ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 701

สรุปบท บทที่ 701 หวังว่าจื่ออีจะช่วยชีวิตแม่เอาไว้: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

อ่านสรุป บทที่ 701 หวังว่าจื่ออีจะช่วยชีวิตแม่เอาไว้ จาก ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา

บทที่ บทที่ 701 หวังว่าจื่ออีจะช่วยชีวิตแม่เอาไว้ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายการเกิดใหม่ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

จัวซี่เหมยจากไปแล้ว ในตอนที่นางจากไป จิ้นฮวาและชิงจู๋ก็อยู่ด้านนอก การโต้แย้งระหว่างนางกับหลิวหานเยียนมันผ่านทางช่องของหน้าต่าง จึงไม่มีใครรู้ว่าจัวซี่เหมยและหลิวหานเยียนนั้นพูดคุยอะไรกัน

ส่วนทางด้านของไป๋ชิงหลิง นางได้รับหรงจิ่งหลินและไป๋ชงเซิงเป็นอันเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองแต่งตามงานเฉลิมฉลอง ในมือถือขนมที่ชื่นชอบ และเดินตามอยู่ด้านข้างของไป๋ชิงหลิง

แม่นมซั่งกล่าวออกมาว่า “องค์หญิงน้อยแต่งกายได้ดูร่าเริงยิ่งนัก หากฮูหยินโหวเห็นเข้าจะต้องชื่นชอบเป็นอย่างมาก ส่วนซื่อจื่อน้อยเองก็เช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่แม่นมได้เห็นซื่อจื่อน้อยสวมชุดสีแดง”

ใบหน้าของหรงจิ่งหลินกลายเป็นสีแดง ลูบไปที่เสื้อผ้าของตนเอง เบือนหน้าหนีพร้อมกับกล่าวว่า “เซิงเอ๋อร์เองก็ชอบมัน”

ไป๋ชิงหลิงได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะออกมาเบา ๆ วางมือลงบนศีรษะของหรงจิ่งหลิน จู่ ๆ ก็หยุดฝีเท้าของนาง นั่งยอง ๆ ลงตรงหน้าของหรงจิ่งหลิน มือทั้งสองข้างจับที่ข้อศอกของหรงจิ่งหลิน

“จิ่งหลิน ใช้เวลาอยู่กับเสด็จย่าให้มาก ๆ แล้วเซิงเอ๋อร์เองก็ด้วย วันนี้เจ้าต้องเป็นเด็กดี เสด็จย่าของพวกเจ้าชื่นชอบในตัวของพวกเจ้ามาก”

นางต้องการให้นี่เป็นงานแต่งที่น่าจดจำของหลิวหานเยียน

อยากให้นางมีความสุข อยากให้นาง......รอจนจื่ออีกลับมา

หรงจิ่งหลินเห็นแสงในแววตาของไป๋ชิงหลิง เขาถามออกมาด้วยความรู้สึกอันอ่อนไหว “เสด็จแม่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ บอกกับลูกได้หรือไม่ เสด็จแม่ได้โปรดอย่าเก็บไว้คนเดียว”

ในตอนที่ไป๋ชงเซิงได้ยินคำพูดของหรงจิ่งหลิน นางหันมามองไป๋ชิงหลิงโดยไม่รู้ตัว เวลานี้ดวงตาทั้งสองข้างของไป๋ชิงหลิงกลายเป็นสีแดง มีลักษณะบวมขึ้นเล็กน้อย ราวกับว่าเพิ่งจะร้องไห้ไปไม่นาน

นางขมวดคิ้วขึ้นมาทันใด เดินเข้ามาใกล้ไป๋ชิงหลิง มือเล็ก ๆ ของนางจับลงบนแขนของไป๋ชิงหลิงพร้อมกับกล่าวว่า “ท่านแม่ ท่านเป็นอะไรอย่างนั้นหรือ?”

