อ่านสรุป บทที่ 882 กลับจวนอ๋องหราว จาก ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น โดย พระจันทร์ขี้เมา
บทที่ บทที่ 882 กลับจวนอ๋องหราว คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายการเกิดใหม่ ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย พระจันทร์ขี้เมา อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
พอไป๋ชิงหลิงเดินไปได้สักพักก็ได้ยินเสียงรถม้าดังมาจากด้านหลัง
ไม่นาน รถม้าคันนั้นก็ได้จอดอยู่ข้างๆ เธอ
หวู่ซือหลิงก้าวลงออกมาจากรถม้า
ฉางเล่อเหยียนและอีผิงถิงต่างก็มองไปที่ไป๋ชิงหลิงด้วยความที่แปลกใจ
จริงๆ ก่อนหน้านั้นไป๋ชิงหลิงก็คาดเดาไว้แล้ว แต่ทั้งสองก็คิดไม่ถึงว่าสถานการณ์จะพลิกผันเร็วขนาดนี้
ก่อนที่หวู่ซือหลิงจะไป เธอเหลือมองเห็นเชือกบนมือของไป๋ชิงหลิง จากนั้นก็พูดว่า "แก้มัดเชือกบนมือฮองเฮาออก"
องครักษ์ยามเดินออกมาข้างนอกเพื่อแก้มัดเชือกให้ไป๋ชิงหลิง แต่ว่าไป๋ชิงหลิงเดินถอยหลังออกมา มองไปที่ฉางเล่อเหยียนและอีผิงถิงจากนั้นก็พูดว่า "แก้เชือกให้พวกเธอทั้งสองด้วย"
หวู่ซือหลิงพูดด้วยใบหน้าเย็นชา "แก้มัดสองคนนั้นซะ"
องครักษ์อีกสองคนเดินเข้ามาและตัดเชือกที่มือของฉางเล่อเหยียนและอีผิงถิง
เชือกบนมือของไป๋ชิงหลิงก็หลุดออกเหมือนกัน จากนั้นเธอก็ขมวดคิ้วแล้วถาม "ไม่คิดเลยว่าพระชายาจะตามข้าทัน หรือว่าอยากจะวางแผนต่อต้านอะไรข้าอีก"
“พูดคนอื่นไม่มีความละอาย ฮองเฮากำลังใช้มาตรการเพื่อไม่ให้ตัวเองแพ้คนเหล้านั้น” ตอนนี้ในใจของหวู่ซือหลิงร้อนเป็นไฟ และอยากจะฆ่าไป๋ชิงหลิงทั้งเป็น
เป็นเพราะเธอ เกมของเธอจึงพังไม่เป็นท่า
แต่เธอก็อดทนและพูดอย่างเย็นชาว่า "เอายาแก้พิษมาให้ข้า!"
ไป๋ชิงหลิงเม้มริมฝีปากของเธอ จากนั้นก็ยิ้มเยาะเย้ย "ยาแก้พิษอะไร"
สายตาของหวู่ซือหลิงเต็มไปด้วยความโกรธ จากนั้นก็กัดฟันแล้วพูดว่า "เจ้าวางยาเหอไท้เฟย"
"อืม แค่นั้นเหรอ!" ไป๋ชิงหลิงจับจมูกตัวเอง "ตอนแรก....วันนี้ที่ข้าออกไปซื้อยาก็เพราะว่าตั้งใจไปซื้อให้เหอไท้เฟยนั่นแหละ แค่เธอกินยาตรงตามเวลาเธอก็จะไม่มีไข้อะไร แต่ดูเจ้าสิ เดินบนทางเสี่ยงแบบนี้ อีกอย่างหมอปีศาจฉายานี้ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ ก่อนที่ข้าจะเข้าไปที่จวนอ๋องหราว ข้าก็คิดทางหนีได้หลายทางแล้ว”
"เจ้า......"
"ยาแก้พิษอยู่ในมือข้า มันสามารถทำให้อาการของเหอไท้เฟยดีขึ้น แต่ว่า..." เธอมองไปที่หวู่ซือหลิง "เจ้าคิดว่า ข้าจะให้เจ้าง่ายๆ แบบนั้นเหรอ?"
