หรงเยี่ยกล่าวว่า "หากพระชายาเอ่ยถามเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ยิ่งบอกได้เลยว่าลูก ๆ ที่อยู่กับข้าทั้งสองนั้น ไม่มีสิ่งใดต้องกังวล"
แม่นมซั่งตกใจ นางมองดูหรงจิ่งหลินในอ้อมแขนของหรงเยี่ย จากนั้นมองไปที่สนามหญ้า และพบว่าไม่มีแม้แต่เงาของไป๋ชงเซิงอยู่ที่นั่น
ขณะที่นางกำลังจะถามเกี่ยวกับที่อยู่ของไป๋ชงเซิง หรงเยี่ยได้เหลือบมองไปที่ห้องตรงข้าม แล้วกระซิบว่า "ข้าจะอธิบายเมื่อข้ากลับมา"
หลังจากพูดอย่างนั้น หรงเยี่ยจึงรีบออกจากหอเป่าซิน โดยมีหรงจิ่งหลินอยู่ในอ้อมแขนของเขา
พอดีกับที่ไป๋ชิงหลิงเพิ่งเปิดประตูแล้วเดินออกมา เมื่อเห็นแม่นมซั่งยืนอยู่ที่ห้องของเด็ก ๆ นางจึงตะโกนว่า "แม่นมซั่ง ให้องค์ชายกับองค์หญิงมาทานมื้อเที่ยงกับข้าด้วยกันสิ"
"ท่านอ๋องเพิ่งกลับมาท่านนำองค์ชายและองค์หญิงออกจากจวนไปแล้ว"
"ท่านอ๋องกลับมาแล้วหรือ?" ไป๋ชิงหลิงหันหน้า และมองไปที่ประตูลานบ้าน
แม่นมซั่งเหลือบมองดูด้านนั้น และตอบอย่างใจเย็น "เพคะ องค์หญิงเซิงร้องตะโกนอยากจะออกไปเล่นกับท่านอ๋อง องค์ชายน้อยเองบอกว่ากลับมาก็อยู่แต่ในจวนอ๋องตลอดเวลา ท่านเองก็อยากออกไปสูดอากาศบ้าง ท่านอ๋องจึงพาทั้งสองออกไปด้วยเลยเพคะ บ่าวเองลืมบอกท่านอ๋องไป ว่าวันนี้พระชายาอยู่ที่จวน"
"ถ้าอย่างนั้น ทานอาหารกันเถอะ" ไป๋ชิงหลิงไปที่ห้องอาหาร
แม่นมซั่งแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ทว่าไป๋ชิงหลิงทานอาหารไปเพียงสองคำเท่านั้น พ่อบ้านฉีวิ่งหน้าตั้งไปจากลานหน้าบ้าน แล้วพูดว่า "พระชายา มีคนจากจวนฉางเข้ามา พวกเขาบอกว่าพวกเขาต้องการมาตามหาองค์ชายและองค์หญิงตัวน้อยเพคะ"
ไป๋ชิงหลิงหยุดชั่วคราว และพูดว่า "คนจากจวนฉาง?"
วันนี้นางได้พบกับใครบางคนจากจวนฉางแล้ว และถูกเพิกเฉยตลอดช่วงเช้า ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา จู่ ๆ ก็มีใครบางคนจากจวนฉางมาที่จวนของนางอีกครั้ง
พวกเขาคิดว่าพระชายาของท่านอ๋องหรงอยู่ในความครอบครองของพวกเขาอย่างนั้นหรือ?
แม่นมซั่งดูไม่พอใจเช่นกัน "เกิดอะไรขึ้นกับคนของจวนฉาง?"
"แม่นมซั่ง ไปต้อนรับคนจากจวนฉางเถิด"
ไป๋ชิงหลิงวางตะเกียบลง แล้วเดินออกจากหอเป่าซินพร้อมกับแม่นมซั่ง และไปที่ลานสนามหน้าจวน
เมื่อแม่นมซั่งเห็นหญิงผู้นั้นยืนอยู่ในห้องโถง จู่ ๆ ใบหน้าของนางได้เปลี่ยนไป และนางรู้สึกแย่มาก
ไป๋ชิงหลิงไม่ได้สังเกตเห็นปฏิกิริยาของแม่นมซั่ง เพราะนางกังวลว่าบุคคลใดจากจวนฉางมาที่จวนอ๋องหรงเป็นพิเศษ และทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่ด้วยตนเอง
จนกระทั่งนางก้าวเข้าไปในห้องโถง และเห็นหญิงผู้นั้นหันหลังกลับมาหานาง ไป๋ชิงหลิงสงบลง หญิงผู้นั้นมองไปรอบ ๆ ได้หันกลับมา เมื่อได้ยินเสียงของไป๋ชิงหลิงเดินเข้าไปในห้องโถง
นางมีรูปร่างอวบอ้วน ผิวขาว มือทั้งสองข้างสวมหยกคุณภาพดี ดูมีเกียรติที่สูงส่ง
หญิงผู้นี้ทำให้ไป๋ชิงหลิงนึกถึงฉางเล่อเหยียน ทั้งสองดูคล้ายกันมาก
นางทักทายไป๋ชิงหลิง ว่า "ข้าแซ่หยางแต่งงานเข้าจวนฉางและกลายเป็นอนุภรรยาคนที่สาม"
"แม่นางฉางสาม เชิญนั่งก่อน" ไป๋ชิงหลิงเดินผ่านนางอย่างสง่างาม และนั่งที่ที่นั่งหลัก "ถวายชา"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...