ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 872

สรุปบท บทที่ 872 คำแนะนำที่เจตนาดีของไป๋ชิงหลิง: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

ตอน บทที่ 872 คำแนะนำที่เจตนาดีของไป๋ชิงหลิง จาก ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 872 คำแนะนำที่เจตนาดีของไป๋ชิงหลิง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเกิดใหม่ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ที่เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

แต่กลับเพิกเฉยต่อทหารองครักษ์เหยี่ยวดำที่อยู่ข้าง ๆ หรงเยี่ยโดยสิ้นเชิง

หรงเยี่ยมักถูกรายล้อมไปด้วยคนที่ปกป้องเขา หากฮองเฮาจากไปแล้ว ก็จะยังมีทหารองครักษ์เหยี่ยวดำนับหมื่นนับพันอยู่ข้างหลังเขา

ในที่สุดฉินซานหลิงก็ได้สติกลับมา แสดงความลำบากใจ และพูดว่า : “อาการบาดเจ็บของฝ่าบาทรุนแรงเกินไปและข้าก็กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของฝ่าบาทด้วย!”

“คุณหนูฉินและนายผู้เฒ่าฉินทำหน้าที่ช่วยเหลือได้ดีมาก เมื่อฝ่าบาทฟื้นขึ้นมา แน่นอนว่าจะต้องได้รับรางวัล ข้าหวังว่าตระกูลฉิน จะสามารถเก็บข่าวเกี่ยวกับพระอาการบาดเจ็บสาหัสของฝ่าบาทไว้เป็นความลับ”

ฉินซานหลิงพยักหน้า : “แน่นอนเราต้องปิดข่าว ส่วน……ฮองเฮาเหนียงเหนียงทางนั้นมีข่าวดีอะไรบ้างหรือไม่?”

ทหารองครักษ์เหยี่ยวดำหลายคนมองหน้ากัน

พวกเขาได้รับข่าวมานานแล้วว่าฮองเฮาติดอยู่ในทะเลเพลิง และทหารองครักษ์เหยี่ยวดำจำนวนมากได้ไปดับไฟแล้ว

อิงเฟิงที่ไม่เคยจำตัวตนของไป๋ชิงหลิงได้ หลังจากได้ยินคำถามของฉินซานหลิง เขาก็ถามอย่างเคร่งขรึม : “ใช่แล้ว เหนียงเหนียงอยู่ที่ไหน?”

ไป๋ชิงหลิงพูดอย่างใจเย็น : “คฤหาสน์ของตระกูลฉินถูกไฟไหม้จนเหลือแต่ซาก ผู้ที่จะไปช่วยเหลือ ไม่พบพระศพของฮองเฮา แต่ว่า……”

“ไม่มีใครเห็นฮองเฮาหนีออกมาจากทะเลเพลิง หากฝ่าบาทฟื้นขึ้น พวกเจ้าต้องจำไว้ อย่าบอกเรื่องนี้ให้ฝ่าบาททราบ ข้าจะตามหาเหนียงเหนียงต่อไป ถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็ต้องเจอตัว ถ้าสิ้นพระชมน์แล้วต้องเจอพระศพ!”

ทันทีที่นางพูดจบ ดวงตาที่เฉียบคมของนางก็จ้องไปที่ฉินซานหลิงอย่างแผ่วเบา

นางพบว่าดวงตาของฉินซานหลิงเป็นประกาย

โดยเฉพาะเมื่อได้ยินคำว่า“ไม่พบพระศพของฮองเฮา และไม่มีใครเห็นเหนียงเหนียงหนีออกมาจากทะเลเพลิง”

นางคิดอย่างรอบคอบและตระหนักว่า นางเพิ่งมาถึงจิงโจว และไม่ได้เปิดเผยต่อฉินซานหลิงหรือนายผู้เฒ่าฉินว่านางกำลังจะไปหาฮูหยินใหญ่ฉิน

