บทที่ 539 ท่านอ๋องเฉินหายตัวไป – ตอนที่ต้องอ่านของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
ตอนนี้ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 539 ท่านอ๋องเฉินหายตัวไป จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
แต่ความเจ็บปวดที่นางได้รับ นั้นยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยความแค้นและความเกลียดชังในใจของจักรพรรดิเหยาได้
เขารู้สึกว่าการฆ่าเสิ่นโหรวเม่ยนั้นทำให้นางได้เปรียบเกินไป
จักรพรรดิเหยาจับดาบไว้แน่น จ้องมองเสิ่นโหรวเม่ยที่กลิ้งอยู่บนพื้นด้วยแววตาที่เคียดแค้น ในสมองเต็มไปด้วยภาพที่ฮองเฮาอู่ตายอยู่ในอ้อมแขนของเขา
ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาต้องสูญเสียผู้หญิงถึงสองคน ในวันครบรอบการสิ้นพระชนม์ของฮองเฮาฉุ๋น และเกือบทำให้เขาฆ่าลูกชายของตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วยังวางแผนสลับตัวหลานชายของเขานำออกจากวังและพเนจรอยู่ข้างนอก
นางสมควรตายจริงๆ
“อ๊าก..........” จักรพรรดิเหยาคำรามด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น
ดาบในมือของเขาตัดแขนซ้ายของเสิ่นโหรวเม่ยขาดทันที จากนั้น ก็ตัดแขนข้างขวาของเธอออก
หลังจากที่เสิ่นโหรวเม่ยกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดหลายครั้ง ในที่สุดนางก็หมดสติไป
ส่วนจักรพรรดิเหยาก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก แล้วล้มลงอย่างช้าๆ
หรงเยี่ยรีบพุ่งเข้าไป พยุงจักรพรรดิเหยาจากด้านหลัง และเรียก “เสด็จพ่อ ดูแลตัวเองด้วย”
“เอ่อ......” จักรพรรดิเหยากุมมือหรงเยี่ยไว้แน่น เปิดปากแล้วพูด อย่างเบาๆว่า “ตามหา........เสด็จแม่ของเจ้า ตามนางกลับมา........ ”
หรงเยี่ยเข้าใจคำพูดที่ไร้เสียงนั้น “ลูกไม่เคยพาเสด็จแม่ออกจากโลงน้ำแข็งเลย ศพที่ถูกพรากไปวันนั้น คือนางในวังคนหนึ่ง มีช่องลับอยู่ใต้โลงน้ำแข็ง เสด็จแม่ยังอยู่ที่นั่น”
ไป๋ชิงหลิงเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หลังของหรงเยี่ยโดยไม่รู้ตัว ในดวงตาของเธอมีแสงผันผวน
ในเวลานี้ จักรพรรดิเหยาก็หันมามองไป๋ชิงหลิง และชี้ไปที่เธอ “นาง.......”
หรงเยี่ยกล่าวว่า “นางคือไป๋เจาเสวี่ย เป็นพระชายาของลูก มารดาผู้ให้กำเนิดจิ่งหลิน สายเลือดของเซิงเอ๋อร์เสด็จพ่อก็ได้ให้ปรมาจารย์หลูมาพิสูจน์แล้ว ท่านต้องเชื่อในตัวเอง”
“แค่ก......” จักรพรรดิเหยากระอักเลือดเต็มปาก และพยักหน้าให้หรงเยี่ย เห็นด้วยกับคำพูดของหรงเยี่ย จากนั้นไม่นานเขาก็หลับตาลง
เมื่อหรงเยี่ยมองดูใบหน้าที่ซีดเซียวของจักรพรรดิเหยา ก็พูดด้วยเสียงทุ้มว่า “หมอเทวดาซู หมอหลวงจ้าว รีบช่วยจักรพรรดิ!”
