หลังจากที่ฉางเล่อออันเป็นลม ก็ถูกส่งกลับไปที่สวนชิงฮุย
ไป๋ชงเซิงและหรงจิ่งหลินซึ่งตกลงที่จะกลับไปที่จวนอ๋องจวินในตอนเย็น ตอนนี้อยู่ในสถานที่มืดมิดในจวนอ๋องจวิน
ทันใดนั้นหงโต้วก็ปรากฏตัวขึ้น ทำให้ชายร่างเล็กทั้งสองหยุดและสังเกตอย่างลับ ๆ
เห็นหงโต้วสวมเสื้อคลุมสีฟ้าอ่อนและถือไม้เท้ายาวไว้ในมือ และเดินไปหาสุนัขพันธุ์มาสทิฟฟ์อย่างระมัดระวัง
มาสทิฟตัวนั้นที่กำลังหลับอยู่ เงยหน้าขึ้นทันทีและเห็นคนแปลกหน้าเดินเข้ามาหาตนเอง ลุกขึ้นทันทีและแสดงสีหน้าดุร้าย
หงโต้วตกใจกลัวและก้าวถอยหลัง ขนลุกสั่นไปทั้งตัว
ได้ยินมานานแล้วว่าสุนัขพันธุ์มาสทิฟฟ์ของอ๋องจวินนั้นดุร้ายมาก และมีเพียงจวิ้นอ๋องน้อยและอ๋องจวินเท่านั้นที่สามารถเข้าใกล้มันได้
หากคนอื่นเข้ามาใกล้อย่างกะทันหัน จะต้องตายอย่างแน่นอน
คนรับใช้บางคนในจวนเห็นด้วยตาตนเองว่า สุนัขพันธุ์มาสทิฟฟ์ตัวหนึ่งกัดคอของพ่อบ้านคนหนึ่ง และตายในทันที
ตอนนี้ได้ใกล้ชิดกันแล้ว หงโต้วก็ตกใจมากจนเกือบจะเป็นลม นางถอยไปสองสามก้าว จับไม้ในมือไว้แน่น กัดฟันแล้วพูดว่า "ไม่ใช่ข้า ข้าไม่ได้จะทำร้ายเจ้านะ เจ้าลองดูเสื้อผ้าและกลิ่นนี้ให้ดีนะ คราวหน้าถ้าเห็นใครใส่เสื้อผ้าแบบนี้อีก เจ้าก็เข้าไปกัดคอนางซะ”
หลังจากพูดจบ หงโต้วก็โบกไม้ให้สุนัขมาสทิฟฟ์หลายครั้ง
เมื่อสุนัขทิเบตันมาสทิฟฟ์เห็นคู่ต่อสู้โจมตีตัวเอง ก็ถือว่าคู่ต่อสู้เป็นศัตรูและกระโดดขึ้นมาทันที
หงโต้วตกใจมากจนโยนไม้ทิ้งไป หันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป
เมื่อหงโต้ววิ่งออกจากเรือน ก็รีบถอดเสื้อผ้าออกแล้วยัดไว้ในพุ่มไม้หนาทึบด้านนอกเรือน และจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
ไป๋ชงเซิงและหรงจิ่งหลินเดินออกมาจากเรือน และจ้องมองไปยังทิศทางที่หงโต้วออกไป
เสวี่ยหลางกระโดดเข้าไปในสวนดอกไม้ทันที และกัดเสื้อผ้าที่หงโต้วซ่อนไว้ ไป๋ชงเซิงหยิบมันออกมาคลี่ แล้วหยิบเสื้อคลุมออกมา
เมื่อหรงจิ่งหลินเห็นผีเสื้อสามตัวบนเสื้อคลุม ก็พูดกระซิบว่า "ทำไมเสื้อคลุมตัวนี้ถึงดูคุ้นถึงเพียงนี้นะ”
“ท่านแม่ก็มีชุดนี้เหมือนกัน ผีเสื้อมีสีเหลือง ม่วง เขียว ดูสิ เสื้อคลุมตัวนี้ก็เหมือนกับผีเสื้อในเสื้อคลุมของท่านแม่ทุกประการ” ไป๋ชงเซิงใช้นิ้วชี้ไปที่ผีเสื้อ
หลังจากนั้น ทั้งสองก็มองหน้ากัน และทั้งคู่ก็เข้าใจแผนการทุกอย่าง
ในเวลานี้ มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง และมีมือคู่หนึ่งวางอยู่บนไหล่ของเด็กทั้งสอง
เด็กทั้งสองหันกลับมาอย่างรวดเร็ว และหันกลับไปมองด้วยสีหน้าระมัดระวัง
เมื่อพวกเขาเห็นอิงเหลียนยืนอยู่ข้างหลังพวกเขา ทั้งสองก็อ้าปากพูดและตะโกนว่า "อิงเหลียน"
อิงเหลียนกอดนายน้อยทั้งสอง แล้วกลับไปที่เรือนที่อ๋องจวินจัดไว้ แล้วพาพวกเขาเข้าไปในห้อง
“เหตุใดนายน้อยทั้งสองจึงอยู่จวนอ๋องจวิน?” อิงเหลียนถาม
เด็กทั้งสองมองหน้ากันอีกครั้ง
เวลาต่อมา ไป๋ชงเซิงมอบเสื้อคลุมที่เขาถืออยู่ในอ้อมแขนให้อิงเหลียน "เจ้าดูสิ นี่คือเสื้อคลุมของท่านแม่หรืเปล่า”
อิงเหลียนชำเลืองมองหลายครั้ง "ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น"
“ทำไมเสื้อคลุมของท่านแม่ถึงไปอยู่ในมือของผู้หญิงเลวล่ะ!” ไป๋ชงเซิงถาม
อิงเหลียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและถามด้วยความสับสน "เจ้านายน้อย ไปพบเสื้อคลุมนี้ที่ไหน"
“มันอยู่ตรงจุดที่พวกเรายืนอยู่เมื่อครู่นี้” หรงจิ่งหลินกล่าว
อิงเหลียนขมวดคิ้วและดวงตาของเขาปิดลง
เท่าที่นางรู้ เมื่อคืนที่ไปสวนชิงฮุย นายหญิงสวมชุดนี้ทุกประการ แต่ในพริบตาเดียวก็วิ่งไปอยู่อีกเรือนแล้วล่ะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...