ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 626

สรุปบท บทที่ 626 แม่บ้านสิงได้นำข่าวมาบอกอ๋องเฉิน: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

บทที่ 626 แม่บ้านสิงได้นำข่าวมาบอกอ๋องเฉิน – ตอนที่ต้องอ่านของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

ตอนนี้ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 626 แม่บ้านสิงได้นำข่าวมาบอกอ๋องเฉิน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

แม่บ้านสิงถูกแม่นางฉางสามดุใส่ ทำให้สมองวุ่นวายไปสักครู่ แต่ไม่นานนางก็ดึงสติกลับมาได้

" ฮูหยินสาม ข้าน้อยขอไปจวนอ๋องเฉินรอบหนึ่ง"

" เจ้าจะไปทำอะไรที่จวนอ๋องเฉิน" ในหัวของแม่นางฉางสามวุ่นวายมาก ทำให้ความอดทนที่มีต่อแม่บ้านสิงก็ลดลงไปด้วย สีหน้าก็ดูเคร่งขรึม

ต้องเผชิญกับคนอย่างแม่นางฉางสาม แม่บ้านสิงไม่ได้รู้สึกเสียใจ แต่กลับเหมือนกับเป็นเรื่องที่ปกติ และยังรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่นางควรแบกรับไว้

นางเอ่ยด้วยความอดทน " ข้าน้อยจะไปพูดกับอ๋องเฉินให้ชัดเจน อ๋องเฉินเป็นคนอ่อนโยน ถ้ารู้ว่าคุณหนูรองถูกลงโทษก็เพราะเขา เขาก็จะไม่นิ่งดูดายแน่นอน ถึงแม่ว่าเรื่องนี้จะทำให้ต้องฉีกหน้ากับนายผู้เฒ่า แต่ว่า..."

" ข้าไม่มีเวลามาคิดเรื่องมากขนาดนี้แล้ว ทำตามที่เจ้าพูดละกัน รีบไปจวนอ๋องเฉินเชิญอ๋องเฉินมา ข้าจะไปดึงเวลาที่ห้องโถงบรรพชนไว้"

" พ่ะย่ะค่ะ"

แม่บ้านสิงเดินออกไปอย่างรีบเร่ง

แม่นางฉางสามปล่อยลูกสาวน้อยแล้วรีบไปห้องโถงบรรพชน

ฉางเล่ออันที่ถูกโยนไว้ที่ลานบ้าน หยีตาสองข้าง จ้องมองทางที่แม่บ้านสิงเดินจากไป นัยน์ตาเผยให้เห็นสายตาโหดร้าย...

ทำไมฉางเล่อเหยียนจะลำบากเล็กน้อยก็ไม่ได้ แต่ว่านางนั้น เพราะเรื่องในวันนั้น เกือบจะถูกนายผู้เฒ่าตีตายไปแล้ว แต่แม่ของนางก็ไม่เคยดูร้อนรนแบบนี้มาก่อน

นางเองก็ต้องการให้ฉางเล่อเหยียนลองลิ้มรสการถูกลงโทษด้วยการลงโทษของบรรพชนเหมือนกัน

อ๋องเฉินนั้นกลับถึงจวนชั่วยามก่อนแล้ว พ่อบ้านประจำจวนอ๋องได้มาเคาะห้องอ่านหนังสือของเขา

หรงเฉินมือถือหนังสือไว้ เอ่ยด้วยน้ำเสียงธรรมดา " เข้ามา"

พ่อบ้านไอ้เดินเข้ามา เอ่ย " ท่านอ๋อง ข้างนอกมีหญิงชราคนหนึ่งต้องการพบท่าน"

" หญิงชราหรือ" หรงเฉินวางหนังสือลง มองเขาพร้อมขมวดคิ้ว

พ่อบ้านไอ้เอ่ย " พ่ะย่ะค่ะ ได้รับบาดเจ็บหนักด้วย ขาทั้งสองข้างหัก ตอนที่คลานมาถึงจวนอ๋องนั้นก็เหลือลมหายใจสุดท้าย นางบอกว่าต้องการพบอ๋องเฉิน"

" คนอยู่ไหน" ทันทีที่หรงเฉินได้ยินว่าหญิงชราถูกตีจนขาหักนั้นก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที เดินออกจากโต๊ะอ่านหนังสืออย่างรวดเร็ว

พ่อบ้านไอ้เดินตามหลัง เอ่ย " นางไม่กล้าเข้าจวน นั่งอยู่หน้าประตูจวน ข้าน้อยได้ให้หมอมากฝีมือไปดูอาการก่อนแล้ว"

หรงเฉินทำหน้าเคร่ง เดินไปไปถึงหน้าประตูจวนอย่างรีบเร่ง ทันทีที่ออกมาก็เห็นว่าเป็นแม่บ้านของคุณหนูรองแห่งบ้านตระกูลฉาง

ทั้งตัวของนางเต็มไปด้วยเลือด เหมือนกับได้รับบาดเจ็บมาอย่างหนัก ในปากก็ยังมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด

หรงเฉินเองก็คิดไม่ถึงเลยว่า คนที่ชั่วยามก่อนยังดีๆ กลับบาดเจ็บถึงขนาดนี้ได้

เขาย่อตัวลงแล้วเอ่ยถาม " เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า"

สายตาที่เศร้าหมองของแม่บ้านสิงเปล่งประกายทันทีที่เห็นอ๋องเฉิน เอ่ย " ท่านอ๋อง ขอท่าน ได้โปรดช่วย...คุณหรูรองของข้า..."

