม ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว และพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าจะจัดการให้เจ้ากลับวังไปก่อน อย่าอยู่รบกวนความสงบสุขของไทเฮาที่นี่”
หลังจากพูดจบ จักรพรรดิเหยาก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไป
สนมเอกหรงนั่งข้างเตียงกำผ้าห่มแน่น จ้องไปที่ประตูอย่างกังวลใจและกัดฟันพูดว่า “ทำไมข้าถึงลืมนะ ตราบใดที่นางอยู่ที่นี่ ข้าไม่สามารถสนองความปรารถนาของข้าได้”
“เสด็จแม่!”หรงฉีมองไปที่สนมเอกหรงแล้วพูดว่า “ข้าจะให้จินเอ๋อร์ติดตามท่านกลับไปที่วัง และเรื่องที่เหลือปล่อยให้ลูกจัดการเอง ลูกผู้ซึ่งจะทำให้ความปรารถนาของท่านเป็นจริง!”
“ตกลง ถ้าอย่างนั้นเจ้าควรระมัดระวังในทุกเรื่อง โดยเฉพาะต้องระวัง……”สนมเอกหรงหรี่ตาลง และพูดคำออกมาสามคำอย่างชั่วร้าย “ไป๋ เจา เสวี่ย!”
เช้าวันรุ่งขึ้น สนมเอกหรงและพระชายาต้วนเดินออกจากวัดเต๋อหลินไปพร้อมกัน
ไทเฮาพาไป๋ชิงหลิงและไป๋ชงเซิงไปตามหาปรมาจารย์เพื่อขอพรให้กับจิ่งหลิน และท่องพระคัมภีร์
พวกเขาทั้งหมดอ่านพระคัมภีร์ในห้องสมาธิ เป็นเวลาสามวันติดต่อกัน
เมื่อถึงวันที่ห้า ไทเฮาเข็นนำรถเข็นไปที่ด้านหน้าของไป๋ชิงหลิง และพาไป๋ชิงหลิงและไป๋ชงเซิงไปที่สวนด้านหลังของวัดเต๋อหลิน
“เจาเสวี่ย ออกมาพักผ่อน เปลี่ยนสภาพแวดล้อม และไม่ต้องอยู่ในห้องทำสมาธิทั้งวัน มองดูดอกไม้และต้นไม้ภายนอก แล้วคิดถึงสิ่งสวยงาม ชีวิตนี้ยังมีหนทางอีกยาวไกล และจะไม่มีอุปสรรคเพียงหนึ่งเดียว เจ้าต้องหาทางเอาชนะอุปสรรคที่อยู่ตรงหน้า และมองไปข้างหน้า” ไทเฮายิ้มอย่างอ่อนโยนขณะเดิน
นางอยากโน้มนำอารมณ์ของไป๋ชิงหลิงมานานแล้ว
เพียงเห็นนางเศร้าและโศกเศร้าแบบเมื่อก่อน ไฮเฮาก็ทนไม่ได้ที่จะเปิดรอยแผลเป็นของนาง
ไป๋ชิงหลิงตอบว่า “เสด็จย่า ข้าคิดได้แล้ว ทุกวันนี้ในวัดเต๋อหลิน อารมณ์ของข้าสงบขึ้นมาก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...