ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 876

สรุปบท บทที่ 876 สถานการณ์ของแคว้นหรงเริ่มตึงเครียด: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น

สรุปเนื้อหา บทที่ 876 สถานการณ์ของแคว้นหรงเริ่มตึงเครียด – ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา

บท บทที่ 876 สถานการณ์ของแคว้นหรงเริ่มตึงเครียด ของ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

“อาการป่วยของเหอไท้เฟย ดูเหมือนจะรักษายาก” ไป๋ชิงหลิงมองดู แล้วพูด

ท่านอ๋องหราวหันกลับไปมองแม่ของเขา เมื่อเห็นว่าเหอไท้เฟยผอมลงเรื่อยๆ เขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว :“ขอร้องล่ะฮูหยินเว่ย ช่วยชีวิตแม่ของข้าด้วย วันหลังหากตระกูลเว่ยหรือราชวงศ์ต้าโจวต้องการความช่วยเหลือจากข้า ข้าจะช่วยอย่างสุดกำลังแน่นอน”

เขารู้ว่า พี่ชายของฮูหยินเว่ยแห่งราชวงศ์ต้าโจว เป็นคนที่ร่ำรวยมาก

ไม่มีทางที่จะขัดสนเรื่องเงินทอง แต่ถ้าท่านอ๋องแห่งแคว้นหรงติดค้างหนี้บุญคุณ ก็สามารถใช้เรื่องนี้มาต่อรองกับเรื่องอื่นๆได้

ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า อนาคตจะเกิดอะไรขึ้น

อย่างไรก็ตาม ท่านอ๋องหราวก็ยินยอมพร้อมใจในเรื่องนี้

สถานการณ์ของแคว้นหรงตอนนี้เป็นยังไง อีกสี่แคว้นก็เห็นได้อย่างชัดเจน

จักรพรรดิองค์ใหม่เพิ่งขึ้นครองราชย์ วังหลังไม่มีนางสนม เหล่าเสนาบดีต่างก็ต้องการกดดันและปรามจักรพรรดิองค์ใหม่

ข้างในมีสุนัขจิ้งจอกข้างนอกมีเสือตัวใหญ่ซึ่งก็คือท่านอ๋องหราว

ฮูหยินเว่ยไม่อยากเข้ามายุ่งกับเรื่องแบบนี้ แต่ว่าตอนนี้นางต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่น

สาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลังไป๋ชิงหลิงแอบเหลือบมองท่านอ๋องหราว เมื่อคิดได้ว่าคนที่ช่วยชีวิตคนไม่ใช่นาง บุญคุณที่ท่านอ๋องหราวติดค้างก็ไม่ได้ติดค้างนาง ฉินม่านเกอก็รู้สึก สบายใจขึ้นเล็กน้อย

หากท่านอ๋องหราวรู้ว่าหมอที่มีชื่อเสียงที่เขาเชิญมานั้น แท้จริงแล้วก็คือฮองเฮาของราชวงศ์ตัวเอง เขาคงจะต้องฝันร้ายทั้งปี

“ข้าไม่ต้องการให้จวนท่านอ๋องหราวตอบแทนบุญคุณ ข้าหวังแค่อาการของไท้เฟยจะดีขึ้น และต้องมอบสุ่ยหันเซียงแก่ข้า ทุกๆเดือน” ไป๋ชิงหลิงกล่าว

หวู่ซือหลิงก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า :“ฮูหยินเว่ย ระหว่างทางที่กลับจวนอ๋อง ข้าได้ให้คนไปเด็ดสุ่ยหันเซียง หลังจากเด็ดมาแล้ว จะให้หมอประจำจวนเก็บรักษาอย่างดี และส่งไปที่ต้าโจวทันที ท่านคิดว่า.......สามารถอยู่รักษาท่านแม่ของข้า ที่จวนอ๋องอย่างสบายใจได้ไหม”

ไป๋ชิงหลิงจงใจหันกลับไปเหลือบมองหวู่ซือหลิง ด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน :“พระชายาท่านอ๋องหราวช่างรอบคอบยิ่งนัก”

หลังจากพูดจบ ไป๋ชิงหลิงก็พูดกับฉินม่านเกอที่อยู่ข้างๆว่า :“เคลียร์สถานที่”

“เจ้าคะ ฮูหยิน!” ฉินม่านเกอหันกลับมา แล้วพูดว่า :“ขณะที่ฮูหยินข้าทำการรักษา ไม่ชอบให้คนอื่นมาจ้องมอง จะเป็นการรบกวนการรักษาของฮูหยิน”

“นี่...........” หวู่ซือหลิงไม่คิดว่าฮูหยินเว่ยจะมีกฎแปลกๆเช่นนี้ด้วย

นางไม่กล้าตัดสินใจเอง จึงหันไปมองท่านอ๋องหราว

ท่านอ๋องหราวก็ขมวดคิ้ว ในใจเขาไม่ต้องการให้ไท้เฟยอยู่คนเดียวตามลำพัง

ไป๋ชิงหลิงเหลือบมองหวู่ซือหลิง แล้วพูดว่า :“พระชายาท่านอ๋องหราวสามารถอยู่ได้ คนอื่นรวมถึงท่านอ๋องหราว ถอยออกไปก่อน”

