ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 720

สรุปบท บทที่ 720 มองทะลุธาตุแท้ของหญิงชรา: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

บทที่ 720 มองทะลุธาตุแท้ของหญิงชรา – ตอนที่ต้องอ่านของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

ตอนนี้ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 720 มองทะลุธาตุแท้ของหญิงชรา จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ยาที่นางขายนั้น ไม่ใช่ยาที่หมอเหลียงทั่วไปจะสามารถแบ่งแยกออกได้ ข้างในได้ใส่เวทมนตร์ลงไป พิษที่ว่านั้นก็พึ่งพาเวทมนตร์ในการคงอยู่

เมื่อกินยาของนางเข้าไป ถึงแม้จะนิดเดียว ถึงตอนนั้นนางอยากให้รอดก็จะรอด อยากให้ตายก็ต้องตาย อยากให้คลั่งไคล้ก็จะคลั่งไคล้

แต่พอผ่านไป ผู้คนที่กินยาพวกนั้นเข้าไปแล้วไปตรวจดูอีกครั้ง เวทนมตร์กลับหายไปแล้ว ทำให้ผู้ตรวจไม่รู้ต้นเหตุที่มา

นี่เป็นวิธีการที่หญิงชราสามารถอยู่รอดในที่แบบนี้มาสิบกว่าปี

นาง ไม่ใช่คนแคว้นหรง

สิบกว่าปีมานี้ที่อยู่อย่างปลอดภัยมาตลอด นางไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆอ๋องหรงถึงได้มาหา ไม่สิ บัดนี้ควรเรียกว่าองค์รัชทายาทแล้ว

ในตอนที่หญิงชราได้ยินคำพูดของหมอซูแล้ว ก็แอบโล่งใจ

ขอแค่ไม่ใช่คนๆนั้น คนของชนเผ่าอูเซินไม่มีทางมาถึงที่แห่งนี้ได้

และแล้ว......

ในจังหวะที่หญิงชราโล่งใจนั้น น้ำเสียงของหมอซูก็เปลี่ยนไป:"แต่ว่า......"

เขาเดินไปที่งาช้างกิ่งนั้น ชี้ไปที่ลวดลายบนงา:"เมื่อครู่ข้าพูดวิธีผลิตพิษแบบปกติไปอย่างเดียว"

หญิงชราเงยหน้าขึ้นทันทีแล้วมองไปที่เขา

"งาช้างกิ่งนี้ตอนนี้ยังดูไม่มีพิษอะไร แต่ถ้ามีคนต้องการละก็ ผู้ที่ผลิตพิษสามารถร่ายเวทมรตร์พิษให้กับผงพิษที่ขูดออกมา ผู้ที่กินเข้าไปจะเหมือนกับคนที่ติดพิษ แต่พอรอให้เหล่าหมอเหลียงตรวจหาพิษ กลับตรวจหาไม่พบยาพิษใดๆ เหมือนกับติดโรคร้ายแรงและเหมือนกับติดพิษ ทำให้คนตรวจยากที่จะวินิจฉัยว่าเป็นอะไรกันแน่ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยค่อยๆตายไป"

สีหน้าของหญิงชราเปลี่ยนไปอีกครั้ง แววตามีความกระวนกระวายเพิ่มขึ้นมา พูดปฏิเสธว่า:"ท่านหมอเหลียงผู้นี้อย่าได้พูดเรื่อยเปื่อย สิ่งที่ข้าขายคือพวกกระดูกสัตว์ เขี้ยวสัตว์เท่านั้น หากมีใครต้องการยาสมุนไพรละก็ ข้าและหลานสาวก็จะเข้าป่าหามาให้ เป็นคนธรรมดาที่ทำมาหากิน ไม่มีทางทำเรื่องเลวร้ายเช่นนั้นหรอก"

หรงเยี่ยหรี่ตาทั้งสองข้างลง สังเกตการณ์อย่างเงียบๆ

หมอซูหยิบงาช้างออกมา จากนั้นก็กวาดตาเดินดูรอบๆ จากนั้นก็ไปหยุดที่ตรงหน้าเหล้ายาขวดหนึ่ง

เขาเปิดฝาเหล้ายาขวดนั้นออก

ทันใดนั้นเองหญฺิงชราก็ตะโกนออกมา:"นั้นเป็นของล้ำค่ามาก มีเจ้าของแล้ว ไม่ควรเข้าไปแตะต้อง......"

"ฉิ่ง!"หรงเยี่ยชักคมดาบออกจากฝักดาบ ทาบอยู่บนตัวของหญิงชราและหลายสาว หญิงชราจึงหยุดพูดทันที

หมอซูไม่ได้สนใจนาง เดินตรงไปที่เหล้ายา จากนั้นนำงาช้างทั้งกิ่งใส่เข้าไปในขวดเหล้า และเมื่อดึงงาช้างออกมา งาช้างกลับกลายเป็นสีดำไปซะแล้ว อีกทั้งบนงายังมีฟองขาวๆอีกด้วย

หญิงชราสีหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ชี้ไปที่หมอซู:"เจ้า......เจ้า......เจ้า......เจ้าคือ......"

