ไป๋ชิงหลิงครุ่นคิด
องค์หญิงท่านนี้เป็นบุตรของใคร ?
ฟังเสียงแล้วดูเหมือนอายุจะรุ่นราวคราวเดียวกับนาง
ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับบุตรสาวของท่านอ๋องคนไหนที่อาศัยอยู่ด้านนอก และป่วยหนักเช่นนี้มาก่อน
ไป๋ชิงหลิงไม่มีเบาะแสใด ๆ เลยแม้แต่น้อย แต่ในเมื่อให้นางพบแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่จะเพิกเฉยไม่ช่วย
ท้ายที่สุดงานหลักของนางคือหมอ และอีกฝ่ายก็เป็นคนที่มาขอรับการรักษา
เมื่อคิดแบบนี้ ไป๋ชิงหลิงนำหน้ากากมา แล้วสวมหน้ากากป้องกันทางการแพทย์เพื่อปิดปากและจมูก และหลังจากนั้นก็ดึงกล่องเครื่องมือแพทย์ออกจากช่องว่างมิติ แล้วเดินไปที่ประตูของอีกฝ่ายแล้วเคาะเบา ๆ
ไม่นาน นางกำนัลชื่อเหลียนซางก็ออกมา
เหลียนซางมองดูไป๋ชิงหลิงจากบนลงล่าง นางถูกดึงดูดด้วยนิสัยหลุดโลกของไป๋ชิงหลิงและถามว่า "เจ้าเป็นหมอหญิงหรือ?”
“เมื่อครู่มีชายหนุ่มคนหนึ่งมาโรงหมอของข้าเพื่อร้องขอการรักษา และบอกว่ามีคนในบ้านพักเทียนเซียงป่วยหนัก ใช่พวกเจ้าที่นี่หรือเปล่า?” ไป๋ชิงหลิงถาม
“ใช่แล้ว” เหลียนซางกลับมามีสติอีกครั้ง และมองไปที่ไป๋ชิงหลิงจากบนลงล่างอีกครั้ง
ไป๋ชิงหลิงรดูอายุน้อยมาก ดูเด็กกว่าองค์หญิงน้อยของพวกเราเพียงหนึ่งหรือสองปีเท่านั้น
เหลียนซางไม่พอใจเล็กน้อย "เราเกรงว่าเจ้าจะรักษาอาการป่วยของคุณหนูเราไม่ได้ เจ้ากลับไปเสียดีกว่า”
“เจ้าสรุปได้อย่างไรว่าข้าไม่สามารถรักษาโรคคุณหนูของเจ้าได้” ไป๋ชิงหลิงก้มศีรษะลงแล้วมองดูตัวเอง นางมีคำว่า "หมอต้มตุ๋น" บนร่างกายหรือ?
“ในอำเภออันผิงมีหมอชราคนหนึ่งที่ได้รับความเคารพอย่างสูง แต่เขาไม่เคยรักษาคุณหนูของข้าให้หายเลย เจ้าจะเปรียบเทียบกับหมอชราผู้มากประสบการณ์เหล่านั้นตั้งแต่อายุยังน้อยได้อย่างไร คุณหนูของข้าป่วยหนัก และนางไม่สามารถทนต่อการรักษาของหมอฝึกหัดอย่างเจ้าได้ เจ้าออกไปเถอะ”จะเอาค่ารักษาก็ไปเอาที่เจ้าของร้านไป” หลังจากที่เหลียนซางพูดจบ ก็รีบปิดประตู
แต่ทันทีที่นางปิดประตู ไป๋ชิงหลิงก็ก้าวเท้าเข้าไปและขวางรอยแตกที่ประตู...
เมื่อเหลียนซางเห็นนางก้าวเท้าเข้ามา ก็ปล่อยมือออกและก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
ใบหน้าคมกริบและตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “แม่นางท่านนี้ ข้าบอกให้เจ้ากลับไป นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
“แม่นางน้อย ถ้าวันนี้เจ้านอนอยู่บนเตียง แล้วปฏิเสธข้า ข้าจะหันหลังกลับและจะไม่หันหลังกลับไปเกลี้ยกล่อมเจ้า แต่... คนที่นอนอยู่บนเตียงในวันนี้ไม่ใช่เจ้า แต่เป็นนายของเจ้า สาวใช้ตัวเล็ก ๆ อย่างเจ้ามีคุณสมบัติอะไรมาตัดสินใจแทนนางเจ้าไม่ได้ถามแม้แต่เจ้านายของเจ้า แต่กลับไล่ข้าออกไป จะรู้ได้อย่างไรว่านางไม่ยอมให้ข้าดู” ไป๋ชิงหลิงกล่าวอย่างหนักแน่น
เหลียนซางรู้สึกสำลักกับคำพูดของนางและโกรธ "เจ้า... เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นอะไร คุณหนูของข้าสูงส่ง เจ้าเป็นแค่หญิงสาวทั่วไป เจ้าจะตรวจนางตามใจชอบได้อย่างไร? เจ้ารีบออกไป มิฉะนั้นข้าจะเรียกคนแล้ว”
“เหลียนซาง!” เสียงเรียกที่อ่อนแอของสตรีดังมาจากข้างใน
เหลียนซางหันกลับมาแล้วพูดว่า "อ๊ะ"
ไป๋ชิงหลิงใช้ประโยชน์จากความไม่เตรียมพร้อมของเหลียนซาง ผลักเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในห้องด้านใน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...