ไม่สามารถเตรียมการล่วงหน้า และรอนางอยู่ที่นั่นได้

ด้วยผลงานที่ผ่านมาของนายผู้เฒ่าฉินต่อราชวงศ์ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จ้างวานฆ่า

นอกจากนี้เขายังให้ความสำคัญกับหลานสาวของเขาฉินซานหลิงเป็นอย่างมาก และเต็มใจที่จะแลกเปลี่ยนทรัพย์สมบัติของเขาเพื่อให้ฉินซานหลิงเป็นนางสนม นายผู้เฒ่าฉินก็ไม่สามารถทำลายฉินซานหลิงได้

เช่นนั้น ฆาตกรก็เป็นคนอื่น

และบุคคลนี้ได้ ได้สมรู้ร่วมคิดกับตระกูลใหญ่ฉินแล้ว

คนเดียวที่นางนึกถึงก็คือ ฉินหย่วนอี้ผู้ทรยศจักรพรรดิ……

เขาเป็นคนเดียวที่สามารถจ้างนักฆ่าระดับแนวหน้าได้ !

“พวกเจ้าสามารถไปหาฮองเฮาได้อย่างสบายใจ ฝ่าบาทอยู่ในตระกูลฉินปลอดภัยอย่างแน่นอน” ฉินซานหลิงกล่าว

ไป๋ชิงหลิงเลิกคิ้ว : “ปลอดภัยอย่างแน่นอน?”

ฉินซานหลิงรู้ว่านางกำลังตั้งคำถามอะไร : “ที่ของข้านี้แตกต่างจากเรือนหลัก อยู่ที่นี่ฝ่าบาทได้รับการคุ้มครองโดยผู้คนจากตระกูลฉิน และทหารองครักษ์เหยี่ยวดำก็อยู่รอบ ๆ เรือนไม่ห่างเช่นกัน ถึงแม้จะมีใครอยากเข้ามา แต่พวกเขาก็ต้องมีความสามารถนี้”

“อืม” ในครั้งนี้ไป๋ชิงหลิงไม่ได้ปฏิเสธ

แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับคำพูดของฉินซานหลิง : “ข้ามีคำพูดสองสามคำที่อยากจะเตือนคุณหนูฉิน”

ฉินซานหลิงมองดูนาง : “เรื่องอะไร?”

“เท่าที่ข้ารู้ เรือนหลักของตระกูลฉินทั้งหมดก็หายไปเช่นกัน หากพวกเขาไม่ได้ถูกฝังอยู่ในทะเลเพลิง เช่นนั้นก็คงหนีออกไปก่อนแล้ว”

“ก่อนหน้านั้น เพื่อที่จะแข่งขันเพื่อแย่งชิงทรัพย์สินของตระกูลในมือนายผู้เฒ่าฉิน พวกเขายินดีที่จะฆ่าชิงทรัพย์ ลองคิด……พวกเขาคงไม่รังเกียจหากมือของตัวเองจะเปื้อนเลือดของอีกสองสามชีวิต!”

หลังจากที่ไป๋ชิงหลิงพูดแบบนี้ เปลือกตาของฉินซานหลินก็กระตุกอย่างแรง

จากนั้นนางถึงตระหนัดได้ว่า ตลอดทั้งช่วงบ่ายนางไม่ได้เจอท่านปู่เลย

และคำพูดเมื่อครู่ของไป๋ชิงหลิง สามารถบอกได้ว่า นางเข้าใจแล้วว่าหมายถึงอะไร

นางหันกลับมาอย่างรวดเร็วและถามพ่อบ้าน : “ท่านปู่ล่ะ พวกเจ้ามีใครเห็นท่านปู่บ้าง?”