หมอซูกวาดตามองนางด้วยแววตาที่เฉียบคม:"คาถาเวทมนตร์ข้างบนนี้ เป็นหลักฐานที่ดีที่สุด หากเจ้าไม่ยอมรับ ปราชญ์หญิงที่องค์รัชทายาทเชิญมากำลังจะเข้าเมืองหลวงแล้ว"

"ปราชญ์หญิงเหลียน!"หญิงชรากระวนกระวายอย่างมาก แต่นางไม่อยากตาย

นางยิ้มเย็นชา:"เช่นนั้นก็เชิญปราชญ์หญิงเหลียนมาแล้วค่อยว่ากัน"

พูดจบ หญิงชรากอดหลานสาวขอตัวเองไว้ จากนั้นก็กลายเป็นหมอกขาวในพริบตา

รอทุกคนดึงสติกลับมาได้ ภายใต้หมอกขาวก็ไม่มีใครอยู่แล้ว

หมอซูวิ่งเข้าไป โบกมือทั้งสองเพื่อไล่หมอกขาวออกแล้วพูดว่า:"ยัยแก่เจ้าเล่ห์เอ้ย"

"นางเป็นใคร?"

"ก่อนที่ข้าน้อยจะมา ก็แอบคิดแล้วว่าใครกันที่ฝังของเช่นนั้นบนตัวฮูหยินยี่สิบ แต่ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วต้องมีความเกี่ยวข้องกับที่นี่แน่นอน รวมถึง......คาถาถอดวิญญาณที่พระชายาโดนด้วย แต่แค่ไม่คิดว่านางจะปิดบังตัวตนได้ลึกเช่นนั้น"หมอซูกัดฟันพูด:"นางถือว่าเป็นเนื้อร้ายของชนเผ่าอูเซินเลย ผู้ริเริ่มคาถาพิษของชนเผ่าอูเซินก็คือนางนั่นเอง ท่านอ๋องต้องรีบจับกุมคนๆนี้ให้เร็วที่สุดขอรับ"

หรงเยี่ยเงยหน้ากวาดตามองรอบๆ:"เอาของพวกนี้กลับไปด้วย"

"เยี่ยม เจ้ายอมรับโทษข้อนี้ก็ดีแล้ว แม่นางหลิ่วเป็นคนฆ่า เช่นนั้นเจ้าบอกข้าสิว่าแม่นางหลิ่วฆ่าคนที่ติ้งเป่ยโหวไปกี่คน"

หรงเยี่ย:"สิบสี่คน"

"สิบสี่ชีวิตนี้ก็เพียงพอที่จะให้นางตายไปร้อยรอบหมื่นรอบแล้ว กลับไปเถอะ ข้าไม่อยากฟังเจ้าอธิบายอะไรอีก"เขายืนกรานแล้วว่าจะฆ๋าแม่นางหลิ่ว

บวกกับหรงเยี่ยที่สร้างเรื่องในครั้งนี้ จักรพรรดิเหยาไม่ยอมปล่อยให้ไป๋ชิงหลิงอยู่ในเมืองหลวงต่อแน่

หัวใจของเขาลุ่มหลงกับผู้หญิงคนนั้น

สำหรับผู้ที่จะปกครองประเทศในอนาคตแล้ว นี่เป็นสภาวะที่ค่อนข้างแย่

คลั่งไคล้ในตัวผู้หญิงคนหนึ่งมากเกินไป มีเพียงจะทำร้ายประเทศ

แต่หรงเยี่ยไม่ยอมกลับไป:"หมอซูอยู่นี่ เสด็จพ่อลองดูของพวกนี้ก่อนเถอะขอรับ จากที่ลูกสังเกตคนๆนั้นแล้วรู้ว่า นางได้แก้แค้นกับคนที่ควรแก้แค้นในปีนั้นไปหมดแล้ว"

จักรพรรดิเหยาหน้าดำคร่ำเครียดแล้วพูดว่า:"คนที่เจ้าพูดถึงเป็นใครกัน นางจะเก่งเกียจเพียงนั้นเชียว"

"จัวซี่เหมย!"

"ฮาฮา......"ได้ยินว่าจัวซี่เหมยสามคำ จักรพรรดิเหยาก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง:"นามว่าฮูหยินจัวเป็นนามที่เสด็จแม่ของเจ้าแต่งให้กับนางซึ่งเป็นเกียรติทีสูงส่งที่สุดสำหรับนาง หลังจากที่เสด็จแม่ของเจ้าเสีย นางได้มาเฝ้าหน้าหลุมศพเจ็ดวันเต็มๆ ไม่มีกะจิตกะใจใดๆไร้ซึ่งวิญญาณ เจ้าบ้าไปแล้ว กล้าดียังไงมาใส่ร้ายแม่หม้ายที่จงรักภักดีอย่างนี้!"

"ไสหัวไปซะ ข้าไม่อยากเจอหน้าเจ้า"จักรพรรดิเหยาโกรธจัด

หรงเยี่ยหันตัวกลับ ออกจากตำหนักเฉียนชิง

หมอซูกวาดตามองไปที่เขา ถามว่า:"แล้ว ข้าน้อยยังต้องเข้าไปหรือไม่ขอรับ?"

"ไม่จำเป็นแล้ว บางคนตาบอด แต่เขาใจบอด!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น