ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 632

ไป๋ชิงหลิงลุกขึ้นมาจากบนร่างกายของเขา เขารีบสวมเสื้อผ้าและเดินไปนอกประตูอย่างรวดเร็ว

ไป๋ชิงหลิงรู้ว่าเขาจะไปทำอะไร!

นี่เป็นเรื่องราวทั้งชีวิตของหลวนอี๋ เขาไม่อาจมองข้ามมันไปได้

หากวันใดวันหนึ่งจักรพรรดิเหยาอารมณ์ดี ทรงถ่ายทอดพระราชกฤษฎีกาแต่งงานโดยตรง เช่นนั้นคงลำบากเป็นแน่

เวลานี้นางกำลังสงสัยอาการป่วยของหมิงหยาง บางทีมันอาจจะเกี่ยวข้องกับเหลียนซางและฉางซิงเว่ย

หลังจากที่หรงเยี่ยออกไปจากจวนติ้งเป่ยโหว เขาก็สั่งให้อิงซาไปกระจายข่าวลืออันชั่วร้ายเกี่ยวกับการรักร่วมเพศของฉางซิงเว่ยไปยังโลกภายนอก!

เขาไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่น ดังนั้นเขาจึงหาข้อแก้ตัวที่จะระงับจิตใจที่กระสับกระส่ายของเสด็จพ่อลงก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เสด็จพ่อของเขาออกพระราชกฤษฎีกาแต่งงานออกมาโดยตรง

มีทหารองครักษ์เหยี่ยวดำคอยให้ความช่วยเหลือ ข่าวลือของคุณชายใหญ่แห่งจวนฉางแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว

ไม่นานมันก็มาถึงพระราชวัง

ในตอนที่จักรพรรดิเหยากำลังเดินออกมาจากตำหนักเฉียนชิง เขาก็ได้ยินเหล่าขันทีที่เดินผ่านไปมาพูดคุยถึงเรื่องของฉางซิงเว่ยเป็นการส่วนตัว

จักรพรรดิเหยาได้ยินชื่อของฉางซิงเว่ย เขาจึงถามขั้นทีที่อยู่ด้านข้างออกมาทันที “อาฝู๋ พวกเขากำลังพูดคุยเรื่องอะไรกันอยู่?”

“ข้าน้อยจะไปถามเดี๋ยวนี้” ขันทีที่ถูกจักรพรรดิเหยาถาม เป็นขันทีหนุ่มอายุประมาณสิบห้าปี เขาเดินตามขันทีที่เพิ่งเดินผ่านไปและถามออกมาด้วยน้ำเสียงเชิงต่อว่า “พวกเจ้ากำลังพูดคุยอะไรกันอยู่ ฝ่าบาทเสด็จออกมาแล้วไม่เห็นหรือไง หรือว่าพวกเจ้าอยากจะหัวขาด”

ขันทีน้อยสี่ห้าคนหันกลับมา เห็นจักรพรรดิเหยาค่อย ๆ เดินมาด้านหลังอย่างช้า ๆ พวกเขาคุกเข่าลงด้วยความตกใจ ก้มหน้าถวายความเคารพ “ถวายบังคมฝ่าบาท ขอฝ่าบาททรงอายุยืนนาน หมื่นปี หมื่น หมื่นปี”

“จักรพรรดิกำลังถามพวกเจ้าว่าเมื่อครู่พวกเจ้าพูดคุยถึงเรื่องอันใด?” แม้ว่าว่านฝู๋ยังอายุน้อย แต่อารมณ์ของเขานั้นไม่ธรรมดา

เหล่าขันทีน้อยไม่กล้ารีรอ รีบตอบกลับไปพร้อมกันทันทีว่า “เรื่องของคุณชายฉาง”

“ได้ยินมาว่าคุณชายหลงรักไม้ป่าเดียวกัน”

“พวกข้าเองก็แค่ได้ยินมาเท่านั้น”

พวกเขาพูดออกมาพร้อมกัน ทำให้ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ว่านฝู๋จึงกล่าวออกมาว่า “หุบปาก เจ้าเป็นคนตอบคำถาม”

เขาเลือกขันทีซึ่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าผู้หนึ่งออกมาเป็นคนตอบคำถาม

เสียงของขันทีน้อยสั่นเทา เขาตอบกลับมาว่า “กราบทูลฝ่าบาท ข้า......ข้าก็แค่ได้ยินมา......ฉางจ้วงหยวนหลางเป็น......เป็น......คนชอบเพศเดียวกัน!”

จักรพรรดิเหยาหยุดการเคลื่อนไหวในทันที เขาขมวดคิ้วขึ้นมาพร้อมกับท่าทางที่จริงจัง

ว่านฝู๋ดุด้วยน้ำเสียงอันเฉียบคม “ไปเอาข่าวลือพวกนี้มาจากที่ไหน พวกเจ้าถึงได้กล้าเอาเรื่องพวกนี้มาพูดคุยกันในพระราชวัง”

“ข้าไม่ได้เป็นคนแพร่งพราย ข้าเพียงแค่ได้ยินมาเท่านั้น ได้ยินว่า......ได้ยินว่าฉางจ้วงหยวนหลางตกหลุมรักเสี่ยวเต๋อจือ และเสี่ยวเต๋อจือก็เคยถูกฉางจ้วงหยวนหลาง......กอดมาก่อน”

“หุบปาก!” ว่านฝู๋เตะขันทีที่อยู่ตรงหน้า

ใบหน้าของจักรพรรดิเหยามืดมนลงทุกที เขาสะบัดแขนเสื้อและหันหลัง เดินกลับไปยังตำหนักเฉียนชิงโดยตรง

หลังจากเข้ามาห้องโถงชั้นใน จากนั้นก็ถ่ายทอดคำสั่งออกมา “ไปพาตัวเสี่ยวเต๋อจือมาเข้าเฝ้า!”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

หลังจากว่านฝู๋ออกไปได้ไม่นานก็กลับมา เขาแอบเช็ดเหงื่อที่ไหลออกมาพร้อมกับรายงานว่า “กราบทูลฝ่าบาท เสี่ยวเต๋อจือตายแล้ว!”

