“อาการป่วยของเหอไท้เฟย ดูเหมือนจะรักษายาก” ไป๋ชิงหลิงมองดู แล้วพูด
ท่านอ๋องหราวหันกลับไปมองแม่ของเขา เมื่อเห็นว่าเหอไท้เฟยผอมลงเรื่อยๆ เขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว :“ขอร้องล่ะฮูหยินเว่ย ช่วยชีวิตแม่ของข้าด้วย วันหลังหากตระกูลเว่ยหรือราชวงศ์ต้าโจวต้องการความช่วยเหลือจากข้า ข้าจะช่วยอย่างสุดกำลังแน่นอน”
เขารู้ว่า พี่ชายของฮูหยินเว่ยแห่งราชวงศ์ต้าโจว เป็นคนที่ร่ำรวยมาก
ไม่มีทางที่จะขัดสนเรื่องเงินทอง แต่ถ้าท่านอ๋องแห่งแคว้นหรงติดค้างหนี้บุญคุณ ก็สามารถใช้เรื่องนี้มาต่อรองกับเรื่องอื่นๆได้
ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า อนาคตจะเกิดอะไรขึ้น
อย่างไรก็ตาม ท่านอ๋องหราวก็ยินยอมพร้อมใจในเรื่องนี้
สถานการณ์ของแคว้นหรงตอนนี้เป็นยังไง อีกสี่แคว้นก็เห็นได้อย่างชัดเจน
จักรพรรดิองค์ใหม่เพิ่งขึ้นครองราชย์ วังหลังไม่มีนางสนม เหล่าเสนาบดีต่างก็ต้องการกดดันและปรามจักรพรรดิองค์ใหม่
ข้างในมีสุนัขจิ้งจอกข้างนอกมีเสือตัวใหญ่ซึ่งก็คือท่านอ๋องหราว
ฮูหยินเว่ยไม่อยากเข้ามายุ่งกับเรื่องแบบนี้ แต่ว่าตอนนี้นางต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่น
สาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลังไป๋ชิงหลิงแอบเหลือบมองท่านอ๋องหราว เมื่อคิดได้ว่าคนที่ช่วยชีวิตคนไม่ใช่นาง บุญคุณที่ท่านอ๋องหราวติดค้างก็ไม่ได้ติดค้างนาง ฉินม่านเกอก็รู้สึก สบายใจขึ้นเล็กน้อย
หากท่านอ๋องหราวรู้ว่าหมอที่มีชื่อเสียงที่เขาเชิญมานั้น แท้จริงแล้วก็คือฮองเฮาของราชวงศ์ตัวเอง เขาคงจะต้องฝันร้ายทั้งปี
“ข้าไม่ต้องการให้จวนท่านอ๋องหราวตอบแทนบุญคุณ ข้าหวังแค่อาการของไท้เฟยจะดีขึ้น และต้องมอบสุ่ยหันเซียงแก่ข้า ทุกๆเดือน” ไป๋ชิงหลิงกล่าว
หวู่ซือหลิงก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า :“ฮูหยินเว่ย ระหว่างทางที่กลับจวนอ๋อง ข้าได้ให้คนไปเด็ดสุ่ยหันเซียง หลังจากเด็ดมาแล้ว จะให้หมอประจำจวนเก็บรักษาอย่างดี และส่งไปที่ต้าโจวทันที ท่านคิดว่า.......สามารถอยู่รักษาท่านแม่ของข้า ที่จวนอ๋องอย่างสบายใจได้ไหม”
ไป๋ชิงหลิงจงใจหันกลับไปเหลือบมองหวู่ซือหลิง ด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน :“พระชายาท่านอ๋องหราวช่างรอบคอบยิ่งนัก”
หลังจากพูดจบ ไป๋ชิงหลิงก็พูดกับฉินม่านเกอที่อยู่ข้างๆว่า :“เคลียร์สถานที่”
“เจ้าคะ ฮูหยิน!” ฉินม่านเกอหันกลับมา แล้วพูดว่า :“ขณะที่ฮูหยินข้าทำการรักษา ไม่ชอบให้คนอื่นมาจ้องมอง จะเป็นการรบกวนการรักษาของฮูหยิน”
“นี่...........” หวู่ซือหลิงไม่คิดว่าฮูหยินเว่ยจะมีกฎแปลกๆเช่นนี้ด้วย
นางไม่กล้าตัดสินใจเอง จึงหันไปมองท่านอ๋องหราว
ท่านอ๋องหราวก็ขมวดคิ้ว ในใจเขาไม่ต้องการให้ไท้เฟยอยู่คนเดียวตามลำพัง
ไป๋ชิงหลิงเหลือบมองหวู่ซือหลิง แล้วพูดว่า :“พระชายาท่านอ๋องหราวสามารถอยู่ได้ คนอื่นรวมถึงท่านอ๋องหราว ถอยออกไปก่อน”
คราวนี้ ท่านอ๋องหราวไม่ลังเลเลย :“ก็ได้”
หวู่ซือหลิงพูดว่า :“ท่านอ๋อง ไม่ต้องกังวล ข้าจะดูแลท่านแม่เอง”
ท่านอ๋องหราวตอบรับ และสั่งให้ทุกคนที่คอยรับใช้อยู่ในห้องออกไป
ทันทีที่ท่านอ๋องหราวเดินออกจากลานบ้าน พ่อบ้านก็วิ่งเข้ามาจากลานบ้าน :“ท่านอ๋อง พระชายา ชายชราคนนั้นบอกว่าต้องการพบท่าน! ”
ท่านอ๋องหราวหรี่ตาลง
เมื่อพ่อบ้านเห็นสายตานี้ เขาก็ตื่นตระหนก และรีบหุบปาก ไม่กล้าพูดอะไรอีก
จากนั้นท่านอ๋องหราวก็เดินออกจากลานบ้านอย่างรวดเร็ว
แต่ไป๋ชิงหลิงที่อยู่ในห้อง กลับได้ยินคำพูดของพ่อบ้านชัดเจนทุกถ้อยคำ
ชายชรา?
นายผู้เฒ่าฉิน?
ณ ลานบ้านอีกแห่งหนึ่ง
นายผู้เฒ่าฉินนั่งอยู่ใต้ชายคา ลูกชายคนโตและหลานชายคนโตยืนอยู่ทางซ้ายมือและขวามือของเขา
ลูกสะใภ้คนโตแม่นางหลัว ชงชาให้กับนายผู้เฒ่าฉินด้วยตัวเอง แล้วพูดอย่างอ่อนโยนกับเขาว่า :“ท่านพ่อ อีกสักพักเมื่อเจอท่านอ๋องหราว อย่าลืมทำความเคารพท่านอ๋องหราวด้วยละ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...