“ข้าจะปล่อยนายผู้เฒ่าฉิน” หวู่ซือหลิงพูด
“อย่างแรกคือปล่อยผู้เฒ่าฉินไป อย่างที่สองคือข้าต้องการครอบครัวของฉินหย่วนอี้ แล้วก็ข้าได้ยินมาว่าฉินซานหลิงก็อยู่ที่จวนอ๋องหราวด้วย อย่าให้ขาดเด็ดขาด”
"ได้ ข้าปล่อย" หวู่ซือหลิงกัดฟันพูด "ถ้าอย่างงั้นตอนนี้เจ้าให้ยาแก้พิษได้หรือยัง?"
“ข้าจะไม่ให้ยาแก้พิษเจ้าตอนนี้ แต่ว่าข้าสามารถกลับจวนอ๋องหราวกับเจ้าได้ และจะรอคนมารับข้า”
หลังจากที่ไป๋ชิงหลิงพูดจบ เธอก็ก้าวขึ้นรถม้าไป จากนั้นเปิดม่านแล้วพูดกับอีผิงถิงว่า "ผิงถิง รีบพยุงคุณหนูฉางขึ้นรถ"
“เฮ้ย!” อีผิงถิงมองหวู่ซือหลิงอย่างเย็นชา จากนั้นก็ช่วยฉางเล่อเหยียนขึ้นรถ
พอไป๋ชิงหลิงถึงจวนอ๋องหราว อ๋องหรงก็ได้นำเสิ่นรูเลียนมาเฝ้าจวนอ๋องหราว
ไป๋ชิงหลิงมองไปที่ผู้ชายที่ยืนอยู่ใต้ชายคา
เขาสวมชุดมังกรสีดำและมงกุฎสีเงินบนหัว เขามีรูปร่างที่สูงพร้อมกับใบหน้าทรงเพชรของเขา
เธอลดความเร็วและเดินไปหาเขา
พอเขาเห็นว่าเธอเดินเข้ามา เขาก็เดินไปหาเธอด้วย
ขณะที่ทั้งสองเดินเข้าหาใกล้กัน หรงเยี่ยก็ได้สวมเสื้อคลุมฟีนิกซ์ให้กับเธอ
ไป๋ชิงหลิงตกใจอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็มองลงเสื้อคลุมสีแดงบนตัวเธอ ในใจเกิดความสับสน มันเหมือนถูกละลายไปกับเสื้อคลุมตัวนี้
เธอถอยหลังและพูดว่า “หม่อมฉัน...”
ฉินซานหลิงพูดว่า "ทำไมเจ้าถึงโกหกข้า"
หวู่ซือหลิงตกใจและไม่ได้ตอบกลับเธอ แต่เธอรับรู้ได้ว่าฉินซานหลิงมีคำถามมากมายที่อยากถาม
“เจ้าบอกว่าเจ้าไม่มีเพื่อนที่เมืองซูโจว เจ้าก็เลยมาหาข้า แถมยังพูดออกมาดูจริงจังมาก ข้าก็เลยเชื่อเจ้า เจ้าคงนึกถึงเรื่องวัยเด็กที่ข้าเป็นพวกของเจ้า ข้าก็ไม่รังเกียจเจ้าด้วย แต่พอเจ้ามาถึงเมืองจิงโจววันแรก บ้านของฉินหย่วนอี้ก็เกิดเรื่องแล้ว และตอนนี้ครอบครัวพวกเขาก็อยู่ที่นี่ด้วย”
ฉินซานหลิงถามพร้อมกับสายตาที่แดงก่ำ
หวู่ซือหลิงสีหน้าไม่ดี ไม่สามารถตอบเธอได้
“ทำไมไม่พูดล่ะ ก่อนหน้านั้นก็พูดเก่งไม่ใช่เหรอ?” ฉินซานหลิงเดินไปหาเธอช้าๆ พร้อมกับน้ำตา “เจ้าเป็นคนพาคุณตาของข้ามาที่นี่ใช่ไหม พวกเจ้าต้องการจะทำอะไรกันแน่?”
