เมื่อไป๋ชิงหลิงมองดูใบหน้าที่ได้ใจนั้นของเขา ในใจอยากจะฉีกเขาออกจากกัน แต่นางก็ยังอดกลั้นไว้
ตอนนี้หลงฉีได้แสดงไพ่เด็ดนี้แล้ว เขาไม่อยากให้นางเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีกระดูกอีกอย่างแน่นอน และเขาอาจจะยังมีข้อเรียกร้องอื่นด้วย
“เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไร?” ไป๋ชิงหลิงกำหมัดแน่น กัดฟันถาม
เสียงหัวเราะของหรงฉีค่อย ๆ ลดลงและพูดว่า : “ช่วยท่านตาของข้า”
“เป็นไปไม่ได้” ไป๋ชิงหลิงปฎิเสธเขาโดยตรง “หลักฐานเป็นที่แน่ชัด ท่านตาของเจ้าไม่มีทางที่จะรอดพ้นจากอาชญากรรมนี้ ยิ่งไปกว่านั้นประชาชนก็อยู่ตรงนั้นด้วย แม้ว่าข้าจะโน้มน้าวเสด็จพ่อได้ แต่ข้าก็ไม่สามารถหยุดเสียงนินทาได้ ยิ่งไปกว่านั้นข้าจะสรุปได้อย่างไรว่าลูกชายของข้าอยู่กับเจ้า โดยอาศัยคำพูดข้างเดียวของเจ้า หรงฉี เจ้าเป็นคนเจ้าเล่ห์มาก ข้าไม่มีทางเชื่อเจ้า”
หลังจากพูดจบ ไป๋ชิงหลิงก็หันหน้าหนี ระงับอารมณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้เมื่อครู่ และสงบสติอารมณ์ตัวเองลง
ใช่ เมื่อครู่นางหุนหันพลันแล่นจนเกินไป และทำให้ตัวเองดูอ่อนแอลง แม้ว่าจิ่งหลิงยังมีชีวิตอยู่ นางก็ต้องสงบสติอารมณ์ และอย่าปล่อยให้คนชั่วร้ายมาก่อกวน
หรงฉีมองไปที่ใบหน้าที่เย็นชาของนาง แล้วดุนางด้วยเสียงต่ำ “วันนั้นหมอเทวดาซูทำการถ่ายเลือดให้ลูกชายของเจ้า และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ข้าเป็นคนสุดท้ายที่เข้าไปถ่ายเลือดให้หลานชายตัวน้อย คนของข้าพบเด็กที่คล้ายกับลูกชายของเจ้า และสลับลูกชายของเจ้าออกมาจากในพระราชวัง ตอนนี้เด็กที่ถูกฝังอยู่ในสุสานจักรพรรดิ ไม่ใช่หลานชายตัวน้อยของข้า แต่เป็นตัวแทน”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ดวงตาของหรงฉีก็จ้องมองไปที่มือของไป๋ชิงหลิงที่กำลังกำเสื้อผ้าอยู่ และริมฝีปากบางของเขาก็ยกขึ้น “ไป๋ชิงหลิง เจ้ายอมรับเถอะว่า ตอนนี้เจ้าต้องการฆ่าข้า ทำไมเจ้าถึงแสร้งทำเป็นสงบล่ะ ถ้าข้าตาย ลูกชายของเจ้าก็จะไม่มีวันรอด”
“เจ้า……”
“เจ้าสามารถกลับไปบอกน้องเจ็ดของข้าได้ แต่เขาต้องคิดให้รอบคอบ ตอนนี้ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำของเขาถูกห้ามไม่ให้เข้าเมืองหลวง ดังนั้นอย่าเพียงเพราะหลายชายของข้าคนนั้นทำอะไรโง่ ๆ ถ้าเสด็จพ่อรู้ว่าทหารองครักษ์เหยี่ยวดำของเขาแอบเข้ามาในเมืองหลวง ยากที่จะบอกว่าเสด็จพ่อจะไม่คิดมาก!”รอยยิ้มของหรงฉี ค่อย ๆ กว้างขึ้นอีกครั้ง และเขาพูดด้วยอารมณ์ที่มีความสุขมาก
“เอาล่ะ เช่นนั้นเจ้าก็ไปรับผิดแทนข้า ข้าได้คิดหาเหตุผลที่ดีให้เจ้าแล้ว เจ้าแค่บอกเสด็จพ่อว่าเจ้าคือไป๋ชิงหลิง เหตุผลที่เจ้าทำเช่นนี้ ก็เพราะเจ้าต้องการแก้แค้นข้า แก้แค้นราชวงศ์ และแก้แค้นให้ทุกคน ดังนั้นเจ้าจึงรวมตัวกับคนที่ถูกเนรเทศของแคว้นฉี ขายเด็กทารก ลักพาตัวหนุ่มสาวแม้กระทั่งสังหารสตรีมีครรภ์ ทั้งหมดนี้ล้วนทำโดยเจ้าและรัชทายาทหยางไคที่ถูกเนรเทศ เจ้าสร้างหลักฐานทุกประเภทเพื่อชี้ไปที่ท่านตาของข้า จากนั้นเจ้าก็จะสามารถดึงพวกเราทั้งหมดออกมาได้ และเมื่อเจ้าไปที่ลานประหาร ลูกชายของเจ้าก็จะกลับมา……”
“หรง ฉี!” เมื่อไป๋ชิงหลิงเรียกชื่อของเขา เสียงของนางก็สั่นเทา “เจ้าเป็นคนฆ่าคนเหล่านั้น”
“เราทุกคนมาไกลถึงขนาดนี้แล้ว ข้าบอกความจริงแก่เจ้าแล้วกัน!”ดวงตาทั้งสองของหรงฉีเบิกกว้าง และพูดทีละคำ “ข้า เป็น คน ทำ ทั้ง หมด นี้ ”
“เป็นอย่างไรบ้าง เจ้าจำสิ่งที่ข้าพูดเมื่อกี้ได้หรือไม่?” หรงฉีถามอีกครั้ง
ไป๋ชิงหลิงหันกลับมาทันที ขมวดคิ้วอย่างดุเดือดและพูดว่า “เจ้าอยากให้ข้ารับผิดแทนเจ้า”
หลังจากพูดจบ ไป๋ชิงหลิงก็ก้าวไปข้างหน้า
ก่อนที่นางจะเปิดประตูเสียงหัวเราะอย่างภาคภูมิใจของหรงฉีดังมาจากข้างหลัง “ไม่เป็นไร หากข้าตาย ยังมีลูกชายของเจ้าเป็นแพะรับบาป ”
“ปัง!” ไป๋ชิงหลิงเปิดประตูห้อง เดินออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นปิดประตูอย่างแรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...