" นางเป็นอะไร"

" นางถูก...ถูกนายผู้เฒ่า..นำไปยังห้องโถงบรรพชนของตระกูลฉางแล้ว" แม่บ้านสิงพยายามเก็บลมหายใจสุดท้าย เพื่อพูดให้จบ " นายผู้เฒ่า...เห็นว่า...คุณหนูรอง...กับ...อ๋องเฉิน...นั่งรถม้า...กลับจวนด้วยกัน...ทรง...โกรธมาก"

หรงเฉินได้ยินก็โมโหมาก " นั่งรถม้ากับข้าแล้วจะทำไม เป็นข้าเองที่เชิญนางมา ตอนนั้นเจ้าก็อยู่ในรถม้าด้วย แล้วข้าจะทำอะไรกับคุณหรูรองของเจ้าในรถม้าได้ยังไง ผู้เฒ่าหัวดื้อคนนี้นี่ "

" แค่ก" แม่บ้านสิงกระอักเลือดทันที

พ่อบ้านไอ้เอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา " ท่านอ๋อง อาการบาดเจ็บนางสาหัสมาก"

" ใครเป็นคนทำเจ้าสาหัสขนาดนี้"

แม่บ้านสิงไม่มีแรงจะพูดอีกแล้ว

" อะไรนะ" หลวนอี๋ร้องด้วยความตกใจ

"เขาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเจ้าสินะ"

หลวนอี๋ลืมตาโพลง นางไม่กล้าเชื่อสิ่งที่ได้ยิน นางกำมือของไป๋ชิงหลิงไว้แน่น ก้มหน้าเอ่ย " เขาไม่เคยพูดถึงเลย และข้าก็ไม่รู้ว่าจวนฉางจะมีกฎแบบนี้ด้วย"

" แล้วเจ้าคิดว่า เขาจะไม่รู้ว่าตระกูลของตัวเองมีกฎแบบนี้อยู่หรือ"

หลวนอี๋เงยหน้าขึ้น จ้องตาค้างกับไป๋ชิงหลิง " พี่สะใภ้เจ็ดรู้ได้ยังไง"

" คุณหนูฉางสองเป็นคนบอกข้า"

หลวนอี๋ยิ้มอย่างขมขื่น ความรู้สึกที่มีต่อฉางซิงเว่ยพังทลายอีกครั้ง " ในเมื่อคุณหนูฉางสองยังรู้ เขาในฐานะผู้สืบทอด จะไม่รู้ได้ยังไง"

" ในเมื่อใจเจ้ารู้แล้ว ทำไมยังจะโดดเข้าไปในฝันที่เขาแต่งขึ้นมาล่ะ ความฝันนั้นสวยงาม แต่ใครจะไปรู้ได้ล่ะว่า สุดท้ายจะเป็นการโดดเข้ากองไฟหรือเปล่า" ไป๋ชิงหลิงลูบไปบนใบหน้าที่ไร้เดียงสาของหลวนอี๋ " เขารู้ทั้งรู้ว่าทำไม่ได้ แต่ก็ยังจะมาเข้าหาเจ้า เจ้าเดาสิว่าเขามีเป้าหมายอะไรกันแน่ เขาจะยอมทำเพื่อองค์หญิงคนเดียวแล้วทิ้งฐานะของตระกูลฉางได้หรือ"

"เอ่อ..."

" ในเมื่อเขาเคยรักองค์หญิงหมิงหยางอย่างลึกซึ้งมาแล้ว ยอมกระทั้งต่อต้านตระกูลเพื่อองค์หญิง แล้วทำไมเข้าไม่แต่งเข้าเป็นลูกเขยอีกตระกูล ยอมทิ้งจวนฉางเพื่อทำฝันขององค์หญิงให้เป็นจริงล่ะ"

หัวใจที่ลังเลไปมาของหลวนอี๋ ในที่สุดก็ได้คำตอบ " พี่สะใภ้เจ็ดจะบอกว่า เขาเข้าหาข้าเพราะเป้าหมายอื่นหรือ"

" เขาอาจจะ อยากจะให้ฝ่าบาทออกราชโองการหมั้นหมาย ถ้าเป็นอย่างนั้น นายผู้เฒ่าฉางเองก็ไม่กล้าขัดราชโองการ และคนที่จะทำให้ฝ่าบาทออกราชโองการได้นั้นก็คือเจ้า " ไป๋ชิงหลิงยกมือขึ้น แล้วจี้ไปบนจมูกนางหลายที

หลวนอี๋กัดริมฝีปาก ขมวดคิ้วเอ่ย " ช่วงนี้เสด็จพ่อก็คิดเรื่องงานแต่งข้าจนเครียด พระองค์เคยถามข้าว่า ข้าชอบฉางซิงเว่ยหรือไม่ แล้วเขาเป็นคนยังไง ข้ารู้ว่าเสด็จพ่อต้องการชดเชยความเสียใจของข้า"

" เจ้าคิดได้ก็ดีแล้ว คนอื่นเห็นเจ้าทะลุปรุโปร่ง แต่เจ้ากลับไม่รู้ ระวังจะถูกคนอื่นขายแล้วยังไปช่วยเขานับเงินอีก"

"ข้าเข้าใจแล้วล่ะพี่สะใภ้เจ็ด ต่อไปนี้ข้าจะไม่เชื่อสิ่งที่เขาพูด จดหมายพวกนี้ พรุ่งนี้ข้าจะเอาไปคืน" หลวนอี๋หยิบจดหมายบนโต๊ะแล้วเก็บเข้าไปในกล่องที่ทำอย่างประณีต

เวลานี้ อิงเหลียนได้เดินมาอย่างรีบเร่ง ยกมือคารวะ เอ่ย" พระชายา พ่อบ้านในจวนอ๋องเฉินให้คนส่งคำพูดมาว่า เกิดเรื่องกับคุณหนูฉางสองแล้ว เฉินอ๋องให้พระชายาไปบ้านตระกูลฉางสักครั้ง"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น