บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1025

บทที่ 1025 ม่านกระบี่เบญจธาตุ

บทที่ 1025 ม่านกระบี่เบญจธาตุ

ตึ้ง! ตึ้ง!

ฟ้าดินสั่นสะเทือนด้วยอำนาจทำลายล้างประหนึ่งพายุคำราม มันน่าสะพรึงกลัวเสียจนยากอธิบาย

ท่ามกลางคลื่นพลังอันน่าเกรงขามนี้ ทุกสายตาจับจ้องไปยังรอยร้าวจำนวนมากที่เกิดขึ้นบนปราณกระบี่ ซึ่งเฉินซีโจมตีออกไปก่อนหน้านี้ ที่มันค่อย ๆ ขยายตัวขึ้นและจวนจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ

เขาจะตายหรือไม่? จิตวิญญาณของเหวยเจิ้งและคนอื่น ๆ ฟื้นคืนชีพขึ้นอีกครั้ง สีหน้าของพวกเขาเปี่ยมไปด้วยความพึงพอใจและสะพรึงกลัวในคราเดียวกัน

ผิดกับผู้ข้ามผ่านคนอื่น ๆ รวมไปถึงมู่หลิงหลงที่แสดงสีหน้าเคร่งขรึมเนื่องจากทนดูต่อไปไม่ได้

“ไอ้สารเลวเอ๊ย จำสิ่งนี้ไว้เป็นบทเรียนเสีย ชาติหน้าฉันใดก็อย่าได้โง่งมเช่นนี้อีก!” สยงหมิงคำรามลั่น ใบหน้าเผยความเหี้ยมเกรียมไร้ปรานี ทันใดนั้น ปราณในร่างเขาก็โคจรไปทั่ว ตั้งใจใช้การโจมตีคราถัดไปเพื่อพิฆาตเฉินซี!

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางภาวะวิกฤตนี้ เฉินซียังคงมีท่าทางที่สงบนิ่งไม่สั่นคลอน เจตจำนงแห่งการต่อสู้ปะทุผ่านดวงตาที่เด่นชัดบนใบหน้าที่สุขุมเยือกเย็นและดุดัน

ตูม!

ตอนนั้นเอง ปราณเซียนพิสุทธิ์ในร่างกายของชายหนุ่มถูกปลดปล่อยออกมาอย่างถึงขีดสุด พลังอันกล้าแกร่งสะท้านสะเทือนไปทั้งเรือนกายประหนึ่งกระแสน้ำคลั่ง เมื่อยันต์ศัสตราในมือข้างนั้นฟาดฟันลงยังเป้าหมาย ร่างทั้งร่างของเฉินซีก็พลันเปล่งประกายด้วยรัศมีเจิดจ้าอันไร้ขอบเขต

การโจมตีในคราวนี้ทั้งแข็งแกร่งและหนักหน่วง ยิ่งใหญ่ไม่ต่างจากภูผาตั้งตระหง่านและยึดตรึงระหว่างฟ้าดินเอาไว้ มันเปี่ยมไปด้วยอำนาจกฎแห่งปฐพี ซึ่งทรงอิทธิพลเหนือสรรพสิ่งใด ๆ ในแผ่นพิภพ

ธาตุดินถูกแทนด้วยสัญลักษณ์คุน สิ่งแสดงถึงความเกี่ยวข้องกับพื้นดิน ดินเป็นสิ่งที่แข็งแกร่งมากพอจะรองรับน้ำหนักของทุกสรรพสิ่ง ทั้งยังเป็นต้นกำเนิดแห่งชีวิตทั้งปวง เป็นสิ่งที่แน่นหนักและไร้ขอบเขตยิ่งกว่าสิ่งใด ๆ

ในแง่ของความแข็งแกร่ง การโจมตีของกระบี่เล่มนี้เทียบได้กับการโจมตีด้วยกระบี่ทั้งสี่ครั้งที่เฉินซีเคยใช้มาก่อน เมื่อกระบี่เล่มนี้ปลดปล่อยพลังออกมา มันก็ส่งคลื่นเสียงอันแปลกหูให้กึกก้องไปทั้งอากาศ

ที่กลางอากาศ ปราณกระบี่ทั้งสามที่แต่เดิมเกิดรอยร้าวจนแทบจะแตกเป็นสี่ยง ๆ พลันผสานตัวกันอีกครั้ง แม้แต่ปราณกระบี่เส้นแรกที่เฉินซีฟาดฟันออกไป ที่เป็นปราณกระบี่ที่อัดแน่นไปด้วยกฎแห่งพฤกษาอันซึมลึกอยู่ภายในเถาวัลย์เขียวขจีจำนวนมากมาย ก็เริ่มฟื้นคืนสู่สภาพเดิมเช่นเดียวกัน…

