ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 52

องครักษ์ที่อยู่โดยรอบต่างพากันหลบหลีก

พระสนมเอกหรงและหรงฉี่ต่างรู้สึกตกใจอย่างมาก

"เจ้าต้องการจะตบจะตีก็มาลงที่ข้า อย่าทำอะไรเสด็จแม่ของข้า เสด็จย่าล้มป่วยลงเพราะข้า ข้ายอมรับการลงโทษจากเจ้า" หรงฉี่ยืดอกและผลักพระสนมเอกหรงออกไปอีกครั้ง

พระสนมเอกหรงไม่ยอมและกอดหรงฉี่แน่นด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอนและหวาดกลัว "เขาต้องตีเจ้าจนตายอย่างแน่นอน เจ้าอย่าได้ใจร้อนวู่วามไป"

"ฮึ ลงโทษพวกเจ้า ช่างสกปรกแปดเปรื้อนมือของข้าเสียจริง" หรงเยี่ยแกว่งแส้ในมือและรีบเก็บกลับ "เจ้านำตัวไป๋เจาเสวี่ยไปกักขังไว้ที่ใด?"

"ไป๋......ไป๋เจาเสวี่ย" พระสนมเอกหรงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง

ท่านอ๋องหรงต้องการระบายความโกรธแค้นไปที่ไป๋เจาเสวี่ย!

เช่นนั้นนับเป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว นางจะได้ไม่ต้องเป็นคนลงมือเอง

หากไป๋เจาเสวี่ยตาย นางจะสั่งได้สั่งให้ฉี่เอ๋อร์หย่าร้างกับไป๋จิ่นที่โง่เขลานั่น

จากนั้นค่อยทำการคัดเลือกหญิงสาวผู้สูงศักดิ์และโดดเด่นจากบ้านเมืองมาจำนวนหนึ่ง เพื่อแต่งตั้งเป็นพระชายาและพระชายารองของฉี่เอ๋อร์ จากนั้นฉี่เอ๋อร์จะได้กลับมาเป็นที่สนใจและเป็นที่โปรดปรานของฝ่าบาทอีกครั้ง

ทั้งหมดนี้ยังสามารถแก้ไขใหม่ได้

"แม่นมกวน รีบไปนำตัวไป๋เจาเสวี่ยมาเดี๋ยวนี้"

แม่นมกวนโค้งคำนับและตอบรับ "เพคะ"

จากนั้นจึงรีบออกไป

หรงเยี่ยเหลือบมองทางที่แม่นมกวนเดินออกไป จากนั้นจึงหันหลังกลับและเดินตามออกไป

มีห้องมืดห้องหนึ่งอยู่ด้านหลังของตำหนักลี่อี๋ ภายในเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดอันคละคลุ้ง

ไป๋ชิงหลิงอยู่ข้างในเพียงครึ่งชั่วยามก็รู้สึกไม่สบายตัว

ในห้องนั้นไม่มีอะไรเลย แต่กลิ่นคาวเลือดนั้นกลับฟุ้งกระจายในอากาศ ราวกับเป็นกลิ่นคาวเลือดของซากศพที่กองกันนับไม่ถ้วน

ขณะนี้ ได้มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากภายนอก

ไป๋ชิงหลิงตื่นตัวและระมัดระวังตัวขึ้นทันที จากนั้นได้หยิบมีดผ่าตัดด้ามหนึ่งออกมาจากห้วงมิติเวลา และยืนอยู่ข้างประตู

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น