สรุปเนื้อหา บทที่ 670 กลิ่นร่างกายของหงโต้ว – ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา
บท บทที่ 670 กลิ่นร่างกายของหงโต้ว ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
หลังจากที่เขาให้พูดเสร็จ เขาเงยหน้าขึ้นไปพระชายาอันจวินที่อยู่ใต้ชายคา
ท่านอ๋องอันจวินให้หงโต้วไปเตรียมลานบ้าน เพื่อให้ไป๋ชิงหลิงอยู่
ไป๋ชิงหลิงเอามือมาตีแขนติ้งเป่ยโหวแล้วพูดว่า "เสด็จพ่อ ไม่ใช่แค่ให้ข้าเข้ามาอยู่ที่นี่อย่างเดียว แต่ต้องมีทั้งหมอเลียงและหมอหญิงที่เก่งเรื่องด้านการผ่าตัดที่โรงหมอฮุ่ยหมินด้วย อีกอย่าง ข้าต้องการให้คนในวังไปเชิญหมอหลวงจ้าวและหมอหลวงฮั่วมาที่จวนอ๋องอันจวิน รอให้ข้าวางแผนให้เสร็จก่อน จากไม่ใช่แค่ข้าเท่านั้นที่จะทำสำเร็จคนเดียว การผ่าตัดครั้งที่สองของจวิ้นอ๋องน้อยห้ามประมาทเด็ดขาด"
“ต้องหาคนเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ใช่ จะไม่ใช่มีแค่ข้าคนเดียว ข้าต้องมีผิงถิง หมิงฮุ่ยรวมทั้งหมอเก่งๆ ของโรงหมอฮุ่ยหมิน ตามที่วางแผนคือต้องมีมากกว่าเจ็ดถึงแปดคน หมอหลวงจ้าวและหมอหลวงฮั่วก็นับเข้าไปด้วย ทั้งหมดก็จะประมาณสิบกว่าคน" หมอหญิงที่อยู่ข้างๆ ไป๋ชิงหลิงได้รับความไว้ใจจากเธอ และหมอหลวงจ้าวและหมอหลวงฮั่วที่ได้รับการยกย่องที่อธิบายไม่ได้
พอเป็นแบบนี้แล้ว ติ้งเป่ยโหวจึงได้ตัดสินใจ "ถ้าเป็นแบบนี้แล้ว เสด็จพ่อก็จะอยู่เคียงข้างเจ้าด้วย"
ไป๋ชิงหลิงพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
แต่ว่าตอนนี้ นี่ถือว่าคือผลลัพธ์ที่ดี
"ดี" ไป๋ชิงหลิงหันกลับมา ท่านอ๋องอันจวินก็ได้เตรียมตัวเสร็จแล้ว เขาเดินมาข้างหน้าแล้วพูดว่า "ติ้งเป่ยโหว พระชายาหรง พวกท่านจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้?"
"ตอนนี้ร่งกายของพระชายาอันจวินไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย แต่ว่าเธอยังคงต้องได้รับน้ำเกลืออย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันแผลของเธอ อีกอย่างหนึ่ง....." ไป๋ชิงหลิงมองไปที่ทหารองครักษที่ยืนอยู่รอบๆ ตัวเธอแล้วพูดว่า "เสด็งอาต้องเตรียมลานบ้านให้ข้าอีกหนึ่งหลัง ลานบ้านนี้ต้องสามารถจุคนได้สิบถึงยี่สิบคน ก่อนที่จะทำการผ่าตัดจวิ้นอ๋องน้อย หมอเหลียงของข้าต้องมาอยู่ที่นี่ด้วย ได้โปรดเตรียมตัวให้เสร็จก่อนจะผ่าตัด”
“เยี่ยม” ท่านอ๋องอันจวินให้ความร่วมมือที่ดีมาก
เขาเตรียมลานบ้านเพื่อไป๋ชิงหลิง ห่างจากลานบ้านของจวิ้นอ๋องน้อยและพระชายาอันจวิ้นไม่ไกล อยู่ระหว่างกลางของกันและกัน
หงโต้วเป็นคนจัดการเอง ตอนที่ไป๋ชิงหลิงเดินอยู่ข้างๆ เธอ ก็ได้กลิ่นอะไรแปลกๆ
เธอหยุดเดินจากนั้นก็มองไปที่หงโต้ว
แม่นมซั่งมาเห็นจึงถามอย่างเป็นห่วงว่า "พระชายาหรง คนคนนี้เขาเป็นอะไรเหรอ?"
“ทำไมเจ้าถึงมีถึงมีถุงหอมกลิ่นไขมัสค์แรงขนาดนี้” ไป๋ชิงหลิงถาม
“ไขมัสค์!!” พอแม่นมซั่งได้ยินแบบนี้ ทำหน้าเหมือนเจอศัตรู เธอก็รีบดึงไป๋ชิงหลิงไปข้างล่างเธอ จากนั้นตะโกนถามว่า "เจ้าเป็นคนของลานบ้านไหนกัน?"
