ไป๋ชิงหลิงอุ้มเด็กกลับมาอีกครั้ง “จูเอ้อร์ไม่ใช่คนโง่ เวลาเด็กยิ้มก็เป็นแบบนี้เสมอ ตอนเด็กเซิงเอ๋อร์ก็ชอบดูดมือ ชอบยิ้ม น่ารักและน่าเอ็นดู”
หรงเยี่ยจ้องมองท้องของเธอ “ถ้างั้นคนนี้ต้องเป็นลูกสาวแน่นอน”
“ไม่แน่นะ” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ไป๋ชิงหลิงรู้สึกหนักใจมาก “ทายาทของตำหนักอ๋องหรงนั้นมีไม่มาก หลังจากที่ข้าให้กำเนิดลูกคนนี้แล้ว จะไม่เสี่ยงคลอดบุตรอีกคนอย่างแน่นอน”
หรงเยี่ยขมวดคิ้ว เข้าใจความหมายของคำพูดเธอ “ทำไมถึงได้พูดจาแปลกๆ”
“ข้าพูดเพื่อให้ท่านเผื่อใจไว้ด้วย”
“เผื่อใจอะไรกัน” เปลือกตาของหรงเยี่ยกระตุกสองสามครั้ง เขาเอื้อมมือไปจับคางของเธอ มองเธอด้วยสายตาที่เร่าร้อนแล้วพูดว่า “พระชายา ให้ข้าควักหัวใจออกมาให้เจ้าดูไหม”
ไป๋ชิงหลิงเอามือของเขาออก เรื่องที่เขาได้แต่ตั้งเป็นองค์รัชทายาทนั้น เธอไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจแทน
แต่มีบางเรื่อง เธอคิดว่าจำเป็นต้องคุยกับหรงเยี่ยให้ชัดเจน “หรงเยี่ย บางเรื่องพวกเรามาพูดให้ชัดเจนตอนนี้เถอะ ตอนนี้ข้าเป็นพระชายาของท่าน ถ้าท่านเป็นองค์รัชทายาท ข้าก็เป็นพระชายาองค์รัชทายาท ถ้าท่านเป็นจักรพรรดิ และยินยอมสถาปนาข้าเป็นฮองเฮา ข้าก็จะช่วยท่านดูแลวังหลัง แต่ว่า..........”
“ข้าจะไม่จัดการเรื่องคัดเลือกนางสนมให้ท่าน เรื่องเข้าถวายตัว ถ้าท่านรักเดียวใจเดียว บริสุทธิ์ใจ ข้าก็จะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง แต่ถ้าหากท่านให้ผู้หญิงคนอื่นมาถวายตัว จากนี้ไปข้าก็เป็นเพียงภรรยาของท่าน ถ้าท่านแตะต้องผู้หญิงอื่น ก็ให้พวกนางสืบทอดทายาทให้ท่าน อย่ามาหาข้าอีก”
“ไป๋ชิงหลิง!” หรงเยี่ยสูดหายใจเข้าอย่างแรง
เขาแทบจะเป็นบ้ากับสิ่งที่เธอพูดจริงๆ
“นี่เจ้าไม่ไว้ใจข้าหรือ!”
“นี่ไม่ใช่เรื่องของความไว้วางใจ ตั้งแต่แรกข้าเป็นคนพยักหน้ายอมเป็นพระชายาของท่าน ดังนั้น ข้าไม่เสียใจเลย!” ไป๋ชิงหลิงเงยหน้าขึ้น จ้องมองเขาอย่างแน่วแน่ “เช่นเดียวกัน ข้าไม่สามารถใช้สามีร่วมกับผู้หญิงคนอื่นได้ ข้ารู้สึกว่ามันสกปรก ท่านไม่ต้องพูดเรื่องที่ข้าไม่ไว้ใจท่าน ข้ารู้ว่าจักรพรรดิมีหลายสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ ถ้าเราไปถึงจุดนั้นจริงๆ ข้าก็จะไม่ตำหนิท่าน ถ้าท่านโปรดปรานผู้หญิงอื่นแล้ว ก็อย่าก้าวเข้ามาในห้องของข้าอีก”
โลกก็เป็นเช่นนี้แหละ
ผู้ชายมีอำนาจสูงสุด ผู้หญิงถูกใช้เพื่อให้กำเนิดทายาทแก่ผู้ชาย
เธอรู้ดีว่า จักรพรรดิสามารถทนให้พี่น้องมีภรรยาเพียงคนเดียวได้ แต่จะไม่ยอมให้องค์รัชทายาทมีพระชายาองค์รัชทายาทเพียงคนเดียว
มีองค์รัชทายาทหรงจิ่งหลินเพียงคนเดียว!
เธอมองเห็นอย่างชัดเจน
หรงเยี่ยอึ้งไปกับคำพูดของเธอ ไม่รู้ว่าจะโกรธหรือหัวเราะดี.......
“เวลาสามารถพิสูจน์ใจของข้าได้”
“ก็หวังเช่นนั้น” ไป๋ชิงหลิงเบือนหน้าหนี ในที่สุดหินก้อนใหญ่ที่ขวางกั้นหัวใจของเธอก็พังทลายลง
หลังจากกลับถึงตำหนักอ๋อง เธอให้แม่นมซั่งพาจูเอ้อร์ไปที่หอเป่าซินโดยตรง
หรงเยี่ยเดินตามเธอเข้าไปในห้องนอน เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้นุ่ม ด้วยสีหน้าเหนื่อยล้า
ในรถม้า เธอได้พูดทุกอย่างชัดเจนแล้ว
หากเขารักเดียวใจเดียวต่อเธอ เธอจะตอบแทนความรักของเขาอย่างสุดหัวใจ เมื่อใดที่ความรู้สึกนี้ไม่สมดุล เธอจะไม่หันกลับไปมองเขาอีก และไม่มีทางร้องไห้ต่อหน้าเขาอย่างแน่นอน
ก่อนที่หรงเยี่ยจะจากไป เขาก็อุ้มเธอขึ้นจากเก้าอี้นุ่ม “เจ้าเป็นกังวลเกินไปแล้ว ข้าไม่ควรปล่อยให้เจ้าไปที่จวนอ๋องอันจวิน”
“หมิงฮุ่ยบอกข้าแล้ว มีแผลเก่าบนหลังของจวิ้นอ๋องน้อย ซึ่งตรงกับตำแหน่งที่แม่ของข้าเคยบอก ที่เหลือก็ให้อิงเหลียนจัดการเถอะ หวังว่านางจะพบเบาะแสโดยเร็วที่สุด” ไป๋ชิงหลิงกล่าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...