บทที่ 1037 ยันต์เซียนดารายมโลกแห่งปฐพีที่ห้า
บทที่ 1037 ยันต์เซียนดารายมโลกแห่งปฐพีที่ห้า
ห้องโถงเต็มไปด้วยความเงียบงัน
มีเพียงอู๋ซวินเท่านั้นที่นั่งตัวตรงอยู่หลังโต๊ะ ในมือถือพู่กันยันต์อักขระที่สร้างจากไม้เถาเซียนอำพัน ชุ่มด้วยน้ำหมึกที่สกัดจากวัตถุดิบเซียนหลากหลายชนิด เช่น หญ้าดาราเมามาย โป่งรากสนเซียน ไผ่ขาว หญ้าเจ็ดลึกลับ โลหิตวัวสังหารวิญญาณหยก และอื่น ๆ ในขณะที่เขาวาดอักขระยันต์บนหยกเทวะวิญญาณครามขนาดเท่าฝ่ามือ
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างยันต์อักขระเซียนหรือยันต์เทวะ ก็ไม่ต่างจากการสร้างโลกอีกใบภายในพื้นที่เล็ก ๆ
การเคลื่อนไหวของอู๋ซวินไหลลื่นดุจสายน้ำ แสดงให้เห็นว่าพื้นฐานของอีกฝ่ายมั่นคงอย่างยิ่ง
ด้วยสายตาอันเฉียบแหลมของเฉินซี ก็ยังไม่สามารถหาข้อบกพร่องได้มากนัก
แต่นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น การสร้างยันต์สวรรค์เปรียบได้กับการโจมตีเต็มรูปแบบของเซียนสวรรค์ผู้หนึ่ง มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
ลึก ๆ เฉินซีรู้สึกว่าทั้งพู่กันยันต์อักขระ น้ำหมึก หรือแม้แต่หยกเทวะวิญญาณครามที่ใช้แทนกระดาษยันต์ ทุกสิ่งที่คนผู้นี้ใช้สร้างยันต์อักขระนั้นหรูหราและฟุ่มเฟือยเกินไป
หากสิ่งเหล่านี้อยู่ในมือของเขา ไม่ต้องกล่าวถึงการสร้างยันต์สวรรค์เลย มันมากเกินพอสำหรับที่จะสร้างยันต์เซียนลึกลับด้วยซ้ำ
แต่คนผู้นี้คือบุตรชายของผู้ดูแลศาลาเซียนคลื่นทองคำ และกำลังอยู่ระหว่างการทดสอบที่สำคัญอย่างยิ่ง จึงเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่เขาต้องเตรียมการมาอย่างดี
ในห้องโถงมีเพียงเสียง ‘ฟึบฟับ’ จากการสร้างยันต์อักขระดังกังวานอยู่ในห้องโถงดุจเสียงของแมลง
อู๋หยวนและปรมาจารย์อวี๋จ้องเขม็งไปที่อู๋ซวิน ทั้งสองเผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลใจที่ไม่สามารถปกปิดได้มิด ทำเพียงยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน เพราะเกรงว่าจะไปรบกวนอู๋ซวินเข้า
ในทางกลับกัน เมื่ออู๋ซวินเริ่มสร้างยันต์อักขระ ชายชราผอมแห้งที่อู๋หยวนเรียกว่าเสวียนอวิ๋นก็หลับตาลงอีกครั้ง ใบหน้ายังคงไร้อารมณ์ มิอาจทราบได้ว่ากำลังครุ่นคิด หรือกำลังงีบหลับกันแน่
“คนผู้นี้น่าจะเป็นแขกผู้มีเกียรติที่มาเยือนศาลาเซียนคลื่นทองคำเมื่อวานนี้…”
ในบรรดาผู้คนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ เฉินซีมีท่าทีผ่อนคลายมากที่สุด เขากวาดสายตาไปทางชายชราเสวียนอวิ๋น จากนั้นก็หวนนึกถึงฉากเมื่อวาน
ตอนนั้น เขาตั้งใจจะขายศิลากำเนิดวิญญาณครามที่ตนครอบครอง แต่ไม่คาดคิดว่าศาลาเซียนคลื่นทองคำจะปิดทำการเพื่อต้อนรับแขกคนสำคัญในวันนั้นพอดี
ดูเหมือนแขกคนสำคัญที่ว่าคงจะเป็นชายชราเสวียนอวิ๋นอย่างไม่ต้องสงสัย
ในขณะเดียวกัน เฉินซีก็สังเกตเห็นกลิ่นอายของอู๋หยวนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ที่ยิ่งมายิ่งประหม่า และแม้แต่มือของอู๋หยวนที่อยู่ใต้แขนเสื้อก็ยังกำแน่น
เฉินซีเงยหน้าขึ้นและกวาดสายตาไปที่อู๋ซวิน ซึ่งเขาก็เข้าใจเหตุผลในทันที
ตั้งแต่เมื่อใด ความเร็วในการตวัดพู่กันของอู๋ซวินกลับค่อย ๆ ช้าลง เส้นเลือดบนมือข้างที่ถือพู่กันปูดบวมขึ้น ราวกับกำลังลากภูเขาลูกมหึมาขณะกำลังสร้างยันต์อักขระ และดูเหมือนจะยากมากขึ้นทุกที
ยิ่งไปกว่านั้น สีหน้าของอีกฝ่ายยังเริ่มซีดลงทีละน้อย คิ้วเอียงดุจกระบี่ขมวดแน่น และเม้มริมฝีปากจนซีดขาว เม็ดเหงื่อจำนวนมากผุดเต็มหน้าผากและไหลลงมาตามกรอบหน้า
โดยเฉพาะความมั่นใจในแววตาสุกใสของเขา มันค่อย ๆ ถูกแทนที่ด้วยความดิ้นรนและความเจ็บปวด
อู๋ซวินกำลังประสบปัญหา!