เพียงพริบตาเดียว พลังที่เจิดจ้าและรุนแรงของกฎแห่งอัคคี ทอง วารี พฤกษา และปฐพีหลอมรวมเข้าไปภายในปราณกระบี่ทั้งหลาย ก่อนจะพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า เปลี่ยนสภาพตัวเองเป็นธาตุทั้งห้าสอดประสานและโคจรพลังเคียงกันและกันเป็นวงกว้าง

ปราณกระบี่ทั้งห้าเส้นลอยคว้างหมุนวนอยู่สูงขึ้นไปเหนือท้องนภา!

ปรากฏการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวนี้เพียงพอที่จะบดขยี้ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนสวรรค์ให้แดดิ้น ทั้งยังสามารถทำให้ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับต้องหวั่นผวา!

ผู้คนที่ยืนอยู่โดยรอบต่างพากันตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นฉากนี้ พวกเขาไม่อาจควบคุมอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจได้ ดวงตามากมายเผยประกายแห่งความตกตะลึงเด่นชัด ราวกับว่าภาพตรงหน้าของพวกเขาคือปาฏิหาริย์อันยากจะเชื่อ

เหวยเจิ้งและคนอื่น ๆ ชะงักงัน พวกเขาเฝ้าถามตัวเองไม่หยุดว่าหากการโจมตีนี้เพ่งเล็งมาที่พวกตน จะมีผลลัพธ์ใดนอกเหนือจากความตายรออยู่บ้าง?

“นี่มัน…” สยงหมิงสั่นสะท้าน ความมั่นใจและความหยิ่งทระนงซึ่งมีมาแต่เดิมมลายสิ้น เป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสรู้สึกถึงภัยคุกคามที่หมายจะเอาชีวิต

“ตายซะ!” ทันใดนั้น สายตาของเฉินซีที่จับจ้องไปยังอีกฝ่ายได้เผยประกายอันเยือกเย็นประหนึ่งใบมีด คำพูดเพียงสั้น ๆ ของเขาเป็นดังประกาศิตจากสวรรค์ ช่วงเวลานั้นเอง ปราณกระบี่ทั้งห้าพลันไหลเวียนและเปลี่ยนตัวเองเป็นลำแสงอันงดงาม ที่โอบล้อมสยงหมิงไว้อย่างสมบูรณ์พร้อมกับปลดปล่อยพลังโจมตีในคราวเดียว!

ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง!

คลื่นเสียงกัมปนาทดังกึกก้องประหนึ่งภูเขาไฟระเบิด หากจะเปรียบว่าเหมือนดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ได้ตกลงมาจากฟากฟ้าก็คงไม่ผิดนัก ปราณกระบี่ถูกถักทอขึ้นจากกฎแห่งเบญจธาตุสามารถทำลายล้างเถาวัลย์ทั้งหลายให้กลายเป็นเศษธุลีได้อย่างง่ายดาย เศษซากเถาวัลย์ที่กระจัดกระจายเหล่านั้นฟุ้งไปทั่วท้องฟ้า

พวกมันเป็นเหมือนกับคมกระบี่ทั้งห้าที่กรีดแทงสวรรค์ ไร้ซึ่งสิ่งใดในโลกจะต้านทาน!

ระฆังไม้ทวิวิญญาณครามถูกกระแทกจนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง พื้นผิวของมันฉาบไปด้วยรอยข่วนบากจำนวนมหาศาล ส่งผลให้รัศมีพลังที่น่าสะพรึงกลัวพลันจางลงไปแทบจะในทันที

สีหน้าของสยงหมิงเปรอะเปื้อนไปด้วยความหวาดกลัวและตกตะลึงที่ยากจะลบเลือน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าแม้แต่การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของตนก็ไม่อาจต้านทานปราณกระบี่ของเฉินซีได้

