ตอน บทที่ 531 ทำให้จักรพรรดิเหยาเปิดปากพูด จาก ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 531 ทำให้จักรพรรดิเหยาเปิดปากพูด คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเกิดใหม่ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ที่เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
จักรพรรดิเหยาดึงสติกลับมา มองไปทางไทเฮาที่ถูกรักษาแล้ว ยกมือชี้ไปทางไทเฮา
ไป๋ชิงหลิงพูดว่า:"ฝ่าบาท ไทเฮาพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่หลังจากฟื้นตัวแล้วจะมีโรคแทรกซึมอะไรหรือไม่ ต้องรอฟื้นตัวแล้วถึงจะทราบได้ ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดคือพระกายาของฝ่าบาท!"
จักรพรรดิเหยาขมวดคิ้ว จ้องมองไป๋ชิงหลิงด้วยแววตาที่เยือกเย็น
ตอนที่ทราบตัวตนที่แท้จริงของไป๋ชิงหลิง เขาเคยคิดวิธีที่จะลงโทษไป๋ชิงหลิง
ประทานผ้าไหมขาวแก่นาง
หรือประทานเหล้าพิษ
หรือไม่ก็แขวนคอประหาร
ไม่ว่าจะเป็นการลงโทษแบบไหน เขาต้องการให้นางตาย
หลังจากหายโกรธกริ้วอย่างหนักแล้วเผชิญกับไป๋ชิงหลิงอีกครั้ง จักรพรรดิเหยาก็มีสติมากขึ้น
เรื่องนี้ไม่ธรรมดา
เขาค่อยๆวางมือลง วางไว้ตามสบาย
ไป๋ชิงหลิงจ้องมองไปที่มือของจักรพรรดิเหยาที่ยกขึ้นมาเมื่อครู่ จึงลองเดาความคิดของฝ่าบาทดู ไม่มีท่าทีใดๆ ฉะนั้นคงยังไม่คิดว่าจะจบชีวิตนาง
นางใช้เข่าเดินเข้าไป สองมือพยุงแขนของจักรพรรดิเหยาขึ้นวางไว้บนต้นขาของตัวเอง ตรวจดูชีพจร
นางตรวจดูอย่างละเอียด จากนั้นจึงหยิบเข็มเงินออกมาวางราบอยู่บนกล่องยาของตัวเอง หยิบเข็มมาหนึ่งเข็มแล้วพูดว่า:"ฝ่าบาท หม่อนฉันจะใช่เข็มเงินเปิดจุดชีพจรเลือดของฝ่าบาทชั่วคราว ทำให้ฝ่าบาทสามารถเปิดปากพูดได้ในระยะเวลาสั้นๆ ส่วนเรื่องวิธีถอนพิษ คงต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย นอกจากนี้ หม่อนฉันจะให้ยาบรรเทาพิษแก่ท่าน ทำให้สารพิษในพระกายาทำงานช้าลง รอจนถึงเมื่อกลับเมืองหลวง ค่อยให้หมอเทวดาซูถอนพิษให้ฝ่าบาท ท่านว่าเช่นนี้ได้หรือไม่?"
ขุนนางหลายคนล้อมเข้ามา
เสิ่นโหรวเม่ยก็เช่นกัน:"วิธีนี้ไม่เหมาะสม ตอนนี้ตัวตนของเจ้าไม่ชัดเจน ไม่รู้ว่าเป็นมิตรหรือเป็นภัย ใครจะรู้ว่าเจ้าจะสมรู้ร่วมคิดกับพวกคนข้างนอกเพื่อสังหารฝ่าบาทหรือไม่"
จักรพรรดิเหยาแววตาเฉียบคมขึ้น
ไป๋ชิงหลิงรู้ดีว่าเขาไม่มีทางเชื่อตัวเองได้ง่ายๆ ยิ่งไม่มีทางยอมให้นางฝั่งเข็มบนตัวเขา
และยิ่งไม่มีทางกินยาที่นางให้แน่นอน
"เช่นนี้ให้หมอหลวงจ้าวเป็นคนทำ"ไป๋ชิงหลิงพูด
"หมอหลวงจ้าวต้องเฝ้าดูแลไทเฮา หรือจะให้ข้ามาทำแทน เพราะข้าก็เป็นหมอหญิงเช่นกัน"เสิ่นโหรวเม่ยพูดไปก็ยื่นมือไปแย่งเข็มที่อยู่ในมือของนาง
แต่มือของนางยังไม่ทันสัมผัสเข็มที่อยู่ในมือของไป๋ชิงหลิง ไป๋ชิงหลิงก็แทงกลับทันที เข็มเงินถูกแทงเข้าที่ฝ่ามือของเสิ่นโหรวเม่ย
เสิ่นโหรวเม่ยหดมือกลับเพราะความเจ็บ ถอยหลังออกไปแล้วพูดว่า:"เจ้า......"
