ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น นิยาย บท 875

ยังไม่ข้ามวัน หวู่ซือหลิงก็ได้รับข่าว และรีบไปรายงานท่านอ๋องหราวที่ห้องหนังสือ :“ท่านอ๋อง ได้ข่าวแล้ว ฮูหยินเว่ยออกจากต้าโจวแล้วจริงๆ ได้ข่าวว่านางเดินทางพันไมล์มาแคว้นหรงเพื่อตามหาสมุนไพรยาบางชนิดให้กับแม่สามี นางแอบออกมาเพียงลำพัง แม่ทัพน้อยเว่ยวิตกกังวลมากถ้าเราสามารถใช้โอกาสนี้ หลอกล่อให้ฮูหยินเว่ยเข้ามาที่จวนของเรา แล้วค่อยแจ้งแม่ทัพน้อยเว่ยทราบ เรายังสามารถดึงแม่ทัพน้อยเว่ยมาเป็นคนของเราได้อีกด้วย”

ดวงตาของท่านอ๋องหราวเป็นประกาย เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว:“นี่ช่างเป็น ความคิดที่เยี่ยมมากจริงๆ”

“สถานะของฮูหยินเว่ยที่อยู่ต้าโจวนั้นไม่ได้ต้อยต่ำเลย นางเป็นน้องสาวของฮองเฮาแห่งราชวงศ์ต้าโจว พวกเราต้องต้อนรับและปฏิบัติกับนางอย่างสุภาพ ให้นางรับรู้ถึงการต้อนรับขับสู้ของข้าและท่านอ๋องหราว”

“พระชายาวางใจ ข้ารู้ว่าต้องทำอย่างไร” ท่านอ๋องหราวเดินเข้ามาใกล้หวู่ซือหลิง และดึงนางเข้าสู่อ้อมแขน :“หลายวันที่ผ่านนี้ ลำบากเจ้าแล้ว”

หวู่ซือหลิงยิ้มมุมปากเล็กน้อย นางก็กอดท่านอ๋องหราวไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว

นางสามารถรับรู้ได้ว่า ทุกวันนี้ท่านอ๋องหราว เริ่มใกล้ชิดกับนางมากขึ้น

เมื่อก่อนตอนอยู่เมืองหลวง ถ้าเขาไม่ไปค้างที่ห้องนางสนมเอก ก็จะไปนอนที่ห้องหนังสือ

แต่เขากลับไม่ยอมสื่อสารหรือสัมผัสนาง แม้แต่กับลูกเขาก็มองเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น เพราะว่าลูกนั้น..........

หวู่ซือหลิงหลับตาลง และสลัดสิ่งที่ไม่สบายใจเหล่านั้นออกไป เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง แววตาของนางก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความมั่นใจ :“ข้าจะไปรับฮูหยินเว่ยด้วยตัวเอง ท่านรออยู่ที่จวนอ๋อง”

“ถ้างั้นก็ฝากพระชายาด้วย ข้าจะไปเจ้าอยู่ที่ห้องเสด็จแม่”

“เพคะ!”

ณ โรงเตี๊ยมเทียนอี

ผู้หญิงสวมชุดม่วงถือกระเป๋าสัมภาระ พร้อมกับสาวใช้เปิดประตูโรงเตี๊ยม

แต่ก่อนที่นายและคนรับใช้จะเดินออกจากประตูห้อง พวกเขาก็เห็นองครักษ์และสาวใช้รับทางการ กลุ่มหนึ่งเดินอยู่ที่ระเบียงทางเดิน

นายและคนรับใช้มองหน้ากัน ทั้งสองต่างหยุดฝีเท้า สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่ผู้หญิงสวมชุดสวยงาม ที่กำลังเดินมาจากระเบียงทางเดิน

ผู้หญิงคนนั้นสวมชุดกระโปรงยาวสีชมพูอ่อน ปักดอกบัวตั๋นดอกใหญ่ที่ชายกระโปรง ซึ่งทำให้ดูสูงส่งและสง่างาม

นางเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม และเรียกผู้หญิงชุดม่วงอย่างอ่อนโยนว่า :“ได้ยินชื่อฮูหยินเว่ยมานานแล้ว เมื่อพบเจอวันนี้ ดั่งคำที่เคยกล่าวไว้ว่า การได้พบเจอดีกว่าการได้ยินชื่อเสียงมาเนิ่นนาน”

ผู้หญิงชุดม่วงขมวดคิ้วเล็กน้อย ถอยหลังหนึ่งก้าว และถามด้วยสีหน้าที่หวาดระแวง :“เจ้าเป็นใคร?”