……
ในเมืองหลวง มีข่าวแพร่กระจายภายในชั่วข้ามคืนว่าลูกสาวตระกูลเสิ่นได้วางยาพิษจักรพรรดิ ทำร้ายหลานชายของจักรพรรดิ และทำให้ไทเฮาโกรธจนเป็นลม
ส่วนเรื่องการก่อกบฏของท่านอ๋องต้วน ก็ถูกปิดไว้ชั่วคราว
หมอเทวดาซูใช้เวลาสามวันในการล้างพิษให้กับจักรพรรดิเหยา แม้ว่าจักรพรรดิเหยาจะพูดได้แล้ว แต่เวลาเพียงไม่กี่วัน ผมขาวบนขมับของจักรพรรดิเหยาก็เพิ่มขึ้นสามเท่า ทำให้เขาดูแก่ขึ้นมาก
ในที่สุดดวงตาของหรงเชินก็ถูกพิษจนบอดสนิท
ดวงตาทั้งสองเน่าเป็นแผล
หมอเทวดาซูกล่าวว่า “สามารถขูดได้แค่ส่วนที่เน่าเท่านั้น”
หรงเชินกล่าวว่า “ถ้างั้นก็ขูดเถอะ ฝีมือผ่าตัดของพี่สะใภ้เจ็ดนั้นเก่งที่สุด ดังนั้นให้พี่สะใภ้เจ็ดเป็นคนขูดเถอะ”
ทหารเกราะเงินกล่าวว่า “เมื่อคืนตอนดึก จู่ๆท่านอ๋องเฉินก็มาเยี่ยมพระชายาท่านอ๋องเฉิน แล้วก็จากไป”
“เจ้าหมายถึง ท่านอ๋องเฉินเคยมาเยี่ยมพระชายาท่านอ๋องเฉิน” ไป๋ชิงหลิงถาม
ทหารเกราะเงินพยักหน้า “ใช่ หลังจากท่านอ๋องเฉินจากไป จากนั้นก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ ข้าน้อยคอยเฝ้าอยู่หน้าประตู แต่เมื่อข้าน้อยเข้าไปตรวจสอบดู ก็พบว่าพระชายาท่านอ๋องเฉินหายตัวไปแล้ว”
เมื่อหรงเยี่ยได้ยินสิ่งที่ทหารเกราะเงินพูด เขาก็รีบเดินเข้าไปในห้องของเสิ่นโหรวเม่ย
ไป๋ชิงหลิงเดินตามหลังเขาไป
เมื่อทั้งสองเดินเข้าไปในห้อง หรงเยี่ยก็เปิดประตูและหน้าต่างออก
หน้าต่างถูกล็อกจากด้านนอก และไม่มีร่องรอยการงัด นอกจากนี้เสิ่นโหรวเม่ยสูญเสียแขนทั้งสองข้าง ดังนั้นจึงไม่สามารถปีนออกไปทางหน้าต่างได้
เสิ่นหรูเหลียนกล่าวว่า “หน้าต่างเหล่านี้กระหม่อมเป็นคนล็อกเอง และมีการเพิ่มสลักเกลียว เสิ่นโหรวเม่ยไม่สามารถเปิดได้แน่นอน”
ไป๋ชิงหลิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หันกลับไปมองรอบๆ และพบท่อไม้ไผ่สีดำขนาดเล็กอยู่บนพื้น ขนาดประมาณนิ้วก้อยของเธอ
เธอเดินเข้าไป หยิบมันขึ้นมาตรวจดู
หรงเยี่ยและเสิ่นหรูเหลียนก็เดินเข้าไป หรงเยี่ยถามว่า “พระชายา มันคืออะไร?”
“ท่านอ๋องเฉินพาตัวพระชายาท่านอ๋องเฉินไป นี่คือโรสแมรี่ของภูมิภาคตะวันตก สามารถปล่อยกลิ่นที่ไร้กลิ่นและไร้รส ซึ่งสามารถทำให้เส้นประสาทของคนเป็นอัมพาตได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ท่านอ๋องเฉินมาขอสิ่งนี้กับพระชายาท่านอ๋องเฉิน ทำให้ทหารเกราะเงินสลบไป แล้วพวกเขาก็ออกไปทางประตูทางเข้าหลัก” ไป๋ชิงหลิงกล่าว
“กระหม่อมจะไปรายงานจักรพรรดิ” เสิ่นหรูเหลียนหันกลับและกำลังจะเดินจากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...