“พระชายาหรง พระชายาหรง…” หมอหลวงจ้าวเรียกหลายต่อหลายครั้ง จากนั้น ไป๋ชิงหลิงก็กลับมามีสติขึ้นมาอีกครั้ง และดึงมือของเธอออกจากร่างของหรงฉี่แล้วพูดว่า: “สภาพแวดล้อมที่นี่ไม่ค่อยจะดี หม่อมฉันต้องทำการผ่าตัดฉุกเฉินให้กับท่านอ๋องต้วน แต่ว่า...”
“แต่ว่าอะไร?” จักรพรรดิเหยาถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ
ไป๋ชิงหลิงกล่าวว่า: “ฝ่าบาทโปรดเตรียมตัวให้พร้อม ท่านอ๋องต้วนได้รับบาดเจ็บที่พระหทัย หลอดเลือดโดยรอบส่วนใหญ่ถูกตัดขาด ทำให้เลือดไหลเข้าสู่หัวใจลำบาก ในระหว่างการผ่าตัด ท่านอ๋องต้วนมีโอกาสมากที่จะสิ้นพระชนม์ได้เพคะ
“ข้าไม่อนุญาตให้เขาตาย เขาเป็นลูกของข้าและพรสนมเอกหรง พระสนมเอกหรงมีลูกเพียงคนเดียว ถ้าเขาตายนางจะต้องเป็นบ้า ข้าอยากให้เจ้าช่วยเขาให้ได้ ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าเจ้าเสีย” " หลังจากที่จักรพรรดิเหยาพูดจบ เขาก็อุ้มหรงฉี่ขึ้นมา มองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยควมคับแค้นใจ และรีบอุ้มเขาออกจากวิหารทองคำไป
ทหารเกราะเงินและราชองครักษ์คอยคุ้มกันจักรพรรดิเหยาตลอดทางกลับไปที่ตำนัก
จักรพรรดิเหยาเจอตำนักที่ใกล้ที่สุด เขาวางหรงฉี่บนเตียงแล้วพูดว่า: “ช่วยเขา หากไม่สามารถช่วยอ๋องต้วนได้ ข้าจะให้พวกเจ้าทุกคนถูกฝังไปพร้อมกับเขา”
หมอหลวงกลั้นหายใจไปตามๆกันและไม่กล้าพูดอะไรแม้แต่น้อย
ไป๋ชิงหลิงพูด "เสด็จพ่อ ท่านออกไปก่อนเถอะ"
“ข้าอยากอยู่ที่นี่และเฝ้าดูเจ้า ข้ารู้ว่าเจ้ามีความแค้นกับจวนอ๋องต้วน” จักรพรรดิเหยาพูดอย่างดุเดือด จากนั้นสบัดแขนเสื้อแล้วหันกลับไปนั่งบนเก้าอี้นวม
ไป๋ชิงหลิงมีใบหน้าบูดบึ้งและไม่สนใจจักรพรรดิเหยา แต่เธอออกคำสั่งอย่างเป็นระเบียบ: “หมอหลวงจ้าวและหมอหลวงหลี่อยู่ที่นี่ ลี่ว์อี เตรียมเสื้อผ้าเร็วเข้า หมอหญิงและหมอหลวงให้รออยู่ข้างนอก ข้าอาจเรียกพวกท่านได้ตลอดเวลา”
"พะยะค่ะ" หมอหลวงและหมอหญิงหลายคนรีบออกจากห้องไป
ไป๋ชิงหลิงกับหมอหลวงทั้งสอง พร้อมทั้งลี่ว์อีต่างสวมเสื้อผ้าปลอดเชื้อ
สภาพห้องยังปลอดเชื้อไม่เพียงพอ และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงมาก ไป๋ชิงหลิงจึงขอให้ลี่ว์อีแจกจ่ายยา และขอให้หมอหญิงที่อยู่ข้างนอกฆ่าเชื้อทุกมุมห้อง
อ๋องต้วนอยู่ในอาการสาหัส และจักรพรรดิเหยาก็ผูกชีวิตของเธอไว้กับอ๋องต้วน ดังนั้นเธอจึงไม่มีความคิดอื่นใดอีก
วันนี้เธอต้องช่วยชีวิตหรงฉี่
สำหรับเครื่องมือที่จำเป็น เธอทำได้เพียงใส่ไว้ในกล่องยา จากนั้นนำท่อเครื่องมือออกจากกล่องยาแล้วสอดเข้าไปในร่างกายของอ๋องต้วน
หมอหลวงจ้าวมองไปที่กล่องยาของไป๋ชิงหลิงด้วยความตกใจ เขารู้สึกเสมอว่ากล่องยาของไป๋ชิงหลิงสามารถดึงสิ่งต่างๆออกมาได้มากมาย
หมอหลวงหลี่ต่างจากหมอหลวงจ้าว เพาะเขามักจะเข้าร่วมในการผ่าตัดของไป๋ชิงหลิง เมื่อเขาเห็นเทคนิคการผ่าตัดของไป๋ชิงหลิง เขาก็ชื่นชมมันอย่างมาก
การผ่าตัดครั้งนี้ยากมาก หากมือสั่น เธออาจทำลายหลอดเลือดบริเวณใกล้เคียงและต้องเย็บหลอดเลือดที่เปราะบางเหล่านี้
“อ๋องต้วน ความดันโลหิตของท่านลดลงเรื่อยๆ” ลี่ว์อีกล่าว
การเคลื่อนไหวของไป๋ชิงหลิงมั่นคงและมือของเธอเร็วขึ้น
“ให้เลือดกับท่านอ๋องต้วน” เขาเสียเลือดมากจนท่านอ๋องต้วนตกอยู่ในภาวะช็อกแล้ว
หมอหลวงจ้าวและหมอหลวงหลี่ช่วยกันทำการช่วยชีวิต
ในการผ่าตัดทั้งหมด พวกเขาใช้เวลาทั้งวันทั้งคืน
เมื่อไป๋ชิงหลิงออกมาจากด้านหลังม่าน เท้าของเธอก็ได้รับความเจ็บปวดอย่างหนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...