ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 54

นั่นก็คือท่านอ๋องต้วน

เขากำลังคุกเข่าอยู่ต่อหน้านาง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยอาหารที่นางอาเจียนออกมาเมื่อครู่ เสื้อผ้าของเขาสกปรกเลอะเทอะไปหมด

หรงฉี่ทำให้นางตกใจอย่างมาก จากนั้นนางจึงรีบถอยหลังออกไป แต่กลับพุ่งเข้าไปที่อ้อมแขนของหรงเยี่ยอย่างจัง

และผู้ชายที่อยู่ข้างหลังก็ได้คว้ามือของนางไว้ และพานางเดินเข้าไปในตำหนักฮุ่ยหนิง

เมื่อกำลังจะเดินไปถึงห้องบรรทม หรงเยี่ยก็ได้ปล่อยมือของนาง

ไป๋ชิงหลิงดึงสติและเดินตามหลังเขาเข้าไป

บรรดาหมอหลวงต่างพากันเหลือบมองหรงเยี่ยก่อน จากนั้นได้หันไปมองผู้หญิงที่เดินตามหลังหรงเยี่ยเข้ามา

หมอหลวงจ้าว หมอหลวงหลี่และหมอหลวงจางที่เคยได้พบเจอกับไป๋ชิงหลิงมาก่อน ต่างพากันทำสีหน้าตกตะลึง

และพระสนมเอกหรงที่กำลังคุกเข่าอยู่กลับรู้สึกมีความสุขท่ามกลางความโชคร้ายของผู้อื่น

นางคิดว่าการที่ท่านอ๋องหรงจงใจเรียกไป๋ชิงหลิงมา เพราะต้องการกำจัดไป๋ชิงหลิง และไป๋ชิงหลิงจะต้องตายอย่างแน่นอน

ดังนั้นจึงทำให้นางรู้สึกมีความสุขขึ้นมาในใจ

หลังจากที่ไป๋ชิงหลิงตายไปแล้ว นางจะเอาแส้ฟาดศพของนางจนเละ และสับเนื้อของนางให้ละเอียด จากนั้นนำไปให้สุนัขรับประทาน เพื่อให้นางตายอย่างไร้ศพ

"องค์ชายเจ็ด เกิดอะไรขึ้น?" จักรพรรดิเหยาขมวดคิ้ว และน้ำเสียงของพระองค์ทรงพลังอย่างมาก

ดวงตาที่คมกริบจับจ้องไปที่ไป๋ชิงหลิง และจู่ๆ ภาพเงาของไป๋ชิงหลิงและไป๋จิ่นก็ปรากฏทับซ้อนกัน

บริเวณใบหน้าของไป๋จิ่นเคยได้รับบาดเจ็บ ทำให้ต้องสวมผ้าคลุมใบหน้าเมื่อออกไปข้างนอก และรวมไปถึงรูปร่างของไป๋ชิงหลิงและไป๋จิ่นเหมือนกัน ทำให้จักรพรรดิเหยาคิดว่านางคือไป๋จิ่นในแวบแรก

แต่เมื่อไป๋ชิงหลิงเดินเข้าไปใกล้ จักรพรรดิเหยาก็รู้ได้ว่านางไม่ใช่พระชายาต้วน

หรงเยี่ยเดินเข้าไปหยุดลงตรงหน้าของจักรพรรดิเหยาและกล่าวว่า "ให้นางลองดูพ่ะย่ะค่ะ"

บรรดาหมอหลวงต่างพากันตกตะลึง

ไม่มีใครรู้ว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ คือหมอหญิงที่เคยดึงลูกธนูให้หรงจิ่งหลิน

หลังจากที่ไป๋ชิงหลิงกลับออกจากจวนท่านอ๋อง หรงเยี่ยได้ปิดข่าวคราวที่นางได้ทำการรักษาอาการบาดเจ็บของหรงจิ่งหลินจนหายดี ฉะนั้นนอกจากหมอหลวงจำนวนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นแล้ว คนอื่นรวมไปถึงจักรพรรดิก็ไม่มีใครรู้ความจริงที่เกิดขึ้น

และตอนนี้ หรงเยี่ยได้กล่าวขึ้นมาว่า "ให้นางลองดู" หมอหลวงที่อยู่ในที่นี้จึงรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เหลวไหลสิ้นดี