หวู่ซือหลิงแนะนำตัวเอง :“อ๋อ เมืองซูโจวป็นเขตปกครองของท่านอ๋องหราว ข้าก็คือพระชายาท่านอ๋องหราว”

คนรับใช้ที่อยู่ข้างหลังผู้หญิงชุดม่วง ก้าวไปข้างหน้า และยืนขวางอยู่หน้านายตัวเอง และพูดอย่างจริงจังว่า :“ไม่ทราบว่าพระชายาท่านอ๋องหราวมาขวางอยู่หน้านายของข้าแต่เช้า มีธุระอะไรหรือ นายของข้าไม่ได้นำอาวุธอะไรเข้ามาในเมือง อีกอย่างนายของข้าเดินทางเข้าแคว้นหรง ก็ผ่านกระบวนการทางกฎหมายอย่างถูกต้อง ไม่ทราบว่านายของข้าฝ่าฝืนกฎข้อใด?”

“พวกท่านไม่ต้องกังวล ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อจับพวกท่าน ข้ามาเชิญพวกท่านไปที่จวนอ๋อง” หวู่ซือหลิงพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุด

ผู้หญิงชุดม่วงปฏิเสธทันที :“ไม่เป็นไร ข้ามาคราวนี้ไม่ต้องการรบกวนใคร พระชายาท่านอ๋องหราวก็ไม่ต้องเกรงใจเช่นนี้ ปฏิบัติกับข้าเหมือนพ่อค้าที่มาจากต้าโจวก็พอ หลังจากข้าทำธุระเสร็จก็จะจากไป”

หลังจากพูดจบ ผู้หญิงชุดม่วงก็พาสาวใช้ที่อยู่ข้างๆ เดินผ่านหวู่ซือหลิงและจากไป

หวู่ซือหลิงก็ไม่รีบร้อน ขณะที่ผู้หญิงชุดม่วงและสาวใช้กำลังจะลงไปชั้นล่าง หวู่ซือหลิงก็หันกลับมา และพูดเบาๆว่า :“ฮูหยินเว่ยกำลังตามหาเทียนหันเซียงใช่หรือไม่?”

ผู้หญิงชุดม่วงก็หยุดฝีเท้าทันที

ก่อนที่นางจะหันกลับมา หวู่ซือหลิงก็เดินเข้าไปหานาง :“ขอบอกตามตรง เดิมทีข้าก็ไม่อยากรบกวนฮูหยินเว่ย แต่ข้ารู้สึกว่า พวกเราประสบกับสถานการณ์แบบเดียวกัน!”

เมื่อผู้หญิงชุดม่วงได้ยินสิ่งนี้ ก็หันไปมองนางโดยไม่รู้ตัว

ใบหน้าของหวู่ซือหลิงแสดงความกังวล :“แม่สามีของข้าก็ล้มป่วยเช่นกัน หมอประจำจวนลองสั่งใบสั่งยามาหลายครั้งแล้วแต่ก็ไม่ได้ผล หมอที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองหลวง ท่านอ๋องหราวจึงต้องฝากความหวังนี้ไว้กับหมอหัตถ์มหาเสน่ห์ตะวันตก”

“ต่อมาก็ได้รู้ว่า หมอหัตถ์เสน่ห์ตะวันตกก็คือฮูหยินเว่ยนั่นเอง บังเอิญที่แม่สามีของฮูหยินเว่ยก็ต้องการยา จึงต้องมาตามหาถึงแคว้นหรง และมันบังเอิญว่าจวนอ๋องหราวของข้ามียาที่ฮูหยินเว่ยกำลังตามหา”

“ข้าต้องการช่วยแม่สามี จึงรีบมาหายังโรงเตี๊ยมที่ฮูหยินเว่ยพักอยู่ ขอเพียงฮูหยินเว่ยสามารถช่วยชีวิตของแม่สามีข้า เพื่อเติมเต็มใจที่มีความกตัญญูของท่านอ๋องหราว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น