พ่อบ้านมองไปรอบ ๆ และพูดว่า : “นายผู้เฒ่าบอกว่าเขาจะออกไปทำธุระในบ่ายวันนี้ จนตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา”

“รีบไปหาท่านปู่เร็ว!” ฉินซานหลิงวิ่งออกไปจากเรือนซงไป๋แล้ว

เมื่อฉินซานหลิงออกจากเรือนไป ด้านในก็มีเสียง “ตึง เพล้ง” ดังออกมา

หรงเยี่ยเพราะได้ยินคำพูดของอิงเฟิง ดังนั้นจึงไอขึ้นมาอย่างรุนแรง

แม้ว่าเขาจะบาดเจ็บแค่ภายนอก แต่การไอที่รุนแรงแบบนั้น ก็ยังทำให้บาดแผลเปิดออก

เสื้อคลุมสีขาวเปื้อนเลือด ฉินซานหลิงลูบหลังอย่างประหม่า : “ฝ่าบาท บาดแผลเปิดแล้ว พระองค์กลับไปที่ห้องแล้วนอนลงก่อน หม่อมฉันจะไม่ออกไปไหน หม่อมฉันจะฟังพระองค์ หม่อมฉันจะไม่ออกไปแล้ว!”

หรงเยี่ยไอมากขึ้นเรื่อย ๆ รู้สึกราวกับว่ามีก้อนหินก้อนใหญ่กดทับอยู่ในใจ โดยกังวลว่าไป๋ชิงหลิงจะตกอยู่ในอันตราย

เขาจ้องมองที่อิงเป่ยด้วยดวงตาเบิกกว้าง

อิงเป่ยเข้าใจความคิดของหรงเยี่ยได้อย่างรวดเร็ว และพูดว่า : “นายท่าน กระหม่อมจะช่วยตามหานายผู้เฒ่าฉิน ท่านสามารถอยู่ที่นี่เพื่อพักฟื้นได้อย่างสบายใจ กระหม่อมจะพาเขากลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน”

เขายกมือขึ้นด้วยความยากลำบากและโบกมือ

อิงเป่ยออกจากคฤหาสน์เก่าของตระกูลฉินอย่างรวดเร็ว และหรงเยี่ยก็ถูกประคองกลับไปที่เตียง

ในขณะที่หรงเยี่ยนอนลง เลือดเต็มปากก็ไหลออกมาจากลำคอของเขา และสาดไปที่ชุดกระโปรงของฉินซานหลิง

ฉินซานหลิงสะดุ้ง : “อ๊ะ……”

นางมองชายกระโปรงด้วยใบหน้าซีดเซียว กระโปรงยาวสีชมพูนั้น ถูกย้อมไปด้วยดอกไม้สีเลือดเหมือนดอกพลัม

นางตัวสั่นทันที และกอดหรงเยี่ย : “หรงเยี่ย หรงเยี่ย พระองค์เป็นอะไร รู้สึกไม่สบายตรงไหน รีบบอกข้าเร็ว หมอหลวง หมอหลวงเจิน……”

นางร้องไห้ขณะเช็ดเลือดออกจากปากของเขา

หมอหลวงเจินก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และตรวจวัดชีพจรของหรงเยี่ย

หลังจากนั้นไม่นาน ใบหน้าของหมอหลวงเจินก็เริ่มจริงจัง จากนั้นเขามองไปที่หรงเยี่ยด้วยสีหน้าตกตะลึง

ฉินซานหลิงเห็นสิ่งผิดปกติจากสีหน้าของเขาจึงถามว่า : “ฝ่าบาทเป็นอะไร?”

“ชีพจรของฝ่าบาท……” หมอหลวงเจินขมวดคิ้วแน่น และพูดอย่างไม่แน่ใจ : “ดูเหมือนว่าจะมีพลังในร่างกาย เชื่อมเข้ากับเลือด และดูเหมือนว่ามีบางอย่าง กำลังดูดหัวใจของฝ่าบาท ข้าต้องตรวจให้แน่ใจอีกครั้ง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น