ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 702

“ไม่ได้” หรงเยี่ยไม่ยอมปล่อยให้นางเข้าใกล้ผู้หญิงบ้าคนนี้เป็นแน่ เขาพูดออกมาด้วยใบหน้าอันเคร่งขรึม “พาตัวพระชายาองค์รัชทายาทออกไป”

“อย่ามาแตะต้องตัวข้า” ไป๋ชิงหลิงถอยไปด้านหลัง ตวาดทหารองครักษ์เหยี่ยวดำทั้งสองคนที่เข้ามาขวางทางนางด้วยความโกรธ จากนั้นก็หันมามองที่หลิวหานเยียนพร้อมกับพูดว่า “แม่ แม่ปล่อยนางไปเถิด ฟังที่ลูกสาวคนนี้พูด”

ดวงตาสีแดงคู่นั้นค่อย ๆ ชำเลืองมาอย่างช้า ๆ และจ้องมาที่ร่างของไป๋ชิงหลิง

เหมือนกับว่านางเข้าใจในสิ่งที่ไป๋ชิงหลิงพูดออกมา แต่มันก็เหมือนว่านางพยายามที่จะฟัง โลหิตสีแดงไหลออกมาจากดวงตาที่แดงก่ำคู่นั้น มองดูแล้วช่างโหดร้ายเป็นอย่างมาก

ไป๋ชิงหลิงก้าวไปด้านหน้าอีกหนึ่งก้าว พูดออกมาด้วยความทุกข์ใจ “แม่ลองมองไปที่ท่านพ่อ วันนี้เป็นวันแต่งงานระหว่างแม่กับพ่อ ไม่ว่ามันจะโศกเศร้าเพียงใด ท่านพ่อก็จะคอยอยู่เคียงข้างท่าน และยังมีข้ากับลูกอีกสองคน แม่ปล่อยนางก่อน จากนั้นกลับไปที่ห้องกับท่านพ่อเถอะนะ”

หลิวหานเยียนแน่นิ่ง ไม่เคลื่อนไหวแต่อย่างใด

ไป๋ชิงหลิงก้าวไปด้านหน้าอีกหนึ่งก้าว นางกดดาบที่ขวางอยู่ด้านหน้าของนางลงมาที่เอว จากนั้นก็ก้มลงไปมองที่ดาบพวกนั้นและผลักออกไปอย่างรุนแรง “หลีกไป”

นางผลักดาบของทหารองครักษ์เหยี่ยวดำ จากนั้นก็รีบวิ่งไปหาหลิวหานเยียน หรงเยี่ยเห็นว่านางวิ่งเข้าไปด้านหน้าอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า เขาจึงพุ่งเข้ามาจากด้านหลังของนาง หยุดนางเอาไว้ ไม่ให้นางก้าวไปด้านหน้า

นางตะโกนออกมาด้วยใบหน้าอันแดงก่ำ “หรงเยี่ย เจ้าให้คนของเจ้าออกไปก่อน เป็นเพราะอาการกำเริบของภาวะถอดวิญญาณ เจ้าจะจับนางไปทั้งแบบนี้ไม่ได้ ที่นางต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะข้า”

ลูกกระเดือกของหรงเยี่ยกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่สองสามครั้ง

หลิวหานเยียนสังหารผู้คน และสังหารฮูหยินของขุนนางคนสนิทของเขา คำพูดเพียงประโยคเดียวมันจะชดใช้กับเรื่องที่เกิดขึ้นได้อย่างไร

เขากอดนางไว้แน่น จากนั้นกล่าวปลอบใจออกมาด้วยเสียงอันแผ่วเบา “ข้าจะใช้อำนาจที่ข้ามีอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องนางอย่างยุติธรรม พาติ้งเป่ยโหวออกไป จับตัวหลิวหานเยียนไว้”

“ขอรับ!” ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำพุ่งไปหาหลิวหานเยียนและติ้งเป่ยโหวในทันที

