หลังจากที่ไป๋ชิงหลิงจากไปแล้ว ทันใดนั้นเสิ่นโหรวเม่ยก็เดินออกมาจากมุมสวนด้านหลัง และมองไปที่ด้านหลังของไป๋ชิงหลิง เมื่อไป๋ชิงหลิงหายไปแล้ว นางก็หันไปมองชายที่ยืนอยู่ในทะเลดอกไม้
หัวใจที่ตายไปแล้ว ก็ฟื้นขึ้นมาทันที
นางได้ยินที่ไป๋ชิงหลิงและหรงเยี่ยพูดเมื่อครู่อย่างชัดเจน
ไป๋ชิงหลิงต้องการหย่าร้างกับหรงเยี่ย และหรงเยี่ยตอบตกลงแล้ว นั่นหมายความว่า…… นางและหรงเยี่ยสามารถเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้ง
ตราบใดที่นางขอให้อ๋องเฉินหย่ากับนาง นางก็หันกลับและไปที่จวนของอ๋องหรง เพื่อเป็นพระชายาหรงได้ !
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หัวใจขอ เสิ่นโหรวเม่ยก็เต้นเร็วมาก
ในเวลานี้มีเสียงดังมาจากข้างใน และความคิดของเสิ่นโหรวเม่ยก็กลับมาทันที และนางก็มองไปที่หรงเยี่ย
เห็นเขาชกหมัดกับพื้น ทรายและก้อนหินก็ลอยขึ้นมาจากพื้น
เสิ่นโหรวเม่ยรู้สึกเป็นทุกข์มาก นางคิดว่าตอนนี้เป็นโอกาสที่ดี
ดังนั้น นางจึงเดินอ้อมไปที่ประตูและหน้าต่างตรงหน้านาง เดินตามหลังหรงเยี่ย และเรียกเบา ๆ ว่า “หรงเยี่ย!”
หรงเยี่ยตัวแข็งตัวทื่อ และทันใดนั้นเขาก็หันศีรษะไปมองข้างหลัง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยเจตนาฆ่า และเมื่อเขามองไปที่เสิ่นโหรวเม่ย เขาก็เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า
เสิ่นโหรวเม่ยตกใจกับท่าทางของหรงเยี่ยเช่นนี้ แต่นางไม่ใช่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่กลัวหรงเยี่ยอีกต่อไป หากนางต้องการให้ความฝันของตัวเองเป็นจริง นางต้องก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ
ตราบใดที่นางชนะใจชายคนนี้คืนกลับมา นางก็ยังไม่แพ้
นางวิ่งไป คุกเข่าลง จับหน้าหรงเยี่ยด้วยมือทั้งสองข้างแล้วพูดว่า “ถ้าเจ้าเศร้าก็บอกข้า ข้าได้ยินมาหมดแล้ว นางไม่ต้องการท่านเป็นตัวนางที่สูญเสีย ท่านยังมีข้า หรงเยี่ย ข้ารอท่านอยู่เสมอ”
“ไปให้พ้น!” เขาปัดมือของเสิ่นโหรวเม่ยออกไป ลุกขึ้นยืนและชี้ดาบไปที่นาง “เสิ่นโหรวเม่ย เจ้าอยากตายใช่หรือไม่ แต่งงานกับน้องแปดของข้ายังมีผู้ชายอื่นอยู่ในใจอีก”
“อ๊ะ……” เมื่อเห็นดาบคม ๆ ในมือของเขา เสิ่นโหรวเม่ยก็ผงะไป นางล้มลงกับพื้นอย่างแรงกรีดร้องและพูดว่า “หรงเยี่ย คนอื่นไม่รู้ว่าข้าแต่งงานกับจวนของอ๋องเฉินได้อย่างไร หรือว่าท่านยังไม่รู้หรือ ว่าคืนนั้นข้าถูกอ๋องเฉินบังคับ แม้ว่าตอนนี้ท่านต้องการฆ่าข้า ข้าก็จะบอกท่านว่า ข้าไม่เคยลืมท่านเลย ไม่เคย!”
“อ๊ะ……”
หลังจากที่เสิ่นโรวเม่ยพูดจบ หรงเยี่ยก็แทงเสิ่นโหรวเม่ยด้วยดาบของเขา
เสิ่นโหรวเม่ย กรีดร้องอีกครั้ง ซึ่งดึงดูดอ๋องเฉินที่ตามหานางทุกที่ และฉากที่หรงเยี่ยกแทงเสิ่นโหรวเม่ย ก็ทำให้อ๋องเฉินพุ่งเข้ามาชน
ทันใดนั้นอ๋องเฉินก็ตะโกน “พี่เจ็ด ช้าก่อน”
เขารีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว มือทั้งสองข้างจับแขนของหรงเยี่ย และตะโกนด้วยความโกรธ “พี่เจ็ด ท่านจะทำอะไร เป็นนางเป็นพระชายาของข้า”
“ไอ้คนงี่เง่า” หรงเยี่ยขมวดคิ้วจ้องมองที่หรงเฉิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...