เมื่อไทเฮาได้ยินสิ่งนี้ ดวงตาของพระนางก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น และจับมือไป๋ชิงหลิง แน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว ในปากของนางพูดซ้ำ ๆ : “จิ่ง……หลิน……จิ่ง……ยังมีชีวิตอยู่……”
ไป๋ชิงหลิงตบหลังมือไทเฮา “เมื่อเสด็จย่าพระอาการดีขึ้น ข้าจะพาจิ่งหลิงมาเยี่ยมพระองค์ ”
“เขา……”ไ ทเฮาอยากรู้จริง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับจิ่งหลิน
ไป๋ชิงหลิงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และพูดว่า “เรื่องมันยาว เจาเสวี่ยทำได้เพียงบอกเสด็จย่าว่าบุคคลที่ฝังอยู่ในสุสานของจักรพรรดิไม่ใช่หลานชายของจักรพรรดิ จิ่งหลิน จิ่งหลินตัวจริงถูกนำตัวออกจากพระราชวังอย่างลับ ๆ และถูกซ่อนตัวไว้ หมอเทวดาซูประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนเลือดและล้างพิษให้จิ่งหลิน เขาได้รับบาดเจ็บทางร่างกายเพียงเล็กน้อย และหวาดกลัว ไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับเขาเพคะ”
ไทเฮาหลั่งน้ำตามากยิ่งขึ้น
เมื่อรู้ว่าจิ่งหลินยังมีชีวิตอยู่ พระนางก็อยากเจอเด็กคนนี้มากจริง ๆ
หลวนอี๋พูดว่า “เสด็จย่า เมื่อพระองค์หายดีแล้ว อาการบาดเจ็บของจิ่งหลินก็คงจะเกือบจะหายดีแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นพระองค์จะได้เห็นจิ่งหลิน ตอนนี้เขาสบายดีแล้ว พระองค์ไม่ต้องกังวล พี่สะใภ้เจ็ดก็คอยดูแลเด็กทั้งสองอยู่เสมอเพคะ”
“ดี……” ไทเฮาพูดคำนั้นด้วยความยากลำบาก “ดี!”
ไป๋ชิงหลิงวางมือของไทเฮาไว้ใต้ผ้าห่ม และบรรเทาอารมณ์ที่ไม่สบายพระทัยของพระนาง ด้วยเสียงอันอ่อนโยน“เสด็จย่าเพิ่งได้รับการผ่าตัดใหญ่ ดังนั้นพระนางไม่ควรเหนื่อยเกินไป เรื่องอื่นเสด็จพ่อรับผิดชอบ ส่วนอ๋องหรง…… และอ๋องเฉินก็อยู่กับนาง พระองค์เพียงแค่ต้องพักฟื้นอย่างสบายพระทัย”
มือของนางตบหน้าอกของไทเฮาเบา ๆ
ไทเฮารู้สึกโล่งใจอย่างอธิบายไม่ได้ เปลือกตาของนางหนักขึ้นเรื่อย ๆ และไม่นานพระนางก็หลับไปอีกครั้ง
นางลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “แม่นมอวี่ ต้องให้ยาตรงเวลา ถ้าไทเฮาตื่นบรรทมขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าก็มาบอกข้าด้วย บาดแผลที่ศีรษะไม่ควรโดนน้ำ เพียงแค่เช็ดพระวรกายของไทเฮาก็พอ”
“พระชายาหรง หม่อมฉันจะจำไว้เพคะ” แม่นมอวี่กล่าว
“เรื่องของซื่อจื่อและอ๋องเฉิน ไม่ต้องพูดอะไรมาก พูดถึงสิ่งที่ทำให้ไทเฮามีความสุข”
“เพคะ เพคะ” แม่นมอวี่ตอบหลายครั้ง
ไป๋ชิงหลิงหันกลับมามองไทเฮา จากนั้นนางก็พาหลวนอี๋ออกจากห้อง ช่วงนี้หลวนอี๋มีอารมณ์ที่ย่ำแย่มาก
นางอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ต่อหน้าไป๋ชิงหลิง
ไป๋ชิงหลิงจัดทรงผมของนาง และรู้สึกทุกข์ใจกับแม่นางน้อยคนนี้มาก
เมื่อพบนางครั้งแรกนั้น หลวนอี๋เป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่มีชีวิตชีวาและไร้เดียงสา เวลาเพียงหนึ่งปี มีเรื่องมากมายเกิดขึ้น และมันทำให้นาง…… ได้รับประสบการณ์ที่หนักหน่วงเช่นกัน
“เสิ่นโหรวเม่ยนางโหดร้ายจริง ๆ เสด็จแม่ทรงเมตตาและดีกับนางถึงเพียงนั้น และก่อนหน้านี้เสด็จย่าก็ปฏิบัติต่อนางอย่างดี แต่แล้วนางกลับทำร้ายพวกเขา……”หลวนอี๋พูดพร้อมเช็ดน้ำตา
“หลวนอี๋ ตอนนี้พี่แปดของจ้ามีอารมณ์ไม่มั่นคงอย่างมาก อย่าเอาเรื่องของเสิ่นโหรวเม่ย และเสด็จแม่มาพูดต่อหน้าเขาเลย” ไป๋ชิงหลิงกล่าว
ทันใดนั้นหลวนอี๋หยุดร้องไห้และถามว่า “พี่แปดเขาเป็นอย่างไรบ้าง?”
ในตอนเช้านางคอยเฝ้าหรงจิ่งหลิน จากนั้นแม่นมอวี่ก็มาพบนาง และบอกว่าไทเฮาทรงฟื้นแล้ว นางจึงไปดูแลไทเฮา โดยไม่รู้ว่าวันนี้อ๋องเฉินและพระชายาเฉินหายตัวไปโดยสิ้นเชิง
ไป๋ชิงหลิงถอนหายใจและพูดว่า “พี่แปดของเจ้าพาเสิ่นโหรวเม่ยไปหาเสด็จแม่ และเขาก็สังหารเสิ่นโหรวเม่ย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...