หงโต้วตกใจรีบคุกเข่าลงพูดว่า "หม่อมฉันไม่ได้พกไขมัสค์ นี่คือถุงหอมของหม่อมฉัน พระชายาหรงสามารถเรียกคนมาตรวจสอบได้"
“ไปให้พ้นเดียวนี่ ใครก็ได้ลากมันออกไป!” แม่นมซั่งไม่ฟังอะไรทันนั้นเธอโบกมือและตะโกนเรียกให้ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำลากเธอออกไป
ไป๋ชิงหลิงไม่ได้หยุดเธอ พอหงโต้วถูกลากออกไปลานบ้าน จากนั้นถุงหอมก็ล้นออกมาพอดี
แม่นมซั่งรีบวิ่งไปหยิบถุงหอมนั้นขึ้นมาเปิดดูอย่างระมัดระวัง
ไม่มียาที่เหมือนไขมัสค์อยู่ในถุง
ไป๋ชิงหลิงพูดว่า "ขอข้าดูหน่อย"
“พระชายาหรง โปรดอย่าแตะต้องมันเด็ดขาด” ถึงแม้ว่าจะไม่มีมัสค์อยู่ในนั้น แต่แม่นมซั่งก็ยังกังวลมากๆ
ไป๋ชิงหลิงก็ไม่ได้อยากจะได้ถุงหอมนั้นสักเท่าไหร่ "ถ้าในถุงไม่มีไขมัสค์งั้นก็แสดงว่ากลิ่นมาจากตัวเธอ กลิ่นมันอ่อนมากจนแทบดมไม่ออก อย่าเพิ่งว่ากล่าวหากันเลย”
เธอเพิ่งจะมาจวนอ๋องอันจวินก็เจอคนที่มีกลิ่นเหมือนไขมัคส์แล้ว เธอจะประมาทไม่ได้
“หม่อมฉันจะเป็นคนเสิร์ฟอาหารด้วยตนเอง” แม่นมซั่งพูด
“แม่นม ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหรอก จวนอ๋องอันจวินกับตึกหมานชวนของนางเสิ่นอยู่ห่างกันไม่มาก ยังน้อยก็ได้ดูแลธุรกิจเขา สองสามวันนี้แม่นมก็ไปเอากับข้าวที่นั่นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องทำให้ยุ่งยาก"
“พระชายาหรงอยากทานอะไร หม่อมฉันจะให้คนไปทำให้”
“อืม เมนูแนะนำก็ได้!”
…
ไป๋ชิงหลิงและหรงจิ่นหลินได้ออกจากจวนอ๋องอันจวิน เพื่อไปตึกหมานชวนของนายเสิ่น
หรงจิ่นหลินถามด้วยความสงสัย "เสด็จน้อง พวกเรามาทำอะไรที่นี่?”
“ข้าไม่รู้ว่าให้หรือเปล่า แต่คนอื่นในจวนอ๋องอันจวินข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน อีกอย่างท่านแม่ก็ยังท้องอยู่ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ข้าจะต้องเสียใจภายหลังแน่ๆ” ไป๋ชงเซิงไม่ได้สนใจอะไรเลย ถึงเสิ่นหรูเหลียนจะเป็นคนดีแต่ก็คือคนนอกอยู่ดี
อย่างไรก็ต้องระวังตัว
พอเสิ่นหรูเหลียนได้ยินแบบนี้แล้ว คิ้วของเขาก็ขมวดขึ้นทันที: "ใครจะกล้าทำร้ายแม่ของเจ้า"
หรงจิ่งหลินขมวดคิ้วและพูดว่า "แม่ทัพเสิ่น นี่เป็นเรื่องในครอบครัวของพวกเรา เจ้าอย่าถามเยอะเลย"
เสิ่นหรูเหลียนคิดว่าตัวเองยุ่งมากเกินไป จากนั้นเขาก็มองไปรอบและสังเกตว่านอกจากหรงจิ่งหลินและไป๋ชงเซิงก็ไม่มีใครอีกเลย
เขามองกลับไปที่เด็กน้อยทั้งสองอีกครั้งและถามว่า "ทำไมถึงไม่มีทหารองครักษ์เหยี่ยวดำอยู่ด้วยละ"
"พวกเรามีสุนัขที่ใหญ่มากๆ" ไป๋ชงเซิงชี้ไปที่เสวี่ยหลางที่นอนอยู่ใต้โต๊ะ
เสวี่ยหลางคลานออกมาจากใต้โต๊ะ ขนของมันยังคงเปียกเล็กน้อย
หลังจากที่เสวี่ยหลางออกจากจวนอ๋องอันจวิน ก็ได้กระโดดเล่นน้ำล้างตัวที่ทะเลสาบ สีย้อมที่เคยอยู่บนตัวเขาก็โดนล้างออกจนหมด จนทำให้ตอนนี้เขากลับมามีขนสีเดิม
มันกระดิกหางไปที่เสิ่นหรูเหลียน
เสิ่นหรูเหลียนเริ่มขมวดคิ้ว เขารับรู้ได้ทันทีว่าเด็กสองคนนี้ต้องแอบหนีออกมาจากบ้าน
“ทำแบบนี้ได้ยังไง เอาแบบนี้ดีกว่า ซื่อจื่อกับองค์หญิงไปนั่งรอที่ห้องก่อน เดียวข้าจะไปเรียกคนใช้ทำอาหารให้พระชายาหรง ถ้าเสร็จแล้วข้าจะพาพวกเจ้าไปส่งอาหาร”
เด็กน้อยทั้งสองมองหน้ากัน
จากนั้นหรงจิ่งหลินก็หันกลับมาแล้วพูดว่า "งั้นก็เอาตามนี้"
หลังจากที่เสิ่นหรูเหลียนพาเด็กสองคนนี้ไปนั่งรอที่ห้องเสร็จ เขาก็เดินออกไปเพื่อไปห้องครัว
"หรงเยี่ยชอบนำอาหารจากร้านอาหารกลับมาที่วังตลอด ของที่สั่งก็มีแต่ของที่พระชายาหรงชอบ ถึงจะผ่านไปแล้วแต่เสิ่นหรูเหลียนก็ยังคงจำได้...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...