ติ้งเป่ยโหวหันกลับมามองไป๋ชิงหลิง จากนั้นก็กล่าวออกมาว่า “อาเสวี่ย อย่าเข้ามา อยู่กับองค์รัชทายาทเช่นนั้นแหละดีแล้ว ต่อให้พ่อต้องตาย พ่อก็ไม่มีทางทิ้งแม่ของเจ้าไป”

พูดจบเขาก็ชักดาบออกมาเพื่อต่อสู้กับเหล่าทหารองครักษ์เหยี่ยวดำ

ดวงตาของไป๋ชิงหลิงเบิกกว้าง จ้องมองฉากที่อยู่ตรงหน้า มือและเท้าของนางสั่นเทาด้วยความหนาวเย็น

ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำกลุ่มหนึ่งก้าวไปด้านหน้า ลงมืออย่างไร้ซึ่งความเมตตา พยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะจับกุมติ้งเป่ยโหวและหลิวหานเยียน

นางแค่จากไปเพียงแค่ไม่นาน เหตุใดเรื่องราวถึงได้กลายเป็นเช่นนี้ นางรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้อยู่ข้างกายของหลิวหานเยียน เสียใจที่ทำไมถึงไม่ยอมให้แม่นมซั่งเป็นคนไปรับลูกทั้งสองของตนเองมา

หากนางคอยดูแลอยู่ข้างกายของหลิวหานเยียนตลอดเวลา หลิวหานเยียนอาจจะไม่ต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้

“ปล่อยข้า!” ไป๋ชิงหลิงพยายามขัดขืนอย่างสุดกำลัง

แต่หรงเยี่ย กลับกอดนางไว้แน่นขึ้น “เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะใช้อารมณ์ในการตัดสิน”

“นางคือแม่ของข้า นางเป็นผู้มอบชีวิตให้ข้า เจ้าจะให้ข้ายืนดูทหารองครักษ์เหยี่ยวดำสังหารพ่อและแม่ของข้าไปต่อหน้าต่อตาเลยอย่างนั้นหรือ เจ้าอาจจะไม่รู้สึกอะไร แต่ข้าทำเช่นนั้นไม่ได้ หัวใจของข้ามันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ข้าเพิ่งจะมีแม่กับเขาได้ไม่นาน นางดีกับข้ามากจริง ๆ ข้าทำใจไม่ได้......” นางพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาเต็มใบหน้า

หากหลิวหานเยียนถูกจับตัวไป ด้วยกฎหมายของแคว้นหรง พวกเขาไม่มีทางไว้ชีวิตนางเป็นแน่

นางกับติ้งเป่ยโหวมีเจตนาที่เห็นแก่ตัว นั่นก็คือต้องการพาหลิวหานเยียนหนีไปจากที่นี่

หนีไปจากแคว้นหรงและกลับสู่เผ่าอูเซิน

ใช่ ขอแค่หนีไปจากแคว้นหรงได้ แม่ของนางก็สามารถมีชีวิตรอดต่อไป

“หรงเยี่ย ข้าขอร้องเจ้า” ไป๋ชิงหลิงหันกลับมา เสียงของนางแข็งทื่อ “เจ้าอย่าทำให้ข้าต้องสูญเสียคนในครอบครัวอีกต่อไปเลย เจ้าปล่อยนางไปเถิด ผลลัพธ์ที่ตามมาหลังจากนี้ ข้าจะเป็นคนรับมันไว้เอง”

หรงเยี่ยมองมาที่หลิวหานเยียน นางยังมีความคิดที่จะสังหารสาวใช้ผู้นั้น บีบร่างของสาวใช้ผู้นั้น กัดคอและดูดเลือดของนาง

และในตอนที่เขากำลังหวั่นไหว เกิดความลังเลขึ้นมาในหัวใจ จู่ ๆ หลิวหานเยียนก็พุ่งเข้ามาจากด้านหลังของติ้งเป่ยโหว และตบติ้งเป่ยโหวจะกระเด็นออกไป......

“ไม่!” ไป๋ชิงหลิงเห็นฉากที่เกิดขึ้นด้วยตาของนางเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น