ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 635

แม่นางฉางสามเงยหน้าขึ้น จับจ้องไปบนร่างกายของลูกสาวตัวน้อยด้วยสายตาอันเย็นชา เมื่อเห็นว่ามีน้ำตาไหลออกมาจากขอบตาของนาง แม่นางฉางสามจึงเบือนหน้าหนีแล้วพูดว่า “เมื่อวานในพระราชวัง เจ้าตกลงไปในน้ำ ร่างกายของเจ้าตากลมหนาว อย่าเอาอาการป่วยมาติดพี่รองของเจ้าจะดีกว่า เจ้าเองก็กลับตำหนักของตัวเองไปพักผ่อนเถอะ”

“แม่ ข้า......ข้ารู้แล้ว” ฉางเล่ออันกัดริมฝีปากของตนเอง ทำท่าทางเหมือนกับผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรม ทำความเคารพต่อไป๋ชิงหลิงพร้อมกล่าวว่า “พระชายาหรง ข้าขอตัวกลับก่อน”

“เดี๋ยวก่อน!”

ในตอนที่ฉางเล่ออันกำลังหันหลังกลับไป จู่ ๆ ไป๋ชิงหลิงก็เอ่ยปากขึ้นมา

แม่นางฉางสามมองมาที่นาง “พระชายา ท่านมีเรื่องอะไรกับฉางเล่ออันอย่างนั้นหรือ?”

“แม่นางฉางสาม ยืนมองจากด้านนอกคงไม่มีทางทำให้คุณหนูรองแห่งตระกูลฉางติดหวัดได้ ถ้าอย่างนั้นปล่อยให้คุณหนูสี่แห่งตระกูลฉางอยู่กับข้าสักพักเถอะ” ไป๋ชิงหลิงก้าวออกมาด้านหน้า ยื่นมือออกมาจับข้อมือของฉางเล่ออันเพื่อแสดงจิตใจเมตตา

นางไตร่ตรองมาเป็นอย่างดี แทนที่จะให้อีกฝ่ายวางแผนและลงมาอย่างลับ ๆ ไม่สู้ปล่อยให้อีกฝ่ายอยู่ในที่โล่งจะดีกว่า

นางจะได้มีความมั่นใจมากขึ้น

เนื่องจากนางไม่เหมือนกับฉางเล่อเหยียนที่แสดงออกอย่างเปิดเผย!

นางคือผู้หญิงที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม ผู้หญิงประเภทนี้น่ากลัวที่สุด

ภายนอกอาจจะดูอ่อนโยน ทำให้เจ้าลดความระมัดระวังในหัวใจ ทำให้เจ้าเข้าไปเชื่อมความสัมพันธ์ แต่ใครจะไปรู้ว่านางแทงเจ้าข้างหลังในเวลาใด

ก่อนอื่นนางแสดงความเมตตาฉางเล่ออัน หาเหตุผลให้ตนเองได้เข้าใกล้กับนาง หลังจากนั้นก็ทำการเชื่อมความสัมพันธ์กับฉางเล่ออัน!

แม่นางฉางสามคิดไม่ถึงว่าไป๋ชิงหลิงจะให้นางอยู่ที่นี่ต่อไป นางรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก นางไม่อยากให้คนแพศยาเช่นนี้อยู่ใกล้ฉางเล่อเหยียน แต่ด้วยสถานะของไป๋ชิงหลิง นางก็ไม่อาจเข้าไปต่อรองหรือขับไล่อีกฝ่ายออกไปได้

“ได้ เช่นนั้นเจ้ายืนอยู่ด้านนอก ไม่ต้องเข้าไปด้านใน” แม่นางฉางสามกล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจสักเท่าไหร่

ฉางเล่ออันกล่าวออกมาเสียงต่ำ “เจ้าค่ะ!”

ไป๋ชิงหลิงจูงมือของนางเดินเข้าไปในห้อง แม่นางฉางสามหยุดอยู่หน้าประตูชั้นใน หันกลับมามองฉางเล่ออันด้วยการแจ้งเตือน มือของนางเปิดม่านชั้นในแล้วกล่าวว่า “พระชายาเชิญเข้าไปด้านในก่อน ส่วนเจ้าก็คอยดูอยู่ตรงนี้”

ไป๋ชิงหลิงลูบไปบนหลังมือของฉางเล่ออัน “คุณหนูสี่ ข้าขอตัวเข้าไปด้านในก่อน เจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้”

ฉางเล่ออันตอบรับด้วยท่าทางเชื่อฟัง

ไป๋ชิงหลิงเดินผ่านข้างกายของนางไป เข้าไปด้านใน แม่นางฉางสามไม่ได้ตามนางเข้าไป นางยืนอยู่หน้าประตูราวกับว่าต้องการป้องกันไม่ให้ฉางเล่ออันแอบเข้าไปด้านใน

เมื่อไป๋ชิงหลิงพูดออกมาเช่นนั้น แม่นางฉางสามก็ไม่กล้าที่จะขับไล่ฉางเล่ออันออกไปจากที่นี่

และฉางเล่ออันก็ยืนอยู่หน้าประตูเพื่อรอการกลับมาของไป๋ชิงหลิง

ผ่านไปได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ไป๋ชิงหลิงเดินออกมาจากด้านใน แม่นางฉางสามถามออกไปว่า “พระชายา อาการบาดเจ็บของเล่อเอ๋อร์เป็นอย่างไรบ้าง!”

“แม่นางฉางสามอยากทราบว่าบาดแผลของนางสามารถรักษาได้หรือไม่? หลังจากทำการรักษาแล้วจะมีรอยแผลเป็นหลงเหลืออยู่หรือเปล่า?”

