เสวี่ยหลางหยุดการเคลื่อนไหว แต่ยังคงทับหนูตัวนั้นไว้ หนูอยู่ภายใต้กรงเล็บของเสวี่ยหลาง ก็ส่งเสียงร้องเบาๆ ราวกับกำลังขอความช่วยเหลือ
ไป๋ชิงหลิงเหลือบมองหนูตัวนั้น หนูตัวนั้นดูซูบผอมและตัวเล็กมาก น่าจะเป็นหนูที่เพิ่งเกิดได้ไม่กี่วัน
เมื่อกี้มีหนูตัวใหญ่ที่กระโดดออกมาพร้อมกับมัน แต่หนูตัวใหญ่ได้หนีไปแล้ว
ไป๋ชงเซิงหันหน้ามา พูดกับเสวี่ยหลางว่า “เสวี่ยหลาง เจ้ารีบปล่อยมันเร็ว เจ้าทับจนมันเจ็บมาก”
“โฮ่ง........” เสวี่ยหลางส่งเสียงเบาๆ แล้วก็ค่อยๆขยับขาของมันออก
ทันใดนั้นหนูตัวนั้นก็รีบกระโดดลงใต้โต๊ะ แล้วมุดเข้าไปในรูเล็กที่มุมห้อง
เสวี่ยหลางกลับมาอยู่ข้างๆไป๋ชงเซิง เลียมือของนาง แล้วใช้หัวของมันถูไถกับใบหน้าของไป๋ชงเซิง
ไป๋ชงเซิงหัวเราะเบาๆ “เสวี่ยหลาง เจ้าเจ็บหรือไม่ ข้าเห็นเจ้าถูกแทงจนบาดเจ็บ”
“โฮ่งโฮ่ง........” เสวี่ยหลางก้าวถอยหลัง ค่อยๆยกร่างขึ้น และยืนขึ้นเหมือนมนุษย์ โดยมันงอขาหน้าทั้งสองข้าง แนบกับหน้าอก
ในเวลานี้ หนูตัวน้อยที่ถูกเสวี่ยหลางปล่อยไป จู่ๆก็โผล่หัวออกมา แล้วมองดูผู้คนที่อยู่ข้างใน
ไป๋ชงเซิงมองเห็นมันอย่างรวดเร็ว และพูดกับไป๋ชิงหลิงว่า “ท่านแม่ หนูตัวนั้นออกมาอีกแล้ว มันยังจ้องมองข้าด้วย”
หลังจากพูดจบ นางก็ชี้นิ้วไปที่หนูตัวน้อยนั้น หนูตัวน้อยรีบมุดเข้าไปในรูทันที เมื่อไป๋ชิงหลิงหันมาหนูตัวน้อยก็หนีไปแล้ว เห็นเพียงรูสีดำเท่านั้น
แต่มีเสียง“จิ๊จิ๊”ดังออกมาจากข้างใน
ไป๋ชิงหลิงนึกขึ้นได้ว่าไป๋ชงเซิงฟังภาษาสัตว์ออก และสามารถสื่อสารกับสัตว์ได้ “เซิงเอ๋อร์ แม่มีเรื่องขอให้เจ้าช่วย!”
“ท่านแม่ ท่านนึกถึงหนูใช่ไหม?” ไป๋ชงเซิงก็มีความคิดแบบเดียวกับไป๋ชิงหลิง ตราบใดที่มีสัตว์อยู่รอบข้าง นางก็สามารถสื่อสารกับพวกมันได้
ในขณะนี้ผู้คนในวัดเต๋อหลินไม่สามารถไว้วางใจได้ แต่สัตว์ไม่สามารถโกหกได้
ไป๋ชิงหลิงพยักหน้า และลูบหัวของไป๋ชงเซิงอีกครั้ง จากนั้นก็ก้มหน้าลง และกระซิบเบาๆข้างหูไป๋ชงเซิง.........
หลังจากไป๋ชงเซิงฟังจบ นางก็หยิบนกหวีดออกมาจากกระเป๋าแขนเสื้อ แล้วหยิบใส่ปากเพื่อเป่า
นกหวีดเป่าบรรเลงเป็นเพลง คนรอบข้างฟังดูเหมือนเสียงดนตรี แต่สำหรับหนูเหล่านั้น มันเป็นเสียงที่แตกต่างออกไป
พวกมันสามารถเข้าใจข้อความที่ส่งจากผู้ที่เป่านกหวีด หนูที่ซ่อนอยู่ในที่มืดต่างก็ตั้งใจฟัง ในขณะที่สัตว์อื่นๆที่อยู่รอบข้างก็ได้ยินเสียงนกหวีดนี้จากระยะไกล จึงรีบวิ่งไปที่เรือนถง และซ่อนตัวอยู่ในความมืด
เมื่อเสียงดนตรีหยุดลง เหล่าสัตว์ก็รีบออกจากเรือนถงพร้อมกับความหวังของไป๋ชงเซิง
มีสัตว์บางชนิดลงเขา แล้วแอบเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
สัตว์บางชนิดก็เฝ้าอยู่ทุกทางเข้าของวัดเต๋อหลิน เมื่อมีนักฆ่าอีกกลุ่มหนึ่งซุ่มอยู่รอบๆวัดเต๋อหลิน สัตว์เหล่านี้ก็โจมตีเหล่านักฆ่า กันอย่างบ้าคลั่ง
บังคับให้นักฆ่าปรากฏตัวออกมา!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...