“ไม่เป็นไร บอกพวกเจ้าก็ไม่เป็นอะไร” ไป๋ชิงหลิงลูบบนใบหน้าของลูกทั้งสอง จากนั้นนางก็เล่าเรื่องราวของหลิวหานเยียนออกมาให้กับลูกของนางฟัง

หลังจากเด็กทั้งสองได้รับรู้เรื่องราว พวกเขาก็เงียบไปชั่วขณะ

ไป๋ชิงหลิงกอดเด็กทั้งสองไว้ในอ้อมแขน ลูบหลังของพวกเขาเบา ๆ พร้อมกับกล่าวออกมาว่า “ไม่ต้องร้อง แม้ว่ามันจะเศร้าเพียงใดก็ต้องยิ้มออกมา ทำให้นางเป็นเจ้าสาวที่มีความสุขมากที่สุด เข้าใจไหม?”

ใบหน้าเล็ก ๆ ของหรงจิ่งหลินซบอยู่บนไหล่ของนาง พยักหน้าเบา ๆ “หากไม่ใช่เพราะจิ่งหลิน เสด็จย่าก็คงไม่กลายเป็นเช่นนี้ เสด็จแม่ ลูกขอโทษ ท่านเพิ่งจะมีแม่ได้ไม่นาน แต่จิ่งหลินกลับทำให้ท่านต้องกลายเป็นคนไร้แม่อีกครั้ง”

ไป๋ชิงหลิงสำลักอยู่ในลำคอ ความเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ ของหรงจิ่งหลินทำให้นางทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก

“จิ่งหลินเองก็เป็นคนที่แม่ไม่อาจเสียไปได้เช่นกัน ดังนั้นเจ้าจะต้องใช้ชีวิตอยู่ต่อไปให้ดี รอให้น้องชายหรือน้องสาวของเจ้าคลอดออกมา นี่ถึงจะเป็นสิ่งปลอบใจที่ดีที่สุดสำหรับเสด็จย่า” ไป๋ชิงหลิงกล่าวออกมา

หรงจิ่งหลินกล่าวออกมาว่า “เสด็จแม่ ข้าจะกินยาอย่างเชื่อฟัง และจะไม่วิ่งเล่นซุกซนจนทำให้เกิดอันตราย หรือเปิดโอกาสให้ใครมาทำร้ายข้า ข้าจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี จะไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นอีก เสด็จแม่ไม่ต้องเป็นห่วง”

หลังจากพูดประโยคนี้จบ หรงจิ่งหลินก็รู้สึกผิดเล็กน้อย

เนื่องจากไม่กี่วันก่อนหน้านี้นางยังตามเซิงเอ๋อร์แอบเข้าไปในจวนอ๋องจวิน

“ท่านแม่ ท่านวางใจ วันนี้ข้าจะต้องทำให้เสด็จย่าแต่งงานกับเสด็จปู่อย่างมีความสุข ทำให้นางชุ่มชื่นหัวใจเป็นแน่” ไป๋ชงเซิงพูดจบก็นำมือขึ้นมาลูบใบหน้าแม่ของนาง

การหยอกล้อเช่นนี้ทำให้ไป๋ชิงหลิงยิ้มออกมา และเหล่าลูกน้องที่อยู่รอบ ๆ เองก็ยิ้มออกมาด้วย

นางค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน จากนั้นกล่าวออกมาว่า “เล่าเรื่องราวของพวกเราในหุบเขาเซียนไหลให้เสด็จย่าของเจ้าฟังให้มาก ๆ”

นางหวังว่าเด็กสองคนนี้จะสามารถทำให้หลิวหานเยียนเห็นโอกาสในการมีชีวิต และหวังว่านางจะไม่ยอมแพ้หรือล้มเลิกในการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป

เวลานี้นางฝากความหวังทั้งหมดไว้กับจื่ออี

ขอแค่จื่ออีกลับมาโดยเร็ว เท่านั้นก็จะช่วยชีวิตแม่เอาไว้ได้

แต่ในตอนนี้เอง ซังจวี๋ก็เดินออกมาจากถนนอีกเส้นทางหนึ่ง

นางสวมชุดสีชมพูที่เปื้อนเลือด ใบหน้าของนางมีน้ำเลือดติดอยู่จำนวนมาก และพุ่งเข้ามาหาไป๋ชิงหลิงในสภาพเช่นนั้น

ไป๋ชิงหลิงตะลึงงัน ยืนแข็งทื่ออยู่ที่เดิม

แม่นมซั่งเห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยเลือดของนางจึงตะโกนออกมาว่า “ซังจวี๋ เหตุใดร่างกายของเจ้าถึงได้เปื้อนเลือดเช่นนี้”

“พระชายาองค์รัชทายาท ฮูหยิน......ฮูหยิน......นาง......”

