สรุปตอน บทที่ 671 ไม่มีความสงบสุขวังหลัง – จากเรื่อง ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา
ตอน บทที่ 671 ไม่มีความสงบสุขวังหลัง ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดยนักเขียน พระจันทร์ขี้เมา เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเตรียมอาหารใกล้เสร็จ แม่นมซั่งไปสั่งอาหารที่ร้านอาหาร ผู้ดูแลร้านอาหารรีบไปที่ห้องครัวแล้วพูดกับเสิ่นหรูเหลียนว่า “คุณชายใหญ่ ผู้ดูแลพระชายาท่านอ๋องหรงมาสั่งอาหาร บอกว่าต้องการซื้อกลับตำหนักอ๋องหรง”
เมื่อเสิ่นหรูเหลียนได้ยินสิ่งนี้ รีบเปิดม่านในห้องครัวแล้วมองออกไป ก็เห็นแม่นมซั่งยืนรออยู่ในห้องโถง
เขามองดูแวบหนึ่งแล้วลดม่านลง แม่ครัวเดินมาพร้อมกับตะกร้าที่ใส่กล่องอาหาร แล้วยื่นกล่องอาหารให้เสิ่นหรูเหลียน “คุณชายใหญ่ ทำเสร็จแล้ว”
เสิ่นหรูเหลียนรับกล่องอาหาร แล้วส่งให้ผู้ดูแล “เอาไปให้แม่นมของพระชายาท่านอ๋องหรง แล้วบอกว่าท่านอ๋องหรงได้สั่งให้คนเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว”
“รับทราบ!” ผู้ดูแลเดินออกไปพร้อมกล่องอาหารในมือ เดินเข้าไปหาแม่นมซั่ง “แม่นม อาหารได้แล้ว”
“ทำไมเร็วจัง?” นางเพิ่งเข้ามาครู่เดียวอาหารก็เตรียมเสร็จแล้ว
“ท่านอ๋องหรงได้ส่งคนมาสั่งล่วงหน้าที่ร้านอาหารแล้ว ล้วนเป็นอาหารชื่อดังของตระกูลเสิ่น เมื่อก่อนตอนที่ท่านอ๋องมาที่ร้านอาหารก็มักจะสั่งอาหารเหล่านี้กลับตำหนัก”
เมื่อแม่นมซั่งได้ยินเช่นนั้น จึงได้เปิดกล่องอาหารออกดู หลังจากยืนยันแล้ว ก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่อาหารที่พระชายาชอบทาน นี่ ค่าอาหาร”
“ไม่เป็นไร ท่านอ๋องหรงได้จ่ายแล้ว”
“ตกลง” แม่นมซั่งถือกล่องอาหารที่หนักกลับไปที่จวนจวิ๋นอ๋อง
เสิ่นหรูเหลียนเดินชั้นไปชั้นสอง ผลักเด็กน้อยทั้งสองคนแล้วพูดว่า “ตอนที่แม่นมซั่งมาซื้ออาหาร คนในครัวได้เตรียมอาหารสำหรับเสด็จแม่ของพวกเจ้า ข้าจึงอ้างชื่อเสด็จพ่อของพวกเจ้า บอกให้แม่นมซั่งกลับไป”
เด็กน้อยทั้งสองมองหน้ากัน
“ตอนนี้ข้าจะส่งนายน้อยทั้งสองท่านกลับตำหนัก”
“ออ ได้!” หรงจิ่งหลินตอบกลับอย่างเต็มใจ
เสิ่นหรูเหลียนเฝ้ามองเด็กน้อยทั้งสองเข้าไปในจวนติ้งเป่ยโหวแล้วจึงจากไป
หลิวหานเยียนตามหาในจวนเป็นเวลานาน เมื่อเห็นเด็กน้อยทั้งสองคนอยู่ที่ลานชิงซิน นางก็ร้องไห้อย่างกังวล!
จากนั้นนางก็อุ้มเด็กน้อยทั้งสองแล้วถามพวกเขา เด็กทั้งสองบอกว่าเล่นอยู่ที่ลานอื่นของจวนติ้งเป่ยโหว เล่นจนลืมเวลา พวกเขาไม่ได้เอ่ยปากว่าเคยไปที่จวนจวิ๋นอ๋อง
ส่วนหลิวหานเยียนก็ไม่เข้าใจอุปนิสัยของไป๋ชงเซิง ดังนั้นนางจึงเชื่อในสิ่งที่ทั้งสองพูด
เด็กน้อยทั้งสองกลับมาถึงห้อง หรงจิ่งหลินปิดประตูห้องแล้วพูดว่า “คืนนี้เราจะไปที่จวนจวิ๋นอ๋องอีกไหม?”
“ไปสิ ทำไมไม่ไปละ!” ไป๋ชงเซิงตอบ
“แต่ข้าเห็นเสด็จย่าเป็นห่วงพวกเรามาก เพราะเสด็จแม่สุขภาพของเสด็จย่าก็แย่ลงเรื่อยๆ เจ้าเห็นหรือไม่ รอยย่นที่หางตาของนางเพิ่มขึ้นอีกสองเส้น คนอื่นค่อยๆแก่ลงทุกๆปี แต่เสด็จย่าแก่ลงทุกๆวัน” หรงจิ่งหลินสังเกตรายละเอียด
ไป๋ชงเซิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้สังเกตสิ่งนี้เลย “ดูเหมือนว่า จะซูบผอมกว่าเมื่อวานเล็กน้อย งั้นเรารอให้เสด็จย่าหลับก่อน ค่อยออกจากจวนโหว แล้วกลับมา ก่อนรุ่งสาง เจ้าคิดว่ายังไง? ”
“แล้วคืนนี้เราจะไปทำอะไรที่จวนจวิ๋นอ๋อง?”