แม่นางฉางสามพยักหน้า “หากบาดแผลตั้งกล่าวหลงเหลืออยู่ เช่นนั้นจะมีผลกระทบกับนางเป็นอย่างมาก”

“ท่านยังจำสิ่งที่ข้าพูดกับท่านตอนที่อยู่ในจวนอ๋องได้หรือไม่?”

แม่นางฉางสามผงะเล็กน้อย

ไป๋ชิงหลิงไม่รอให้นางนึกออกก็พูดออกมาก่อนว่า “ข้าสามารถรักษารอยแผลเป็นบนร่างกายของคุณหนูรองแห่งตระกูลฉางได้ สามารถทำให้นางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อย่างสมบูรณ์”

ใบหน้าของแม่นางฉางสามค่อย ๆ อ่อนตัวลง ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ข้าจะให้คนส่งค่ารักษาเหล่านี้ไปยังโรงหมอฮุ่ยหมิน”

ไป๋ชิงหลิงล้วงเข้าไปในแขนเสื้อ นำครีมบำรุงผิวออกมาจากห้วงมิติเวลา จากนั้นมอบให้กับแม่นางฉางสาม “ฮูหยินเอายาตัวนี้ไปลองใช้ดูก่อน มันสามารถบรรเทารอยไหม้ที่คอของท่านได้!”

แม่นางฉางสามยกมือขึ้นมาปิดแผลที่ต้นคอของตนเองโดยไม่รู้ตัว ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็ยื่นออกมารับครีมบำรุงผิดที่ไป๋ชิงหลิงมอบให้ “ขอบคุณมาก!”

“ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ!” มุมปากของไป๋ชิงหลิงยกขึ้น แววตาของนางจับจ้องไปที่ต้นคอของแม่นางฉางสาม

อารมณ์ที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นมาทันใด รอยยิ้มบนใบหน้าของนางค่อย ๆ ปรากฏขึ้น “แทนที่จะนัดวันเพื่อพบเจอ ไม่สู้มาพบเจอกันเช่นนี้จะดีกว่า เชิญพระชายา”

คนกลุ่มหนึ่งเดินทางไปยังตำหนักของฉางเล่ออัน

มาถึงด้านในของตำหนัก ไป๋ชิงหลิงบอกให้ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำถอยออกไป ส่วนนางกับฉางเล่ออันก็เข้าไปในห้องส่วนตัว

ในวินาทีที่ประตูห้องปิดลง รอยยิ้มบนใบหน้าของฉางเล่ออันก็จางหายไปในทันใด

นางเดินมาด้านหน้าของไป๋ชิงหลิง ถอดเสื้อผ้าของตนเองออกมาต่อหน้าของไป๋ชิงหลิงโดยไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น

ไป๋ชิงหลิงไม่ได้มีทีท่าว่าจะห้ามนางแต่อย่างใด และไม่ได้ถามนางว่าเหตุใดจึงถอดเสื้อผ้า จ้องมองเสื้อผ้าของนางที่ร่วงหล่นลงพื้น จากนั้นก็เปิดเผยให้เห็นรอยแผลคู่หนึ่งบนมือของนาง

ในตอนที่ไป๋ชิงหลิงสังเกตเห็นรอยแดงของแผลบนข้อมือของนาง ไป๋ชิงหลิงก็ถามออกมาว่า “อยากได้ครีมบำรุงผิวอย่างนั้นหรือ?”

“ไม่” น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างของฉางเล่ออัน นางมองมาที่ไป๋ชิงหลิงพร้อมกับกล่าวว่า “ข้าก็แค่อยากหาใครสักคนมาช่วยระบายความรู้สึกของข้าเท่านั้น”

“เจ้าอยากจะระบายกับข้า?” ไป๋ชิงหลิงถามกลับไป “เจ้าคือคุณหนูสี่แห่งตระกูลฉาง น่าจะมีคุณหนูจากหลายตระกูลยินดีที่จะเป็นเพื่อนกับเจ้า”

“ใช่ แต่ที่พวกนางเข้าหาข้า ทั้งหมดก็เป็นเพราะผลประโยชน์ พวกนางต้องการเงินทอง ต้องการสิ่งของที่ข้ามี เนื่องจากจวนฉางของพวกเรานั้นร่ำรวย!” ฉางเล่ออันกล่าวออกมาพร้อมกับดวงตาที่กลายเป็นสีแดง

ไป๋ชิงหลิงกล่าวออกมาว่า “สวมเสื้อผ้าก่อนเถิด เดี๋ยวจะไม่สบาย”

“อื้อ” ฉางเล่ออันหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมไปบนร่างกายของนาง หลังจากสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว นางก็หันมาพูดกับไป๋ชิงหลิงว่า “ข้าสามารถระบายความรู้สึกกับพระชายาได้หรือไม่ เนื่องจากข้ารู้สึกว่าพระชายาไม่ใช่คนที่หวังผลประโยชน์อะไรจากตัวข้า”

“เจ้าอยากพูดอะไร ข้าล้วนยินดีที่จะเป็นผู้รับฟัง!” ไป๋ชิงหลิงกล่าวออกไปอย่างอดทน

ฉางเล่ออันนั่งลงด้านหน้าของนาง พับแขนเสื้อข้างขวา จ้องมองมาที่รอยแผลเป็นพร้อมกล่าวว่า “แม่ของข้าเป็นห่วงเรื่องอาหารบาดเจ็บของพี่รองเป็นอย่างมาก นางกินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่บาดแผลบนร่างกายของข้านั้น ทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือของนาง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น