ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 530

สรุปบท บทที่ 530 ไป๋ชิงหลิงสั่งให้ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำจับมัดอ๋องเฉิน: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

สรุปตอน บทที่ 530 ไป๋ชิงหลิงสั่งให้ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำจับมัดอ๋องเฉิน – จากเรื่อง ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา

ตอน บทที่ 530 ไป๋ชิงหลิงสั่งให้ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำจับมัดอ๋องเฉิน ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดยนักเขียน พระจันทร์ขี้เมา เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หลวนอี๋เห็นว่าเขาเริ่มสงบลง จึงได้จับมืออีกข้างของจักรพรรดิเหยาแล้วพูดว่า :"เสด็จพ่อ พี่เจ็ดกับทหารองครักษ์เหยี่ยวดำกำลังตอกรกับแม่ทัพเสิ่นเพื่อปกป้องพวกเรา เขาไม่มีทางหักหลังเสด็จพ่อแน่นอน ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำก็เช่นกัน ท่านอย่าได้เชื่อคำพูดหลอกลวงของคนอื่น"

"อีกทั้ง ในตอนที่เสด็จย่าหมดสติ ภายในเรือนไม่ใครเลยแม้แต่คนเดียว พวกองครักษ์ติดตัว องครักษ์ลับต่างก็หายไปหมด ตอนนั้นเองที่พี่เจ็ดกับทหารองครักษ์เหยี่ยวดำของเขา รวมถึงพี่สะใภ้เจ็ดต่างถูกควบคุมโดยแม่ทัพเสิ่น มันคือแผนการชั่วร้ายที่วางแผนมาอย่างดี"

"พวกเขาเริ่มจากทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกของเสด็จพ่อและพี่เจ็ดแตกแยกกัน กำจัดแขนขวาของเสด็จพ่อก่อนถึงจะเก็บผลประโยชน์ได้ พวกเราจะก่อเรื่องให้พี่เจ็ดต้องแบ่งความสนใจในเรื่องนี้อีกไม่ได้แล้ว ได้หรือไม่เสด็จพ่อ?"

จักรพรรดิเหยาเริ่มน้ำตาคลอ ขอบตาก็ค่อยๆแดงขึ้น

เขาไม่เคยตั้งใจมองลูกสาวคนนี้เหมือนคืนนี้มาก่อน

นางเหมือนนางขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ น้ำเสียงที่พูดอยู่ขณะนี้......

อยู่ๆเขาก็คิดถึงนางเหลือเกิน......

ใจของจักรพรรดิเหยากระตุก เขาดึงมือของเขาออกจากมือของหลวนอี๋ จากนั้นก็ยกขึ้นด้วยความสั่น วางไว้บนหน้าที่มอมแมมของหลวนอี๋

ใช้นิ้วโป้งเช็คคราบเปื้อนบนหน้าของนางเบาๆ

น้ำตาของหลวนอี๋ไหลลง นำหน้าซบเข้ากับฝ่ามือใหญ่กว้างของจักรพรรดิเหยา ถูไถเบาๆ

เสิ่นโหรวเม่ยเห็นเช่นนี้ ในใจก็รู้สึกไม่พอใจ

"เสด็จพ่อ ข้าก็เป็นหมอหญิง บัดนี้พระชายาหรงไม่ทราบว่าเป็นมิตรหรือภัย เสด็จย่าอยู่ในนมือนางจะให้คนไว้ใจได้เยี่ยงไร ลูกจะเข้าไปช่วยด้วยและยังสามารถสังเกตพฤติกรรมของพระชายาหรงด้วย"

หลวนอี๋สีหน้าตึงเครียด หันหน้ากลับไป ขมวดคิ้วมองไปที่เสิ่นโหรวเม่ยแล้วพูดว่า:"ได้ยินมาว่าหลังจากที่ข้ากับพี่แปดและแม่นมอวี่ออกจากเรือนหลิน พี่สะใภ้แปดเคยไปที่เรือน แผลบนตัวของเซิงเอ๋อร์ก็มาจากพี่สะใภ้แปด!"

