ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 660

ไป๋ชิงหลิงก้มหน้ามองชุดมงคลที่อยู่ในมือ เมื่อสักครู่ก่อนเข้ามานางก็ได้ยินเสียงขัดแย้งของพระชายาอันจวินกับนางจงเรื่องชุดนี้แล้ว

ตอนนี้เห็นสายตาของพระชายาอันจวินมองผ้าด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว เข้าใจทันที

" เพค่ะ ชุดมงคลนี้ข้าออกแบบกับมือตัวเองเพื่อเป็นชุดสมรสของท่านแม่ของข้า"

พระชายาอันจวินอ้ำอึ้งไป ตามเหตุผลแล้วนางไม่ควรไปแย่งชุดสมรสของใคร แต่เมื่อคิดถึงลูกชายที่นอนติดเตียง แม้แต่คู่ครองนางก็ต้องไปเชิญมา ทำให้นางรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ

แล้วนางก็เอาความรู้สึกทั้งหมดมาลงบนตัวไป๋ชิงหลิง

เพราะนางบอกว่าจะรักษาลูกชายนาง

" ลูกชายข้าก็ต้องแต่งงาน และข้ามาร้านอาภรณ์ตระกูลจงก็เพื่อหาชุดให้เจ้าสาว เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่า ตอนนี้ลูกชายข้านอนติดเตียง ต้องมีคนคอยดูแล สิ่งที่ข้าทำให้เจ้าสาวได้ก็มีเพียงงานแต่งงานที่ตามจารีตและสมบูรณ์เท่านั้น"

เพราะอย่างนี้ ที่พูดมาทั้งหมดก็เพื่อจะบอกว่าต้องการชุดมงคลจากมือนางหรือ

ไป๋ชิงหลิงนั้นรู้อยู่แก่ใจ แต่ก็ไม่ได้เปิดโปง

แต่พระชายาอันจวินก็หน้าด้านมาก เอ่ยถาม " ข้าชื่นชอบชุดมงคลในมือเจ้า ต้องการเงินเท่าไหร่ ข้าก็จะซื้อมัน อีกอย่าง..."

พระชายาอันจวินส่งสายตาอันแหลมคม " พระชายารับปากว่าจะรักษาลูกชายข้า แต่ตอนนี้ลูกชายข้ายังนอนติดเตียง ขยับไปไหนมาไหนไม่ได้"

" ในเรื่องนี้เจ้าต้องให้คำอธิบายกับข้า เจ้าซ่อนอยู่แต่ในจวน ไม่ยอมก้าวออกจากประตูจวน เจ้าไม่อยากจะทำการผ่าตัดให้ลูกชายข้าใช่หรือไม่ หรือว่าเจ้าไม่มั่นใจว่าจะรักษาได้ เจ้ากำลังเพ้อเจ้อวิชาการรักษาของตัวเองใช่หรือไม่"

" เจ้าอาศัยคนอย่างพวกข้าเพื่อเลื่องลือชื่อเสียงของโรงหมอฮุยหมิง เมื่อมีชื่อเสียงแล้ว ได้กำไรมากมาย ก็ไม่สนใจว่าลูกข้าจะเป็นหรือตาย ใช่หรือไม่ "

พระชายาอันจวินระบายความในใจอย่างไม่ยอมหยุด

เมื่อนางคิดถึงสภาพของจวิ้นอ๋องน้อย ก็เกิดเป็นห่วงลูกตัวเอง อีกด้านหนึ่งยังคงโกรธเคืองไป๋ชิงหลิง

นางไปหาไป๋ชิงหลิงที่โรงหมอฮุยหมิงหลายครั้ง พบว่าโรงหมอฮุยหมิงนั้นยิ่งอยู่ยิ่งรุ่งเรือง แต่ว่าไป๋ชิงหลิงกลับโผล่หน้าออกมาน้อยลงทุกที"

นางคิดว่า ไป๋ชิงหลิงนั้นเมื่อเห็นว่าการค้าขายไปได้ดี ก็เป็นเจ้าของโรงหมอที่เสพสุข รอนับเงินอย่างเดียว

ไป๋ชิงหลิงในฐานะคนเป็นแม่ก็เข้าใจความรู้สึกของพระชายาอันจวิน แต่ว่า หลิวหานเยียนที่เดินออกมาจากห้องลองผ้านั้นกลับรับไม่ได้ที่เห็นลูกสาวของตัวเองถูกคนอื่นว่าร้ายแบบนี้

นางเดินก้าวมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็เอื้อมมือออกไปผลักพระชายาอันจวินถอยหลังไปหลายก้าว ตัวเองก็โน้มไปตามพระชายาสองก้าว

นางเค้นเสียงใส่พระชายาอันจวินหน้าต่อหน้า " จะขอหมอก็ต้องมีท่าทีที่เหมาะสมด้วย ในฐานะคนเป็นแม่ ลูกชายเจ้าเป็นของล้ำค่าของเจ้า ลูกสาวข้าก็เป็นแก้วตาดวงใจข้าเช่นกัน เจ้าด่าทอลูกสาวข้าต่อหน้าต่อตาข้าแบบนี้ ถ้าข้าจะว่าลูกชายเจ้าว่าเป็นพวกสวะ ต่อหน้าต่อตาเจ้า เจ้าจะรับได้ไหม"

" นี่เจ้า..." พระชายาอันจวินถูกหลิวหานเยียนดุจนหน้าแดงก่ำ " เจ้าว่าใครเป็นพวกสวะ"

"ก็ว่าลูกของเจ้าว่าเป็นพวกสวะแล้วจะทำไม"

" เจ้า เจ้า..."

อ๋องอันจวินเดินมาแล้วคว้ามือพระชายาอันจวินเอ่ย " หยุดได้แล้ว ถ้าเจ้าชอบนักก็ให้แม่นางจงทำอีกชุดก็ได้"

" เจ้าไม่ได้ยินหรือ นางคนนี้ด่าลูกเจ้าว่าเป็นพวกสวะ"

อ๋องอันจวินหันหน้าไปมองหลิวหานเยียน เขาไม่ได้ดุดันเหมือนพระชายาอันจวิน แต่ตรงกันข้าม สายตาที่เขามองหลิวหานเยียนนั้นแฝงด้วยความเสียดายและความไม่ยินยอม

" วันหลังข้าจะไปจวนหรงแล้วขอพระชายาหรงรักษาหยวนเอ๋อร์ วันนี้พอแค่นี้เถิด เจ้าอย่าได้ดื้อด้านอีกเลย"

"เจ้ว่าข้าดื้อด้าน ข้าดื้อด้านหรือ เป็นข้าที่ดื้อด้านหรือ" พระชายาอันจวินชี้หลิวหานเยียนด้วยความรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม " นางหาว่าลูกของเจ้าเป็นพวกสวะ นี้คือผู้หญิงที่เจ้าเฝ้าตารอมาตลอดหรือ"

อ๋องอันจวินมองไปหาหลิวหานเยียนอีกครั้ง ตอนที่นางเดินออกจากห้องลองผ้านั้น นางสวมชุดมงคลพอดี

แม้ว่าผมนางจะขาวไปทั้งหัว แต่ก็สามารถเห็นได้ว่าตอนสาวนั้นนางงดงามได้ถึงเพียงใด

เขาไม่อยากให้เรื่องมันบานปลายไปมากกว่านี้

" หานเยียน เรื่องในวันนี้ข้าต้องขอโทษด้วย"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น