“ตายแล้ว!” จักรพรรดิเหยาวางมือลงทันที “ตายได้อย่างไร?”

“ในตอนที่ข้าไปเชิญเสี่ยวเต๋อจือมาเข้าเฝ้า เสี่ยวเต๋อจือเพิ่งจะถูกพาตัวขึ้นมาจากบ่อ เขากระโดดลงบ่อเพื่อฆ่าตัวตาย” ว่านฝู๋ปาดเหงื่ออีกครั้งพร้อมกล่าวว่า “ข้าได้สอบถามผู้ดูแลบ่อน้ำที่ใกล้ชิดกับเสี่ยวเต๋อจือ เขาบอกว่าช่วงนี้ฉางจ้วงหยวนมาหาเสี่ยวเต๋อจืออยู่บ่อยครั้ง และเขาก็เคยเห็นฉางจ้วงหยวนจับมือเสี่ยวเต๋อจืออยู่หลายครั้ง!”

“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร!” จักรพรรดิเหยาทุบโต๊ะด้วยความโกรธ

เขามีความรู้สึกว่ากำลังถูกผู้อื่นหลอกลวงหรือตบตา

เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ฉางซิงเว่ยเป็นสุภาพบุรุษที่อุทิศตนและพร้อมจะทุ่มเททุกอย่างให้กับหน้าที่ เขาเองก็กำลังเตรียมออกพระราชกฤษฎีกาให้ฉางซิงเว่ยแต่งงานกับหลวนอี๋ และบอกให้หลวนอี๋ที่อยู่ในจวนองค์หญิงเตรียมตัวให้พร้อม แต่กลับเกิดเรื่องราวเช่นนี้ขึ้นมาเสียก่อน!

ต้องบอกเลยว่ามันทำให้จักรพรรดิเหยาต้องยับยั้งช่างใจ!

และความคิดเรื่องงานแต่งงานจะต้องถูกพิจารณาอีกครั้ง......

“ขอรับ ข้าจะถ่ายทอดคำสั่งของท่านในทันที” พ่อบ้านหวู่หันหลังและจากไป นายผู้เฒ่าให้อาหารนกของเขาต่อ แต่หลังจากพ่อบ้านหวู่จากไปได้ไม่นานเขาก็วิ่งกลับมา

นายผู้เฒ่าขมวดคิ้วและมองไปที่เขา “เหตุใดถึงได้เร็วถึงเพียงนี้?”

“มีผู้สูงศักดิ์มาที่นี่!”

“ใคร?”

“ท่านอ๋องหรง ท่านอ๋องเฉิน และพระชายาอ๋องหรง!”

“ปัง!” เสียงดังขึ้นมา นายผู้เฒ่าฉางตกใจจนอาหารนกหล่นลงพื้น “อ๋องหรงมาได้อย่างไร เหตุใดเขาจึงไม่บอกข้าก่อน เร็วเข้า เร็วเข้า รีบออกไปบอกท่านอ๋องหรงว่าร่างกายของข้าไม่ค่อยดี......”

“ข้ารู้อยู่แล้วว่าร่างกายของนายผู้เฒ่าไม่ค่อยดี ดังนั้นข้าจึงพาพระชายามาช่วยตรวจร่างกายของท่านโดยเฉพาะ!” นายผู้เฒ่าฉางยังไม่ทันพูดจบ เสียงของหรงเยี่ยก็ดังขึ้นมาจากด้านนอกของลานในตำหนัก

ร่างกายของนายผู้เฒ่าฉางแข็งทื่อ ยืนแน่นิ่งอยู่ตรงที่เดิม

เขาเห็นหรงเยี่ยเดินจูงมือไป๋ชิงหลิงเข้ามาจากด้านนอกของตำหนัก

การมาถึงของพวกเขา เหมือนกลับมาเพื่อชื่นชมทิวทัศน์อันงดงาม ทำให้นายผู้เฒ่าฉางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเองกลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง

สายตาของเขาจับจ้องไปที่เรือนร่างของไป๋ชิงหลิง ร่างของหญิงสาวปรากฏขึ้นมาในสมองของเขาอย่างไม่รู้ตัว......

นางในวัยเด็กเองก็ชอบสวมกระโปรงยาวสีฟ้าที่งดงามพร้อมกับเสื้อคลุม เวลาก้าวเดินก็เหมือนกับนกนางแอ่น

“นายผู้เฒ่า นายผู้เฒ่า......” พ่อบ้านหวู่เรียกออกมาสองสามครั้ง

นายผู้เฒ่าได้สติกลับคืนมาในทันใด ในตอนนั้นหรงเยี่ยได้จูงมือของไป๋ชิงหลิงเดินเข้ามาแล้ว!

นายผู้เฒ่าได้สติกลับคืนมา ก้าวออกไปเพื่อต้อนรับ “ถวายบังคมท่านอ๋องหรง พระชายาหรง และท่านอ๋องเฉิน......”

“การที่จะได้เจอท่านสักครั้ง มันไม่ใช่เรื่องง่ายเอาเสียเลย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น