“กฎแห่งเบญจธาตุสร้างรูปแบบการหมุนเวียน! บัดซบเอ้ย! การบ่มเพาะของเจ้าเพิ่งจะอยู่ในขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นต้น แล้วจะไปมีพลังที่มหาศาลเช่นนี้ได้อย่างไร? ไม่… ไม่มีทาง… ไม่มีทางเป็นไปได้แน่!” หลังจากที่สยงหมิงเห็นสถานการณ์เบื้องหน้า เขาก็คำรามด้วยความรู้สึกที่ยากจะเชื่อ เพราะแม้แต่ตัวเขาที่เป็นถึงเซียนลึกลับก็ยังลึกซึ้งในกฎแห่งพฤกษาอย่างสมบูรณ์เพียงข้อเดียวเท่านั้น ทว่ามดปลวกตัวจ้อยตรงหน้าเขาที่เพียงจะเข้ามาในภพเซียนเพียงไม่กี่วันกลับผสานมหาเต๋าแห่งธาตุทั้งห้าให้กลายเป็นกฎแห่งธาตุที่สมบูรณ์แบบได้ ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายยังสามารถสร้างปรากฏการณ์การหมุนเวียนของธาตุทั้งห้าได้อีกด้วย แล้วจะให้สยงหมิงสงบใจอยู่ได้เยี่ยงไร?

เท่าที่เขากังวลคือ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นต้นจะสามารถเปิดการโจมตีเช่นนี้ได้!

ตึ้ง! ตึ้ง! ตึ้ง!

แม้สยงหมิงจะไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็นมากเพียงไหน ทว่าพลังของปราณกระบี่ทั้งห้าที่ฟาดลงมาจากท้องฟ้าก็ยิ่งตอกย้ำให้เขาต้องเชื่อมากเท่านั้น ทุกการโจมตีที่เกิดขึ้นทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และสร้างแรงสั่นสะเทือนหนักหน่วงให้เกิดขึ้นต่อระฆังไม้ทวิวิญญาณคราม ส่งผลให้มันได้รับความเสียหายหนักเกินกว่าจะเยียวยาได้

“มดปลวกอย่างเจ้าจะมาเอาชนะข้าได้อย่างไรกัน” ท่าทางของสยงหมิงดุดันยิ่งกว่าเก่า เห็นได้ชัดจากดวงตาคู่นั้นที่แดงฉานด้วยเลือดคั่ง คู่ต่อสู้ที่เขาเคยมองว่าเป็นเหยื่อตัวจ้อยบัดนี้กลับอยู่ในสถานการณ์เป็นต่อ ทั้ง ๆ ที่คนประเภทนี้ไม่น่าจะทนต่อการโจมตีของผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับอย่างเขาตั้งแต่ครั้งแรกได้ด้วยซ้ำ

“บัดซบ! วันนี้คือวันตายของเจ้า!” สยงหมิงกู่ก้องด้วยความโกรธราวกับสัตว์อสูรผู้เกรี้ยวกราด เขาคว้าระฆังไม้ทวิวิญญาณครามมาตีซ้ำ ๆ เพื่อสร้างคลื่นเสียงสีมรกตที่ปะทุออกมาเป็นทรงกลม เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เจ้าตัวไม่ต่างสุนัขจนตรอกที่ต่อสู้อย่างสิ้นหวังพร้อมเอาชีวิตเข้าแลก!

ท่าทางของเฉินซีไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปประหนึ่งว่าเขาหาได้แยแสต่อภาพตรงหน้าไม่ ชายหนุ่มยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคงไม่ได้ขยับหนี มีเพียงยันต์ศัสตราเท่านั้นที่คอยทำหน้าที่ควบคุมปราณกระบี่ของธาตุทั้งห้าจากระยะไกล และปลดปล่อยการโจมตีที่ดุเดือดเข้าใส่สยงหมิง

ตึง!

ปราณกระบี่อันเรืองรองเปลี่ยนสภาพตนเองเป็นม่านกระบี่ห้าสีที่ปกคลุมทั้งแผ่นฟ้า มันโจมตีไปที่ระฆังไม้ทวิวิญญาณครามด้วยพลังที่สามารถบดขยี้อีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย ในที่สุดระฆังไม้ทวิวิญญาณครามก็ไม่อาจต้านทานการโจมตีของปราณกระบี่ได้ มันระเบิดตัวเป็นเสี่ยง ๆ พร้อมกับเสียงที่ดังสะเทือนเลื่อนลั่น

อีกด้านหนึ่ง ตอนนี้สยงหมิงสูญเสียเกราะกำบังกายไปโดยสิ้นเชิง ใบหน้าของเขาถอดสีซีดเผือดถนัดตา และตั้งใจที่จะหลบการโจมตี ทว่าสายไปเสียแล้ว! ร่างกายอันแข็งแกร่งของเขาบัดนี้ถูกล้อมไว้ด้วยม่านกระบี่เบญจธาตุ ไร้ซึ่งที่ให้หลีกเร้น!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]