ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 659

ฝีมือการทอผ้าของร้านอาภรณ์ตระกูลจงนั้นไม่เป็นรองใครในเมืองหลวง สมัยยังสาวนั้น แม่นางจงเคยเป็นหญิงปักผ้าประจำการหอปักผ้าในวังด้วย

ไป๋ชิงหลิงกับหลิวหานเยียนมาถึงร้านอาภรณ์ตระกูลจง ยังไม่ทันได้ก้าวผ่านธรณีประตูก็ได้ยินเสียงผู้หญิงทะเลาะกันดังออกมาจากข้างใน " ข้าต้องตาผ้าชุดนี้ เจ้าต้องการเงินเท่าไหร่ก็บอกมาเลย"

" คือว่า...พระชายาอันจวิกะพริบตา เสื้อผ้าสำเร็จชุดนี้ ท่านผู้ดีท่านหนึ่งเอามาไว้ร้านหญิงชาวบ้านสั่งทำเป็นพิเศษ ไม่สำคัญว่าจะจ่ายราคาเท่าไหร่เพค่ะ ร้านอาภรณ์ตระกูลจงของข้าไม่ทำเรื่องไม่รักษาสัจจะ"

หลิวหานเยียนยั้งฝีเท้าไว้ ไป๋ชิงหลิงเองก็หันหน้ากลับไปมองหลิวหานเยียนอย่างไม่รู้ตัว

ก่อนฮูหยินติ้งเป่ยโหวจะเสียชีวิตก็เคยเล่าให้นางฟัง ในตอนนั้นไม่เพียงแต่ติ้งเป่ยโหวเท่านั้นที่ต้องการแต่งกับแม่ของนาง แต่ท่านอ๋องอันจวินก็ชอบนางเหมือนกัน

ก็นั่นแหละ ไม่เป็นคู่อาริก็ไม่ค่อยจะพบเจอกัน

หรงเยี่ยจับมือของไป๋ชิงหลิงไว้ แล้วก็กระซิบเสียงแผ่วเบาข้างหูนาง " พระชายา เข้าไปเถิด"

ไป๋ชิงหลิงดึงสติกลับมาได้ ผงกหัวแล้วก็สะกิดชายเสื้อของหลิวหานเยียนเอ่ย " ท่านแม่ เราเข้าไปกันเถิด"

หลิวหานเยียนพยักหน้า กำลังจะเข้าไปในร้านอาภรณ์กับไป๋ชิงหลิงนั้น จู่ๆ ก็มีเสียงผู้ชายที่คุ้นเคยดังมาจากข้างหลัง " อ๋องหรง"

หรงเยี่ยและไป๋ชิงหลิงหันหน้ากลับไปดูพร้อมกัน พอดีกับม้าของอ๋องอันจวินหยุดอยู่หน้าร้านอาภรณ์ เขาลงมาจากหลังมา แล้วก็เดินมาด้วยฝีเท้าเร่งรีบ

" เสด็จอา" หรงเยี่ยและไป๋ชิงหลิงส่งเสียงเรียกพร้อมกัน

อ๋องอันจวินยิ้มเอ่ยถาม " พวกเจ้าก็มาร้านอาภรณ์หรือ"

หรงเยี่ยพูดโดยไม่ปิดบัง " พ่อตาของข้าหาคนรักของเขาจนพบ จึงอยากจะจัดงานแต่งรื่นเริงให้นางอีกครั้งในวันที่ แปด เดือนสิบเอ็ด"

อ๋องอันจวินขมวดคิ้ว แล้วก็หันหน้าไปมองหญิงชราผมหงอกขาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ไป๋ชิงหลิง

อ๋องอันจวินตะลึงงัน จ้องหน้าหลิวหานเยียน เอ่ยถาม " คนรักที่ติ้งเป่ยโหวหาพบนั้นคือท่านใดหรือ"

จากที่เขารู้มานั้น ฮูหยินจวนโหวคนนั้น ถูกจัดการอย่างลับๆ ไปแล้ว

แม้ว่าจะมีคนน้อยนักที่รู้ความจริง รู้เพียงว่า ฮูหยินติ้งเป่ยโหวนั้นป่วยแล้วเสียชีวิต แต่เรื่องนี้หลอกเขาไม่ได้

หลิวหานเยียนตัวปลอมคนนั้นถูกติ้งเป่ยโหวจับได้ แล้วถึงถูกพระชายาหรงฆ่าตาย

หลิวหานเยียนตัวจริงในตอนนั้น แม้แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่านางไปที่ไหน

ช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้นแม้ว่าเขาจะไม่เคยตามหานาง แต่ก็รู้ว่าโอกาสหาพบนั้นริบหรี่ ตอนนี้กลับได้ยินอ๋องหรงพูดแบบนี้ ใจที่ว่างเปล่าของอ๋องอันจวินนั้นก็กลับเร่าร้อนขึ้นมาอีกครั้ง

ไป๋ชิงหลิงเองก็สังเกตเห็นว่าสีหน้าของอ๋องอันจวินนั้นเปลี่ยนไป

นางคิดว่า เรื่องนี้จะยุ่งยากขึ้นแล้ว

พระชายาอันจวินนั้นไม่ใช่ผู้หญิงที่น่าคบหาเท่าไหร่ นางก็ไม่อยากให้แม่ของตัวเองถูกพระชายาอันจวินจับตา

" เสด็จอา เหมือนท่านจะสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ" หรงเยี่ยย้อนเอ่ยถาม

อ๋องอันจวินเก็บสายตาที่มองนางหลิวหานเยียน เอ่ย " ข้าก็มีเพื่อนคนหนึ่ง รู้จักกับติ้งเป่ยโหว และสหายคนนั้นก็เป็นคนที่ท่านโหวเฝ้าคิดถึงมานานเหมือนกัน ข้าคิดว่าสหายท่านั้นกลับมาซะอีก"

พูดจบ พระชายาอันจวินก็เดินออกมาจากข้างใน

สีหน้าของนางตะลึงงัน จ้องมองหลิวหานเยียนไม่ยอมกะพริบตา สีหน้าเปลี่ยนเป็นซีดเผือดทันที จากนั้นก็ชี้ไปยังหลิวหานเยียน ร้องด้วยความตกใจ " หลิว...หลิวหานเยียน"

" ตุ๊บ ตุ๊บ" เข่าทั้งสองข้างของพระชายาอันจวินอ่อนล้า แล้วก็ซบลงไปกับพื้น

หญิงรับใช้ข้างตัวนางรีบเอื้อมมือเข้าไปประคองนางไว้

และอ๋องอันจวินก็รีบมาข้างนางแล้วก็ยื่นมือไปประคองนางลุกขึ้นทันที

หันหน้ากลับไป แล้วสายตาคู่นั้นก็ตกลงไปบนตัวหลิวหานเยียน พอดีกับสายตาของหลิวหานเยียนก็มองมาพอดี ทำให้พวกเขาสบตากัน...

คงจะรู้ว่าปิดบังไม่ได้แล้ว หลิวหานเยียนถอดผ้าคลุมหน้าออก เผยให้เห็นใบหน้าที่สวยงาม โน้มตัวคำนับ " หานเยียนขอคารวะอ๋องอันจวิน..."

" หานเยียนขอคารวะอ๋องอันจวิน..."

เสียงที่อ่อนหวาน ดังสะท้อนอยู่ข้างหูของอ๋องอันจวิน แล้วมันได้ตกลงไปในส่วนลึกของหัวใจ ทำให้ภาพที่ประคองพระชายาอันจวินนั้นค้างไว้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น