ยาที่นางขายนั้น ไม่ใช่ยาที่หมอเหลียงทั่วไปจะสามารถแบ่งแยกออกได้ ข้างในได้ใส่เวทมนตร์ลงไป พิษที่ว่านั้นก็พึ่งพาเวทมนตร์ในการคงอยู่
เมื่อกินยาของนางเข้าไป ถึงแม้จะนิดเดียว ถึงตอนนั้นนางอยากให้รอดก็จะรอด อยากให้ตายก็ต้องตาย อยากให้คลั่งไคล้ก็จะคลั่งไคล้
แต่พอผ่านไป ผู้คนที่กินยาพวกนั้นเข้าไปแล้วไปตรวจดูอีกครั้ง เวทนมตร์กลับหายไปแล้ว ทำให้ผู้ตรวจไม่รู้ต้นเหตุที่มา
นี่เป็นวิธีการที่หญิงชราสามารถอยู่รอดในที่แบบนี้มาสิบกว่าปี
นาง ไม่ใช่คนแคว้นหรง
สิบกว่าปีมานี้ที่อยู่อย่างปลอดภัยมาตลอด นางไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆอ๋องหรงถึงได้มาหา ไม่สิ บัดนี้ควรเรียกว่าองค์รัชทายาทแล้ว
ในตอนที่หญิงชราได้ยินคำพูดของหมอซูแล้ว ก็แอบโล่งใจ
ขอแค่ไม่ใช่คนๆนั้น คนของชนเผ่าอูเซินไม่มีทางมาถึงที่แห่งนี้ได้
และแล้ว......
ในจังหวะที่หญิงชราโล่งใจนั้น น้ำเสียงของหมอซูก็เปลี่ยนไป:"แต่ว่า......"
เขาเดินไปที่งาช้างกิ่งนั้น ชี้ไปที่ลวดลายบนงา:"เมื่อครู่ข้าพูดวิธีผลิตพิษแบบปกติไปอย่างเดียว"
หญิงชราเงยหน้าขึ้นทันทีแล้วมองไปที่เขา
"งาช้างกิ่งนี้ตอนนี้ยังดูไม่มีพิษอะไร แต่ถ้ามีคนต้องการละก็ ผู้ที่ผลิตพิษสามารถร่ายเวทมรตร์พิษให้กับผงพิษที่ขูดออกมา ผู้ที่กินเข้าไปจะเหมือนกับคนที่ติดพิษ แต่พอรอให้เหล่าหมอเหลียงตรวจหาพิษ กลับตรวจหาไม่พบยาพิษใดๆ เหมือนกับติดโรคร้ายแรงและเหมือนกับติดพิษ ทำให้คนตรวจยากที่จะวินิจฉัยว่าเป็นอะไรกันแน่ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยค่อยๆตายไป"
สีหน้าของหญิงชราเปลี่ยนไปอีกครั้ง แววตามีความกระวนกระวายเพิ่มขึ้นมา พูดปฏิเสธว่า:"ท่านหมอเหลียงผู้นี้อย่าได้พูดเรื่อยเปื่อย สิ่งที่ข้าขายคือพวกกระดูกสัตว์ เขี้ยวสัตว์เท่านั้น หากมีใครต้องการยาสมุนไพรละก็ ข้าและหลานสาวก็จะเข้าป่าหามาให้ เป็นคนธรรมดาที่ทำมาหากิน ไม่มีทางทำเรื่องเลวร้ายเช่นนั้นหรอก"
หรงเยี่ยหรี่ตาทั้งสองข้างลง สังเกตการณ์อย่างเงียบๆ
หมอซูหยิบงาช้างออกมา จากนั้นก็กวาดตาเดินดูรอบๆ จากนั้นก็ไปหยุดที่ตรงหน้าเหล้ายาขวดหนึ่ง
เขาเปิดฝาเหล้ายาขวดนั้นออก
ทันใดนั้นเองหญฺิงชราก็ตะโกนออกมา:"นั้นเป็นของล้ำค่ามาก มีเจ้าของแล้ว ไม่ควรเข้าไปแตะต้อง......"
"ฉิ่ง!"หรงเยี่ยชักคมดาบออกจากฝักดาบ ทาบอยู่บนตัวของหญิงชราและหลายสาว หญิงชราจึงหยุดพูดทันที
หมอซูไม่ได้สนใจนาง เดินตรงไปที่เหล้ายา จากนั้นนำงาช้างทั้งกิ่งใส่เข้าไปในขวดเหล้า และเมื่อดึงงาช้างออกมา งาช้างกลับกลายเป็นสีดำไปซะแล้ว อีกทั้งบนงายังมีฟองขาวๆอีกด้วย
หญิงชราสีหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ชี้ไปที่หมอซู:"เจ้า......เจ้า......เจ้า......เจ้าคือ......"
หมอซูกวาดตามองนางด้วยแววตาที่เฉียบคม:"คาถาเวทมนตร์ข้างบนนี้ เป็นหลักฐานที่ดีที่สุด หากเจ้าไม่ยอมรับ ปราชญ์หญิงที่องค์รัชทายาทเชิญมากำลังจะเข้าเมืองหลวงแล้ว"
"ปราชญ์หญิงเหลียน!"หญิงชรากระวนกระวายอย่างมาก แต่นางไม่อยากตาย
นางยิ้มเย็นชา:"เช่นนั้นก็เชิญปราชญ์หญิงเหลียนมาแล้วค่อยว่ากัน"
พูดจบ หญิงชรากอดหลานสาวขอตัวเองไว้ จากนั้นก็กลายเป็นหมอกขาวในพริบตา
รอทุกคนดึงสติกลับมาได้ ภายใต้หมอกขาวก็ไม่มีใครอยู่แล้ว
หมอซูวิ่งเข้าไป โบกมือทั้งสองเพื่อไล่หมอกขาวออกแล้วพูดว่า:"ยัยแก่เจ้าเล่ห์เอ้ย"
"นางเป็นใคร?"
"ก่อนที่ข้าน้อยจะมา ก็แอบคิดแล้วว่าใครกันที่ฝังของเช่นนั้นบนตัวฮูหยินยี่สิบ แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วต้องมีความเกี่ยวข้องกับที่นี่แน่นอน รวมถึง......คาถาถอดวิญญาณที่พระชายาโดนด้วย แต่แค่ไม่คิดว่านางจะปิดบังตัวตนได้ลึกเช่นนั้น"หมอซูกัดฟันพูด:"นางถือว่าเป็นเนื้อร้ายของชนเผ่าอูเซินเลย ผู้ริเริ่มคาถาพิษของชนเผ่าอูเซินก็คือนางนั่นเอง ท่านอ๋องต้องรีบจับกุมคนๆนี้ให้เร็วที่สุดขอรับ"
หรงเยี่ยเงยหน้ากวาดตามองรอบๆ:"เอาของพวกนี้กลับไปด้วย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...