จุดที่สำคัญที่สุดคือ หรงเยี่ยยังจะต้องได้รับความอับอายจากการแย่งพี่สะใภ้
หากมีโอกาสสืบทอดบัลลังก์ในอนาคต อาชญากรรมนี้ก็จะต้องทำให้หรงเยี่ยอับอายเช่นกัน
นี่คือความเห็นแก่ตัวของจักรพรรดิเหยา
เขาจะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนหนึ่งมาทำลายลูกชายของเขาอีกต่อไปแล้ว
“เพคะ!” ไป๋ชิงหลิงถวายบังคมอีกครั้ง แล้วย่อตัวลงพูดว่า “ต่อจากนี้ไป ต่อไปนี้บนโลกนี้จะไม่มีไป๋ชิงหลิงอีกต่อไปแล้ว หม่อมฉัน คือไป๋เจาเสวี่ย”
จักรพรรดิเหยายังคงจ้องมองหญิงสาวที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างไม่แสดงออก “ลุกขึ้นเถอะ”
“ขอบพระทัยเพคะเสด็จพ่อ”
นางลุกขึ้น
จักรพรรดิเหยากล่าวว่า “มีอีกเรื่องหนึ่งที่ข้าอยากให้เจ้าทำ”
ไป๋ชิงหลิงเดาได้แล้ว “เรื่องระหว่างอ๋องต้วนกับตระกูลเวิน”
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับตระกูลเวิน องค์ชายเจ็ดยังไม่เคยบอกเจ้า เกี่ยวกับเรื่องขององค์หญิงใหญ่ ไทเฮาและข้า” จักรพรรดิเหยาครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าจะจัดการกับหรงฉีและตระกูลเวินอย่างไร
หากเป็นเจ้าหน้าที่คนก่อน ๆ ที่แอบสร้างอาวุธ และยกกองทัพขึ้นเพื่อกบฏ การลงโทษโดยประหารเก้าชั่วโคตรก็คงไม่มากเกินไป
แต่ตอนนี้องค์หญิงใหญ่มีระเบิดเวลาอยู่ในมือ ซึ่งสามารถพัดเขาลงได้จากบัลลังก์ตลอดเวลา ทำให้จักรพรรดิเหยาปวดหัวมาก
เขาเป็นจักรพรรดิมายาวนานถึงเพียงนี้ จนไม่เพียงแต่ต้องพิจารณาตัวเองเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงผู้คนที่อยู่เบื้องหลังตัวเองด้วย
ไทเฮา องค์ชายของเขาและเหล่าบุตรหลาน
เมื่อคำสั่งที่อยู่ในมือขององค์หญิงใหญ่ถูกเปิดเผย เขา องค์ชายและบุตรหลานของเขาจะไม่มีวันจบลงด้วยดี……
ไป๋ชิงหลิงพยักหน้า “ในตอนนั้นขาทั้งสองของอ๋องหรงได้รับบาดเจ็บสาหัส และเขาเคยพูดถึงเรื่องนี้กับหม่อมฉัน องค์หญิงใหญ่มีบางอย่างอยู่ในมือ ซึ่งสำคัญกับเสด็จพ่อเป็นอย่างมาก และสำหรับตระกูลเวินแล้ว มันก็เป็นเครื่องรางช่วยชีวิตเช่นกัน เพียงแต่ว่า……”
ดวงตาของนางเคร่งขรึมลง ก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างอ๋องต้วน ท่านตาของเขาและสมาชิกตระกูลเวิน ได้ก่ออาชญากรรมร้ายแรง และชีวิตของผู้สมรู้ร่วมคิดก็ยากที่จะรักษาไว้ได้ สิ่งที่องค์หญิงใหญ่กำลังคือเป็นการทำให้เสด็จพ่อลำบากพระทัยเพคะ!”
เมื่อเขาได้ยินประโยคหลังของไป๋ชิงหลิง สีหน้าของจักรพรรดิเหยาก็ผ่อนคลายลงมาก……
ถูกต้อง นี่ก็คือกำลังทำให้เขาลำบากใจ
ล่าสุดมีข่าวแจ้งว่า องค์หญิงใหญ่ได้กลับมายังเมืองหลวงแล้ว และปัจจุบันอาศัยอยู่ที่หมิงหลานในเมืองหลวง
“ถ้าเจ้าเป็นข้า เจ้าจะทำอย่างไร?” ทันใดนั้นจักรพรรดิเหยาก็อยากจะได้ยินความคิดเห็นของนาง อย่างไรก็ตามไป๋ชิงหลิงก็แตกต่างจากพระชายาคนอื่น ๆ
ในสายตาของจักรพรรดิเหยา นางกล้าหาญและบ้าบิ่น มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม และไม่ถ่อมตัวหรือหยิ่งผยอง !
แม้ว่าเขาจะมีความต้องการฆ่านางหลายครั้ง แต่นางก็สามารถทำให้เขาเลิกคิดที่จะฆ่าได้เสมอ และปล่อยให้นางมีชีวิตอยู่ต่อไป โดยหนีจากการลงโทษครั้งแล้วครั้งเล่า
ต้องบอกว่าไป๋ชิงหลิงมีความกล้าหาญมาก
นี่ก็คือสิ่งที่เขาชื่นชมนาง
“ฝ่าบาท ยังคงเป็นประโยคเดิมเพคะ ชีวิตของผู้สมรู้ร่วมคิดยากที่จะรักษาไว้ได้ องค์หญิงใหญ่ไม่ต้องการเห็นคนในตระกูลของนางถูกประหารเก้าชั่วโคตรอย่างแน่นอน” ไป๋ชิงหลิงไม่กล้าพูดมากกว่านี้ แต่สองประโยคนี้ก็ชัดเจนแล้วว่านางกำลังคิดอะไรอยู่
จักรพรรดิเหยาก็เข้าใจสิ่งที่นางหมายถึงเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...