ไป๋ชงเซิงมองไปที่เสิ่นโหรวเม่ยด้วยแววตาที่เฉียบคม

จักรพรรดิเหยาและเหล่าขุนนางต่างก็มองไปที่เสิ่นโหรวเม่ย

หรงเชินพูดว่า:"หลวนอี๋ เจ้ากำลังสงสัยอะไรอยู่ พี่สะใภ้แปดของเจ้าบอกกับข้าแล้ว เป็นฝ่ายเซิงเอ๋อร์ที่เอาหัวชนท้องของนางก่อน และเพื่อปกป้องลูกในท้องของนาง นางจึงไม่ระวังพลั้งมือทำให้เซิงเอ๋อร์ได้รับบาดเจ็บ นางก็รู้สึกเสียใจมากแล้ว"

เสิ่นโหรวเม่ยถอยหลังหนึ่งก้าว พูดด้วยสีหน้าน้อยใจ:"เพคะ เรื่องนี้......ข้าผิดเอง ข้าไม่โต้เถียงอะไรทั้งนั้น"

"เจ้าอย่าพึ่งรีบ พวกเรามาเคลียร์กันไปทีละเรื่อง"หลวนอี๋อุ้มไป๋ชิงหลิงไว้ วินาทีเดียวก็ไม่กล้าปล่อยนางไป

นางลุกยืนขึ้น เดินไปหาเสิ่นโหรวเม่ยช้าๆแล้วพูดว่า:"เซิงเอ๋อร์บอกกับข้าว่า หลังจากที่ข้ากับพี่แปดและแม่นมอวี่ออกไปไม่นานเจ้าก็มสน้อมทักทาย และการน้อมทักทายที่ว่าของเจ้าคือการวิจารณ์นู้นนี่ต่อหน้าเสด็จย่า ยั่วให้เซิงเอ๋อร์โมโห ยั่วให้เสด็จย่าโมโห พี่สะใภ้เจ็ดเคยพูดไว้แล้วว่าสภาพร่างกายของเสด็จย่าไม่เหมาะที่จะมีอารมณ์สุดขั้ว เรื่องนี้พี่แปดก็เคยบอกเจ้าไปแล้วมิใช่หรือ"

หรงเชินตัวกระตุก หันหน้ามองไปทางเสิ่นโหรวเม่ย

แน่นอนว่าเรื่องนี้เขาเคยบอกไว้แล้ว

หลวนอี๋สัมผัสได้ว่านางกำลังตัวสั่น จึงรีบตบหลังไป๋ชงเซิงเบาๆพร้อมปลอบใจว่า:"เซิงเอ๋อร์ หมอหลวงบอกว่าอาการของเจ้าขยับตัวมากไม่ได้"

"เสด็จน้า นางคือผู้หญิงเลว นางตั้งใจยั่วให้เสด็จย่าทวดโกรธจนทำให้ร่างกายรับไม่ไหว"ไป๋ชงเซิงร้องไห้พร้อมกับพูดด้วยความรู้สึกเสียใจ ร่างกายก็หดอยู่ในอ้อมอกของหลวนอี๋พร้อมกับสะอึกสะอื้น

หลวนอี๋จ้องไปที่เสิ่นโหรวเม่ยด้วยแววตาที่ดุร้าย

และเสิ่นโหรวเม่ยเองก็สังเกตเห็นแววตาที่จักรพรรดิเหยามองมาที่นางดูเฉียบคมมากขึ้น

นางรู้แล้วว่าจักรพรรดิเหยาเริ่มสงสัยในตัวนางแล้ว

นางคุกเข่าลงกับพื้นอย่างแรงพร้อมกับชูสามนิ้วขึ้นแล้วพูดว่า:"เสด็จพ่อ ข้าสาบานต่อหน้าพระพุทธรูปในวิหารทองคำแห่งนี้เลยว่าหากข้ามีความคิดเพียงเสี้ยวนิดที่จะทำร้ายเสด็จย่า ขอให้ภพนี้ข้าไม่มีทางมีลูกได้"

"เม่ยเอ๋อร์ ไม่ได้!"หรงเชินตะโกนออกมา

ได้ยินประโยคท้ายของเสิ่นโหรวเม่ย จักรพรรดิเหยาก็ได้หรี่ตาลง

หลวนอี๋กัดฟังพูดด้วยความไม่พอใจ:"เจ้าอย่าคิดว่าจะโชคดีรอดไปได้ รอพี่สะใภ้เจ็ดช่วยเสด็จย่าได้แล้ว หลังจากนั้นค่อยถามก็ไม่สาย"

และตอนนั้นเอง ไป๋ชิงหลิงเดินออกมาจากด้านหลังของทหารองครักษ์เหยี่ยวดำ คุกเข่าลงตรงหน้าของจักรพรรดิเหยา.......

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น