ไป๋ชิงหลิงเดินไปข้างหน้าและคุกเข่าลงเพื่อคำนับอย่างนอบน้อม "ข้าน้อยไป๋ชิงหลิงคารวะฝ่าบาทเพคะ ขอฝ่าบาททรงอายุยืนนานหมื่นปี หมื่นหมื่นปีเพคะ"

จักรพรรดิเหยาหรี่ตาลงและจ้องมองดูผู้หญิงที่กำลังคุกเข่าตรงหน้า แววตาของเขาเต็มไปด้วยความลึกลับซับซ้อน ความทรงพลังน่าเกรงขามของจักรพรรดิได้สาดสะท้อนไปยังไป๋ชิงหลิง

จักรพรรดิเหลือบมองนางอีกครั้ง และคิ้วของพระองค์ได้ขมวดลง "เจ้าคือไป๋เจาเสวี่ย!"

"ข้าน้อยคือไป๋เจาเสวี่ยเพคะ!" ไป๋ชิงหลิงฟังน้ำเสียงของพระองค์ออก จักรพรรดิเหยารู้เรื่องของพระชายาต้วน และรู้ชื่อเสียงเรียงนามของนางเช่นกัน

และ......เมื่อสักครู่ที่นางบอกแนะนำตัวออกไป จักรพรรดิเหยาได้ทรงสนพระทัยอยู่ไม่น้อย

พระสนมเอกหรงต้องการให้จักรพรรดิเหยาลงโทษนาง จึงรีบกล่าวขึ้นมา "ฝ่าบาทเพคะ เพราะว่านางไม่ยอมรับการประนีประนอมจากหม่อมฉัน จึงทำให้ฉี่เอ๋อร์มาหาไทเฮาที่ตำหนักฮุ่ยหนิงที่นี่ และทำให้ไทเฮาโกรธจนประชวรหนักเพคะ"

ไป๋ชิงหลิงเงยหน้าขึ้นและมองไปที่พระสนมเอกหรงด้วยสายตาที่เย็นชา

พระสนมเอกหรงทำสีหน้าตื่นตระหนกและกล่าวว่า "ฝ่าบาทเพคะ ฝ่าบาทดูสิเพคะ นางคิดจะตอบโต้เพคะ"

จักรพรรดิเหยาก็รับรู้ได้ถึงอารมณ์ความรุนแรงที่อยู่ในตัวของไป๋ชิงหลิงเช่นกัน......

แม้ว่านางจะกำลังคุกเข่าอยู่ ทว่าจักรพรรดิเหยากลับไม่รู้สึกถึงความเคารพนอบน้อมของนางเลยแม้แต่นิดเดียว ราวกับ......ทำไปเพียงเพราะเป็นกฎระเบียบที่ควรปฏิบัติตามก็เท่านั้น

สีหน้าของจักรพรรดิเหยาเคร่งขรึมเล็กน้อย "พระสนมเอกหรงลดตัวลงไปขอประนีประนอมกับเจ้า เจ้ายังมีอะไรไม่พอใจอย่างนั้นหรือ"

ไป๋ชิงหลิงก้มศีรษะอย่างนอบน้อม "พระสนมเอกหรงไม่เคยคิดที่จะทำการประนีประนอมกับข้าน้อยเลยเพคะ"

"เจ้าพูดจาเหลวไหล......"

"หุบปาก" พระสนมเอกหรงกำลังจะโต้แย้งกลับ แต่หรงเยี่ยได้เหลือบมองนางด้วยสายตาที่เย็นชาและกล่าวตำหนิออกมา

พระสนมเอกหรงรู้ว่าตัวเองมีเหตผลไม่เพียงพอ จึงไม่กล้าแย้งขึ้นอีก

จักรพรรดิเหยาเองก็อยู่ตรงนี้แล้ว นางแทบอดไม่ได้ที่จะทำให้ไป๋ชิงหลิงผิดใจต่อจักรพรรดิเหยา

ทางที่ดีที่สุดคือลากตัวนางออกไปตัดศีรษะเสีย

"เสด็จย่าประชวรอย่างหนัก หากเสด็จพ่อต้องการลงโทษ เช่นนั้นก็รอให้นางรักษาอาการประชวรของเสด็จย่าเสียก่อน ตอนที่จิ่งหลินถูกลอบทำร้ายโดยลูกธนู ก็เป็นนางเองที่เป็นคนเอาลูกธนูออกให้" หรงเยี่ยมองที่นางอย่างแผ่วเบา

หมอหลวงที่อยู่ในตำหนักต่างพากันทำสีหน้าตกตะลึง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น