เฉินซีพินิจอย่างถี่ถ้วน หยกเทวะวิญญาณครามถูกปกคลุมด้วยยันต์อักขระต่าง ๆ โดยฝีพู่กันของอู๋ซวินจนหนาแน่น มองอีกทีคล้ายมันกำลังหายใจ และปล่อยลำแสงสีฟ้าออกมา
แต่แสงนั้นกลับค่อย ๆ หรี่ลง จนเหมือนปลาที่ดิ้นรนอยู่บนบกและกำลังจะตายในไม่ช้า
คิ้วของเฉินซีพลันเลิกขึ้น ตระหนักได้ว่า หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป การทดสอบสร้างยันต์อักขระของอู๋ซวินก็จะจบลงด้วยความล้มเหลวอีกครั้ง
อู๋ซวินเองก็ทราบดีถึงความจริงข้อนี้ หรืออาจกล่าวได้ว่า ไม่ว่าจะพยายามสร้างยันต์อักขระมาสักกี่ครั้ง เขามักจะล้มเหลวในอุปสรรคสุดท้ายเสมอ
แต่ไม่ว่าจะครุ่นคิดอย่างขมขื่นนานเท่าใด ก็ไม่สามารถหาทางแก้ไขอุปสรรคสุดท้ายนี้ได้ เดิมทีอู๋ซวินคิดว่าหากพึ่งคุณภาพอันยอดเยี่ยมของหยกเทวะวิญญาณคราม ก็คงจะช่วยให้ข้ามผ่านอุปสรรคนี้ไปได้
น่าเสียดาย… มันยังคงไม่ได้ผล!
ยามนี้ ความมั่นใจของเขาใกล้จะพังทลายอย่างสมบูรณ์ และเริ่มตั้งคำถามว่า ตนยังสมควรแสวงหาในวิถีเต๋าแห่งยันต์อักขระต่อไปหรือไม่
‘หรือข้าจะไม่มีพรสวรรค์ในวิถีนี้?’
อู๋ซวินรู้สึกหงุดหงิด สีหน้าซีดเซียว
การที่ผู้คนเริ่มสงสัยในวิถีแห่งเต๋า ย่อมแสดงว่าคนผู้นั้นอยู่ไม่ไกลจากความล้มเหลว ซึ่งอู๋ซวินก็ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกัน แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ได้
ข้าควรทำอย่างไรดี!
ข้าควรทำอย่างไรดี?!
กลิ่นอายของเขายิ่งหนักอึ้ง ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ดูคล้ายสัตว์ร้ายที่ติดกับดัก ตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังไร้หนทาง
“พยายามเข้า! ความสำเร็จของเจ้าอยู่ห่างออกไปเพียงก้าวเดียวเท่า! อีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้น!”
อู๋หยวนตะโกนอยู่ในใจ และกังวลอย่างมาก แม้ตนจะมีความสามารถมากมาย แต่กลับไม่สามารถช่วยเหลือบุตรชายได้อย่างเต็มที่ ทำให้ตัวคนร้อนรนเหมือนมดบนกระทะร้อน สีหน้าเปลี่ยนไปมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ในทางกลับกัน ปรมาจารย์อวี๋ก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ และส่ายศีรษะ แม้ว่าจะไม่เชี่ยวชาญในเต๋าแห่งยันต์อักขระ ก็ยังรู้ว่าความล้มเหลวของอู๋ซวินเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดิ้นรนไปก็ไร้ประโยชน์
ในขณะเดียวกัน แม้แต่ชายชราเสวียนอวิ๋นที่นั่งอยู่ในตำแหน่งเจ้าภาพก็ลืมตาขึ้นชั่วขณะ ก่อนจะส่ายศีรษะเงียบ ๆ ใบหน้าผอมแห้งเผยให้เห็นความเฉยเมย และเตรียมประกาศผลในไม่ช้า
จู่ ๆ บรรยากาศในห้องโถงก็บีบคั้นและเงียบสงัด จนแทบหายใจไม่ออก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...