คราวนี้ ท่านอ๋องหราวไม่ลังเลเลย :“ก็ได้”

หวู่ซือหลิงพูดว่า :“ท่านอ๋อง ไม่ต้องกังวล ข้าจะดูแลท่านแม่เอง”

ท่านอ๋องหราวตอบรับ และสั่งให้ทุกคนที่คอยรับใช้อยู่ในห้องออกไป

ทันทีที่ท่านอ๋องหราวเดินออกจากลานบ้าน พ่อบ้านก็วิ่งเข้ามาจากลานบ้าน :“ท่านอ๋อง พระชายา ชายชราคนนั้นบอกว่าต้องการพบท่าน! ”

ท่านอ๋องหราวหรี่ตาลง

เมื่อพ่อบ้านเห็นสายตานี้ เขาก็ตื่นตระหนก และรีบหุบปาก ไม่กล้าพูดอะไรอีก

จากนั้นท่านอ๋องหราวก็เดินออกจากลานบ้านอย่างรวดเร็ว

แต่ไป๋ชิงหลิงที่อยู่ในห้อง กลับได้ยินคำพูดของพ่อบ้านชัดเจนทุกถ้อยคำ

ชายชรา?

นายผู้เฒ่าฉิน?

ณ ลานบ้านอีกแห่งหนึ่ง

นายผู้เฒ่าฉินนั่งอยู่ใต้ชายคา ลูกชายคนโตและหลานชายคนโตยืนอยู่ทางซ้ายมือและขวามือของเขา

ลูกสะใภ้คนโตแม่นางหลัว ชงชาให้กับนายผู้เฒ่าฉินด้วยตัวเอง แล้วพูดอย่างอ่อนโยนกับเขาว่า :“ท่านพ่อ อีกสักพักเมื่อเจอท่านอ๋องหราว อย่าลืมทำความเคารพท่านอ๋องหราวด้วยละ”

ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของบ้านเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ธุรกิจอยู่บนพื้นฐานของธุรกิจ ทุกคนต่างหวังว่าจะมีสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง

จากสถานการณ์ปัจจุบันของท่านอ๋องหราว เขาไม่คิดจะให้ทุกคนอยู่อย่างสงบสุข

ฉินหย่วนอี้สีหน้าบูดบึ้งไม่พูดอะไร นายท่านฉินพยายามคลี่คลายสถานการณ์โดยพูดว่า :“ท่านอ๋องหราว ท่านอย่าไปฟังคำพูดของพ่อข้า เขาไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น โหงวเฮ้งท่านอ๋องเป็นสิริมงคล ซึ่งแสดงถึงความมั่งมี”

“เห๊อะ!” นายผู้เฒ่าฉินเหลือบมองลูกชายคนโตอย่างเย็นชา แล้วโต้ตอบว่า :“โหงวเฮ้งเป็นสิริมงคลเพราะเขาเกิดในตระกูลราชวงศ์ ความมั่งคั่งนั้น เกี่ยวข้องกับสายเลือดของเขา จักรพรรดิองค์ก่อนล่วงลับไปแล้ว โชคในช่วงแรกของเขาหมดแล้ว เจ้าไม่เห็นเมฆดำบนหน้าผากของเขาเหรอ ถ้าเจ้าไม่รู้เรื่องโหงวเฮ้งก็หุบปากซะ จะได้ไม่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด !”

“ท่านพ่อ ท่าน.........”

“พอแล้ว!” ฉินหย่วนอี้ตะคอกอย่างเหลือทน

ท่านอ๋องหราวยืนอยู่ข้างๆ มองดูพ่อลูกทะเลาะกันด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก

จนกระทั่งฉินหย่วนอี้เอ่ยปาก ท่านอ๋องหราวก็ถามว่า :“ดูเหมือนการมาของข้อวันนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม นายผู้เฒ่าฉินยังตัดสินใจไม่ได้”

หลังจากพูดจบ ท่านอ๋องหราวก็หันกลับไป และเตรียมออกจากลานบ้าน

เขาเป็นคนที่อารมณ์เย็นชา แม้จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น เขาก็ไม่เคยแสดงสีหน้าฝืนยิ้มให้ใคร

และในขณะที่เขาหันกลับไป นายผู้เฒ่าฉินก็เรียกเขาไว้ :“ท่านอ๋องหราวโปรดรอก่อน”

ท่านอ๋องหราวหยุดฝีเท้า แต่ไม่ได้หันกลับมา

นายผู้เฒ่าฉินจึงลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ ต้องการทรัพย์สินของตระกูลฉิน :“ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้ แต่ข้ามีเงื่อนไขข้อหนึ่ง”

ท่านอ๋องหราวหันกลับมา :“เงื่อนไขอะไร?”

“ท่านฆ่าข้าก่อน!” นายผู้เฒ่าฉินกำหมัดแน่น และพูดประโยคนั้นออกมาทีละคำ

แววตาของท่านอ๋องหราวเย็นชาลงเล็กน้อย :“ฆ่าเจ้ามันน่าเบื่อเกินไป ข้าจะล่อหลานสาวสุดที่รักของเจ้ามาที่เมืองซูโจว บางที.......ถึงตอนนั้นเจ้าอาจจะเปลี่ยนใจ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น