หวู่ซือหลิงเห็นเธอเดินเข้ามา เธอเดินถอยหลังไม่กี่ก้าว
ไป๋ชิงหลิงพูดออกมาด้วยสายตาที่เย็นชา "พวกเขาต้องการแย่งบัลลังก์!"
ร่างกายของอ๋องหราวแข็งไปหมด
เขาไม่คิดเลยว่าไป๋ชิงหลิงจะพูดออกมาแบบนี้
ทันใดนั้นอ๋องหราวก็คุกเข่าลงแล้วพูดว่า "ฝ่าบาท สิ่งที่ฮองเฮาพูดออกมามันเริ่มจะหนักไปแล้ว"
ไป๋ชิงหลิงโยนดอกไม้ในมือของเธอทิ้ง "เรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับว่าจะเกิดขึ้นหรือไหม แต่พอมองจากวันนี้แล้ว เรื่องนี้ก็ไม่ได้หนักขนาดนั้น แต่เรื่องที่ข้ากังวลที่สุดคือเรื่องไฟไหม้”
พอพูดถึงจุดนี้ เธอก็หันกลับมาและเผชิญหน้ากับหวู่ซือหลิง น้ำเสียงของเธอใจเย็นลง "อ๋องหราวของเจ้ากล้ามาหนัก กล้าจุดไฟเผาแถมล้อมสังหารข้าด้วย"
เสียงของเธอเต็มไปด้วยความขู่
พอหวู่ซือหลิงมองตาเธอ มันทำให้รู้สึกความตายกำลังจะเกิดขึ้น
ขาของเธออ่อนแรงและคุกเข่าลงบนพื้น มือของเธอที่ซ่อนอยู่ในผ้าก็เริ่มกำแน่นขึ้น จากนั้นก็พูดด้วยเสียงสั่นว่า "เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับจวนอ๋องหราว!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ชิงหลิง บุปผาพิษลิขิตแค้น
จากขทที่ 907ข้ามมาบทที่ 987 เลยเหรอคะหายไป 80บท...แอดขาตามกลับมาให้หน่อยค่าาาาา😅😢😘...
จักรพรรดิตายแล้วค่อยมีกำลังใจอ่านหน่อยอย่างน้อยๆก็ไม่ต้องหัวเสียกับตาแก่งี่เง่าคนนี้อีก......
เรื่องนี้ทำพี่น้ำตาท่วมบ้าน...สามีบอกว่าถ้ามันโศกมันเศร้านักก็เลิกอ่านเหอะ...ไม่ได้สิตามมาขนาดนี้แล้วเอาให้สุดแล้วหยุดที่กระดาษทิชชู่...
อยากรู้ว่าพระเอกและนางเอกจะรู้ความจริงตอนไหนว่าเป็นครบครัวเดียวกันและจิ่นหลินคือลูกอีกคน ช่วยสปอยหน่อยค่ะ...
นางเอกเรื่องนี้เก่ง..แต่อ่อนแอและงี่เง่า..หลายครั้งที่อ่านไปถอนหายใจไป...
อัพต่อนะคะ..กำลังสนุกเลยค่ะ...
บทที่614-623เนื้อหาไม่ครบมีแค่5-6บรรทัดอ่านไม่รู้เรื่องเดาทางไมาถูกเลย...
บทที่594-602สั้นมากค่ะ...
ตอน 460 โอ้โหวว หนักหน่วงมาก ตั้งแต่แมวตาย หลังจากนั้นคนที่นางเอกรักตายเป็นใบไม้ร่วงเลย แต่คนล่าสุดเนี่ย ได้ไงวะ รับไม่ได้อย่างแรง😭 ชีวิตนางเอกบัดซบมาก คนธรรมดาที่ไหนจะทนได้วะเนี่ย เป็นคนปกติป่านนี้เป็นบ้าตายไปแล้ว ว่าแต่อีจักรพรรดิจะเลิกประสาทแดกได้ตอนไหน🤬🤬...
อยากผ่าสมองอ๋องเฉินออกมาดูว่าข้างในมันมีมันสมองอยู่จริงๆรึเปล่า...อะไรจะมึนและง่าวได้ขนาดนี้...