ไป๋ชิงหลิงพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา:"พระชายาเฉินถูกสงสัยว่ามุ่งทำร้ายไทเฮา จึงยากที่จะรับประกันว่าจะไม่ทำร้ายฝ่าบาท ข้าและเจ้า......ต่างไม่มีสิทธิ์ฝั่งเข็มให้ฝ่าบาท เชิญหมอหลวงจ้าว"
หมอหลวงจ้าวเดินออกมาจากกลุ่มทหารองครักษ์เหยี่ยวดำ คุกเข่าลงข้างไป๋ชิงหลิง คำนับต่อจักรพรรดิเหยา
จักรพรรดิเหยามองเห็นหมอหลวงจ้าว แววตาก็ผ่อนคลายลง
เสิ่นโหรวเม่ยตกใจจึงพูดว่า:"เสด็จพ่อ ท่านหมายความว่าเยี่ยงไร? ให้ลูกฆ่าไป๋ชิงหลิงหรือ?"
"ไป๋ชิงหลิง ฆ่า......เสิ่นฉง!"จักรพรรดิเหยาพูดหกพยางค์นี้ออกมาทีละตัว
เสิ่นโหรวเม่ยได้ยินประโยคนี้แล้ว แววตาวอกแวกเล็กน้อย จากนั้นก็คุกเข่าลงกับพื้นอีกครั้ง
อยู่ๆไป๋ชิงหลิงก็นึกขึ้นได้ เสิ่นฉงก็เป็นหมอประจำราชสำนักเช่นกัน มีฐานะตำแหน่งเท่ากับหมอหลวงฮั่ว ยาทุกอย่างจะผ่านมือเขาหมด
นี่ฝ่าบาทกำลังสงสัยว่าเสิ่นฉงเป็นคนวางยาพิษให้กับเขา?
"ฝ่าบาท พิษในพระกายาของท่านไม่ได้เกิดขึ้นภายในวันเดียว มันคือการสะสมนับวันนับคืน เรื่องนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ ด้านการใช้ยาพิษแก้ยาพิษ หม่อนฉันเทียบกับหมอเทวดาซูไม่ได้ รอจนถึงเวลากลับเมืองหลวงให้หมอเทวดาซูตรวจดูก็จะทราบเอง แค่รู้ว่าฝ่าบาทโดนยาพิษอะไรไป หมอเทวดาซูก็จะสามารถหาคนที่อยู่เบื้องหลังได้แน่นอน แต่ว่า......หม่อนฉันกลับมีผู้ต้องสงสัยอยู่"ไป๋ชิงหลิงแววตาจริงจัง น้ำเสียงเคร่งเครียด
จักรพรรดิเหยาผ่อนคลายลง พูดประโยคสั้นๆได้ว่า:"พูดต่อไป!"
"ผู้ที่วางยาพิษให้กับฝ่าบาท เป็นคนเดียวกันที่วางยาพิษให้กับท่านอ๋องตัวนแน่นอน คนๆนี้อยู่ที่วัดเต๋อหลิน และอยู่ท่ามกลางพวกเราด้วย แต่การเดินทางรอบนี้หมอหลวงเสิ่นไม่ได้อยู่ด้วย"แม้ว่าเสิ่นฉงจะน่ารำคาญมาก แต่ไป๋ชิงหลิงไม่มีทางไปใส่ร้ายคนที่ไม่ผิด
การวางยาพิษให้กับฝ่าบาท นางมองว่าเสิ่นฉงคงไม่มีความกล้าเพียงนั้น
จักรพรรดิเหยากวาดตามองคนที่อยู่ในวิหารทองคำอย่างรวดเร็ว
จึงรู้ว่าอีกคนที่เขาสามารถคิดออกได้ในตอนนี้ มีเพียงฟางกงกงที่รับใช้เขาอย่างใกล้ชิดเท่านั้น
"ฟางเต๋อ!"จักรพรรดิเหยาสบถชื่อของฟางกงกงออกมา
ไป๋ชิงหลิงพูด:"ก็เป็นไปได้ แต่ว่าฟางกงกงไม่รู้เรื่องยา คงจะใช้มือของฟางกงกงในการส่งต่อให้กับท่านอ๋องตัวน คนๆนี้จะต้องเป็นผู้ที่สามารถเข้าออกพระราชวังได้บ่อยๆ ไม่จำเป็นต้องผ่านห้องยาของสำนักหมอหลวงก็สามารถได้ยาพิษมาได้ พูดให้ชัดเจนก็คือ คนๆนี้ต้องเข้าใจเรื่องยาอย่างดี และไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของสำนักหมอหลวง และยังสามารถเข้าออกพระราชวังได้บ่อยๆเพื่อสำดวกต่อการรับยาพิษ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...