ไป๋ชงเซิงหรี่ตาลง และมีแผนอยู่ในใจแล้ว “เจ้ารอดูละกัน ถึงเวลาเจ้าก็จะรู้เอง”
……
แม่นมซั่งนำอาหารไปส่งที่ห้องของไป๋ชิงหลิง ไป๋ชิงหลิงพูดว่า “ทำไมเร็วจัง?”
“นี่คืออาหารที่ท่านอ๋องเตรียมไว้ให้พระชายา”
“ท่านอ๋อง?” ไป๋ชิงหลิงใจสั่น
เธอผิดสัญญากับท่านอ๋องและแอบมาที่จวนจวิ๋นอ๋อง ดังนั้นในใจเธอจึงรู้สึกผิด
“เขารู้ว่าตอนนี้ข้าอยู่ที่จวนจวิ๋นอ๋อง?”
แม่นมซั่งจัดโต๊ะอาหารเสร็จแล้ว เมื่อเห็นว่าทั้งโต๊ะล้วนเป็นอาหารที่ไป๋ชิงหลิงชอบกิน พยักหน้าและพูดว่า “สามารถเตรียมอาหารให้พระชายาได้ในเวลานี้ คิดว่าคงรู้แล้วว่าพระชายาอยู่ที่จวนจวิ๋นอ๋อง”
“เขาออกจากวังแล้วหรือ?”
“แต่หม่อมฉันก็ไม่เจอท่านอ๋องที่ร้านอาหาร”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ไป๋ชิงหลิงก็ไม่ได้ถามอีกต่อไป
“พี่เจ็ด!”
สองพี่น้องพูดพร้อมกัน
จักรพรรดิเหยาขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม
หรงเยี่ยรู้ว่าถ้าไม่จัดการกับปัญหาที่ค้างคาใจของเต๋อเฟย จักรพรรดิเหยาไม่ปล่อยพวกเขาไปแน่ หรงเฉินเสนอวิธีการที่เขาเคยพูดก่อนหน้านี้ “ลูกยังคงยืนยันคำเดิม มันเป็นการป้องกันได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ถ้าเต๋อเฟยไม่มีการเตรียมพร้อมรับมือหลังจากขึ้นเป็นฮองเฮา ลูกก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้นางเป็นฮองเฮา”
“ข้าบอกแล้ว ไม่ใช่ว่านางอยากเป็น แต่นางไม่เป็นไม่ได้ มีเพียงนางที่สามารถดูแลวังหลังได้ หลายปีมานี้พวกเจ้าเองก็เห็นแล้ว พี่สามของเจ้าพยายามดึงคนมาสนับสนุนตัวเองมากมาย ในราชสำนักมีคนออกหน้าแทนพี่สามของเจ้ามากกว่าครึ่งหนึ่ง ถ้าเจ้าสองคนสามารถทำอะไรได้บ้าง ข้าก็คงไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้” จักรพรรดิเหยามองลูกที่ไม่ได้เรื่องทั้งสองคน แล้วอาเจียนเป็นเลือด
หรงเฉินไม่กล้าปฏิเสธ
หรงเยี่ยกล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าลูกไม่แย่งชิง แต่เพราะไม่ควร”
“เจ้าไม่ควร แต่เจ้าก็ต้องรับผิดชอบปกป้องบ้านเมือง”
“ลูกยังปกป้องไม่เพียงพอหรือ”
จักรพรรดิเหยาถูกหรงเยี่ยโต้กลับจนพูดไม่ออก
“ข้าไม่ต้องการเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับใครในวังอีก น้องทั้งสามของเจ้าก็ฝากพระชายาท่านอ๋องหรงละกัน”
“ไม่ได้” หรงเยี่ยปฏิเสธ “เสด็จพ่อท่านอย่าลืมว่า นางเองก็กำลังตั้งครรภ์อยู่ เมื่อเดือนที่แล้วก็เกือบตายกันทั้งสองคน ในเมื่อท่านไม่อยากให้อยู่ในวัง ก็ส่งพวกเขาไปอยู่ที่ตำหนักของน้องแปดเถอะ”
“ทำแบบนั้นได้อย่างไร!” หรงเฉินรู้สึกเกลียดชังหรงเยี่ย “ข้าเป็นผู้ชายจะดูแลน้องชายและน้องสาวได้อย่างไร อีกอย่าง พวกเขาทั้งสามอายุยังไม่ครบหนึ่งปีเลย”
“ใกล้แล้ว เจ้าวางใจ ข้าจะไม่เพิกเฉยต่อพวกเขา ข้าจะส่งแม่นมและสาวใช้ที่มีความสามารถไปให้เจ้า ไม่ได้ให้เจ้าเป็นคนดูแลเอง แค่ให้อยู่ที่ตำหนักของน้องแปด ซ่อนจากสายตาคนอื่น เพื่อให้เต๋อเฟยสบายใจในการสถาปนาฮองเฮา เอาตามนี้แหละ”
หลังจากที่หรงเยี่ยพูด“บลาๆๆๆ”จนจบ จักรพรรดิเหยาก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้า และไม่ให้หรงเฉินมีโอกาสปฏิเสธ แล้วพูดทันทีว่า “เอาตามนี้แหละ”
“เสด็จพ่อ!” หรงเฉินสีหน้าเศร้าสร้อย
หรงเยี่ยโค้งคำนับ “จักรพรรดิทรงปราดเปรื่อง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...