เหตุใดถึงชั่วร้ายได้เช่นนี้
"ท่านช่างชั่วร้ายเสียเหลือเกิน" ไป๋ชิงหลิงโมโหจนด่าทอออกมา "ท่านก็มีลูก แต่กลับมักพูดจาข่มขู่เอาชีวิตของข้า ท่านเคยนึกถึงลูกของข้าบ้างหรือไม่"
"หยุดนำเด็กมาพูดให้เห็นอกเห็นใจ" หรงเยี่ยหยุดชะงัก และเหวี่ยงนางไปข้างหน้าอย่างแรง
ไทเฮาประชวรหนัก อารมณ์ดีที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดก็ได้หายไป จึงไม่มีความอดทนต่อไป๋ชิงหลิงเหมือนแต่ก่อน
คำพูดของเขาแต่ละคำเหมือนกับมีดที่ทิ่มแทง "หากเจ้าทำเพื่อเด็กคนนั้นจริง ก็คงไม่บอกให้นางไปขอความช่วยเหลือจากข้าที่จวน เจ้ารักและเอ็นดูนางตรงไหน เจ้าตายไปคงดีเสียกว่า จิ่งหลินจะได้มีเพื่อนเพิ่มอีกคน"
"ท่าน......" ไป๋ชิงหลิงโกรธจนตัวสั่น
นางบอกให้เซิงเอ๋อร์ไปจวนท่านอ๋องเพื่อขอความช่วยเหลือจากเขาตั้งแต่เมื่อไร
เหตุใดนางถึงไม่ทำเพื่อลูก
นางรักเซิงเอ๋อร์มาก จะปล่อยให้นางไปขอความช่วยเหลือจากผู้ชายเย็นชาไร้ความปรานีอย่างเขาได้อย่างไร
นางทั้งโกรธทั้งโมโห จากนั้นสะบัดแขนของเขาออกอย่างแรงและถอยหลังไปหลายก้าว จากนั้นกล่าวออกมาอย่างรุนแรง "ข้าไม่เคย ข้าไม่เคยบอกให้เซิงเอ๋อร์ไปขอความช่วยเหลือที่จวนของท่าน ท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่ท่านอย่าแตะต้องลูกของข้า หากทำให้ข้าโมโห......ข้าจะตามจองล้างจองผลาญท่านไปตลอดอย่างแน่นอน"
หรงเยี่ยขมวดคิ้ว และก้าวไปหานาง
ไป๋ชิงหลิงรีบหันหลังกลับและวิ่งหนี......
องค์รัฐทายาทถูกยิงด้วยลูกธนู หากเกี่ยวข้องกับนาง เช่นนั้นอาการประชวรของไทเฮา......ก็ไม่ควรโยนความรับผิดชอบมาที่นาง
นางยอมรักษาอาการประชวรของไทเฮา แต่นางไม่อาจยอมรับได้ที่จะเอาชีวิตของนางไปแลกกับชีวิตของไทเฮา
ทว่านางเพิ่งวิ่งหนีออกไปได้เพียงสองก้าว แขนขนาดใหญ่ก็ได้โอบรอบเอวอันเพรียวบางของนางไว้ และหลังของนางก็ได้กระแทกเข้ากับแผ่นอกกันบึกบึนของเขาอย่างแรง
ไป๋ชิงหลิงกรีดร้อง "อ๊า......อย่าแตะต้องตัวข้า หากท่านต้องการฆ่าข้า เช่นนั้นก็ฆ่าข้าให้ตายตอนนี้เลย"
"หุบปาก" หรงเยี่ยตำหนิด้วยเสียงต่ำ
เขาจับไปที่ไหล่ของนางและค่อยๆ ประคองเพื่อให้นางหันกลับมา เพื่อต้องการให้นางสงบสติอารมณ์
แต่ขณะที่ไป๋ชิงหลิงกำลังหันมานั้น นางได้คว้าข้อมือของเขาและกัดไปที่นิ้วชี้ของเขา
หรงเยี่ยขมวดคิ้วและหรี่ตาลงเพื่อจ้องมองผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา
ผ้าที่ปกคลุมใบหน้าของนางนั้นหลุดออกไปนานแล้ว ผิวหน้าที่ขาวใสของนางแดงก่ำและในแววตาของนางก็มีหยดน้ำตาไหลออกมา
เขาไม่ได้ผลักนางออกและปล่อยให้นางกัดนิ้วของเขาเช่นนั้น จนกระทั่งมีเลือดไหลออกมา จากนั้นไป๋ชิงหลิงจึงปล่อย
"พอหรือยัง?" หรงเยี่ยถาม
ไป๋ชิงหลิงจ้องมองนิ้วที่บวมแดงของเขา และก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาทันที
"ข้าสามารถช่วยไทเฮา แต่ข้าไม่อาจเอาชีวิตของข้าไปแลกกับชีวิตของไทเฮา บนโลกนี้ไม่มีชีวิตของใครมีค่าหรือไร้ค่า ชีวิตของข้าก็มีคุณค่า และท่านห้ามเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของข้าต่อหน้าฝ่าบาท ส่วนจะทำอย่างไรให้ฝ่าบาทเชื่อมั่นในตัวข้านั้น นั่นเป็นเรื่องของท่าน" ไป๋ชิงหลิงสวมผ้าคลุมใบหน้าและกล่าวอย่างเย็นชา
หรงเยี่ยหรี่ตาลงและจ้องมองนาง
เขาค้นพบว่าผู้หญิงคนนี้มีความกล้าหาญไม่ธรรมดาทีเดียว
พระชายาต้วน จากนั้นท่านอ๋องต้วน จากนั้นก็เป็นพระสนมเอกหรง......และตอนนี้นางกลับไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา
เขาเอื้อมมือออกไปจับมือนาง แต่ไป๋ชิงหลิงได้เตรียมป้องกันไว้ก่อนแล้ว และผลักเขาออกไปอย่างเร็วด้วยสีหน้าเย็นชา "ข้าเดินเองได้"
นางหันหลังกลับและเตรียมเดินออกไป แต่ใครจะไปรู้ว่าวินาทีต่อมาจะถูกเขาอุ้มขึ้นบ่า
นางถอนหายใจและกล่าวตำหนิ "หรงเยี่ย ท่านอย่าทำเกินไปนะ ปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้......"
หรงเยี่ยรู้สึกว่าการเดินไปนั้นช้าเหลือเกิน เขาจึงอุ้มนางขึ้นบ่าและใช้วิชาตัวเบาเพื่อเหาะไป
ขณะที่ลงสู่พื้นดิน สีหน้าของไป๋ชิงหลิงซีดเผือด จากนั้นเอามือดันที่แผ่นอกของเขาเพื่อจะอาเจียนออกมา
หรงเยี่ยรีบหมุนตัวนางไปข้างหลังและใช้มือข้างหนึ่งจับแขนนางไว้ จากนั้นกดศีรษะของนาง "อาเจียนออกมา!"
"อ้วก......"
ไป๋ชิงหลิงอาเจียนออกมาอย่างหนักหน่วง หลังจากที่นางอาการดีขึ้นแล้ว นางก็ได้เห็นใบหน้าที่ขุ่นเคือง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น