ซังจวี๋ชี้ไปทางห้องรับรองส่วนหน้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฮูหยินนางอยู่ด้านหน้า นางกำลังฆ่าคน!”

ร่างกายของไป๋ชิงหลิงแข็งทื่อ ถอยหลังกลับไปสองสามก้าว แม่นมซั่งที่ยืนอยู่ด้านหลังก็เข้าไปพยุงในทันใด ตะโกนออกมาด้วยใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยความเป็นห่วง “พระชายาองค์รัชทายาท!”

ไป๋ชิงหลิงรู้สึกเวียนหัวอย่างรุนแรง นางยกมือขึ้นมาแตะหน้าผากของตนเองแล้วกล่าวว่า “เป็นไป......เป็นไปได้อย่างไร......ชิงจู๋ ชิงจู๋อยู่ที่ไหน!”

เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้น ผู้คนที่อยู่ที่นี่มากมายต่างรู้สึกตื่นตกใจ

พวกเขาโวยวายว่าอยากจะออกไปจากจวนติ้งเป่ยโหว ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไป แต่เมื่อทหารองครักษ์เหยี่ยวดำออกมาพูดด้วยตัวเองก็ไม่มีใครกล้าขัดขืนทั้งนั้น

ในตอนที่ไป๋ชิงหลิงเดินเข้าไปด้านใน พื้นก็เต็มไปด้วยเลือด และมีเสียงร้องไห้ของเด็กและผู้ใหญ่ดังขึ้นมาปะปนกัน

เวลานี้จงอี้โหวฮูหยินนอนอยู่บนพื้น คอของนางมีรอยกรีดของใบมีด จงอี้โหวกอดศพของนางและร้องไห้ออกมาอย่างเศร้าโศก

ในตอนนั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงผู้หญิงกรีดร้องดังขึ้นมาจากด้านใน

ไป๋ชิงหลิงหันไปมองอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็รีบเดินเข้าไป

แม่ของนางหลิวหานเยียน จับสาวใช้คนหนึ่งเป็นตัวประกันและยืนอยู่ตรงมุมห้อง

ศีรษะของนางเต็มไปด้วยผมที่หงอกขาว ดวงตาสีดำกลายเป็นสีแดง มุมปากของนางเต็มไปด้วยเลือด ใบหน้าของซีดขาวแต่เต็มไปด้วยความดุร้าย......

มันเหมือนกับสัตว์ประหลาดเป็นอย่างมาก!

ไป๋ชิงหลิงรีบวิ่งไปหานาง แต่ก็ถูกทหารองครักษ์เหยี่ยวดำห้ามเอาไว้ “พระชายาองค์รัชทายาท อย่าเข้าไป......”

ติ้งเป่ยโหวกำลังเผชิญหน้ากับหรงเยี่ย

หรงเยี่ยต้องการจับกุมหลิวหานเยียน ติ้งเป่ยโหวเกรงว่าเขาจะทำร้ายหลิวหานเยียน ดังนั้นจึงเข้ามาขวางอยู่ด้านหน้าของหรงเยี่ย “ฝ่าบาท อย่าทำร้ายนาง ให้ข้าเป็นคนจัดการเอง!”

“นางได้กลายเป็นคนบ้าไปแล้ว”

“หรงเยี่ย......” ไป๋ชิงหลิงจับแขนของทหารองครักษ์เหยี่ยวดำเอาไว้ ผลักออกไปด้านหน้าด้วยแรงที่มี แต่ไม่ว่าจะออกแรงมากแค่ไหน ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำที่ขวางนางอยู่ก็ไม่เคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย

หรงเยี่ยหันมามองนาง ขมวดคิ้วและกล่าวว่า “อาเสวี่ย เจ้าออกไปก่อน!”

“นางจะต้องเป็นเช่นนี้เพราะภาวะถอดวิญญาณ ทั้งหมดเป็นเพราะข้า ข้าจะเป็นคนคุยกับนางเอง!” 

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น