บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1063

สรุปบท บทที่ 1063 ไม่มีใครกล้าท้าประลอง: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

สรุปเนื้อหา บทที่ 1063 ไม่มีใครกล้าท้าประลอง – บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones

บท บทที่ 1063 ไม่มีใครกล้าท้าประลอง ของ บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย novelones อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 1063 ไม่มีใครกล้าท้าประลอง

บทที่ 1063 ไม่มีใครกล้าท้าประลอง

ณ ชั้นที่ห้าของสนามประลอง

นี่คือสนามรบของผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับขั้นต้น เมื่อเทียบกับสนามประลองในสี่ชั้นแรก สนามประลองของชั้นนี้มีจำนวนที่น้อยกว่ามาก สนามประลองทั้งแปดแห่งกระจัดกระจายอยู่โดยรอบ มีเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่ผู้เยี่ยมยุทธ์กำลังต่อสู้กันอยู่ และสนามประลองอื่น ๆ อยู่ในสภาพว่างเปล่า

แม้แต่จำนวนผู้เยี่ยมยุทธ์ที่เฝ้าดูการต่อสู้ก็มีไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น

เห็นได้ชัดว่ามีเพียงผู้เยี่ยมยุทธ์ที่อยู่ในหมื่นอันดับแรกของเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีปเท่านั้นที่สามารถเข้าสู่ดินแดนจักรพรรดิแห่งการต่อสู้ และส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนสวรรค์ สำหรับผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับกลับมีอยู่น้อยนิด

ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่าที่นี่ไม่ใช่โลกแห่งความจริง จึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้เยี่ยมยุทธ์จะมาที่นี่ได้ทุกวัน

เฉินซีไม่ได้สังเกตการณ์ต่อสู้ของคนอื่นในครั้งนี้ แต่เลือกสนามประลองที่ว่างเปล่าแทน ก่อนที่จะนั่งขัดสมาธิบนพื้น และรออย่างเงียบงัน

ผ่านไปไม่นาน เขาก็สัมผัสได้ว่าบรรยากาศเริ่มเงียบลง ดูเหมือนผู้เยี่ยมยุทธ์คนอื่น ๆ จะไม่เต็มใจที่จะท้าประลองกับตน…

“เกิดอะไรขึ้น?”

“หรือขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นต้นอย่างข้านั้นไม่มีความสำคัญมากนัก?”

หลังเวลาผ่านไปราวหนึ่งก้านธูป ก็ยังมิมีผู้ใดแสดงท่าทีสนใจที่จะท้าประลอง เฉินซีจึงอดขมวดคิ้วไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าบนชั้นนี้ไม่ได้ขาดแคลนผู้เยี่ยมยุทธ์ และมักจะเห็นการต่อที่สู้ที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้นหรือสิ้นสุดลงอยู่บ่อยครั้ง

แต่ก็ไม่มีใครมาท้าประลองเขาเลยสักคน!

“หรือว่าพวกเขาต้องการบีบให้ข้าเป็นฝ่ายท้าประลอง?” เฉินซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนทันที จากนั้นเขาก็เดินไปตามสนามประลองอื่น

“ข้าต้องการท้าประลอง สหายเต๋าโปรดชี้แนะข้าด้วย”

ในไม่ช้า เฉินซีก็พบผู้เยี่ยมยุทธ์ที่กำลังรอการท้าประลองอยู่ และเพื่อความปลอดภัย เขาจึงทำการสำรวจก่อนจะพบว่าผู้เยี่ยมยุทธ์คนนี้ดูคล้ายจะอยู่ที่ขอบเซียนลึกลับขั้นต้นก่อนเอ่ยท้า

“ฮึ่ม!” ผู้เยี่ยมยุทธ์คนนี้เป็นชายร่างกายกำยำ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อเห็นเฉินซี จากนั้นแค่นเสียงเย็น และไม่สนใจเฉินซีอีกต่อไป ซึ่งหมายความว่าเขาปฏิเสธ

เฉินซีถูจมูกของเขาและเย้ยหยันตัวเองในใจ “ดูเหมือนว่าผู้คนที่นี่จะดูแคลนผู้บ่มเพาะขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นต้นจริง ๆ”

เขาหันหลังและจากไป

“แม่นาง ข้าต้องการท้าประลองเจ้า”

“อย่าได้รบกวนข้า ข้าแค่อยากจะยืนอยู่ตรงนี้เงียบ ๆ และแสดงความงามของข้า!”

“…”

“สหายเต๋า ดูเหมือนว่าเจ้าจะรอมานานแล้ว เหตุใดเราไม่ประลองกันสักตั้ง?”

“ขออภัยด้วย จู่ ๆ ข้าก็ปวดท้องนิดหน่อย ข้าจะไปแล้ว ไว้คราวหน้าค่อยว่ากันใหม่”

“…”

“สหายเต๋า…”

“อ้อ ข้าลืมไปว่าข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ ข้าขออภัยด้วยพี่ชาย เจ้าสามารถไปที่สนามประลองอื่นเพื่อหาคู่ต่อสู้เถอะ เราสามารถมาประลองกันได้เมื่อข้าว่าง แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”

การชนเข้ากับกำแพงครั้งแล้วครั้งเล่า และการถูกปฏิเสธซ้ำ ๆ ทำให้สีหน้าของเฉินซีค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นมืดมน ในที่สุดเขาก็มั่นใจว่าคนเหล่านี้จงใจทำ และหาข้อแก้ตัวสารพัด เพื่อหลีกเลี่ยงที่จะต่อสู้กับตน

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

เฉินซีขมวดคิ้ว ขณะที่กวาดสายตามองไปยังสนามประลองที่อยู่ใกล้เคียง

แน่นอน เมื่อเฉินซีพินิจอย่างระมัดระวัง เขาก็สังเกตเห็นว่า แม้ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับเหล่านั้นจะกำลังต่อสู้หรือเฝ้าดูอยู่รอบข้าง แต่สายตาล้วนจ้องมองมาที่เฉินซีทั้งนั้น โดยที่ใบหน้าของพวกเขาแฝงด้วยท่าทีแปลกประหลาดอย่างสุดจะพรรณนา

เฉินซีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจมองหาผู้เยี่ยมยุทธ์คนอื่น เขาไม่ได้คิดที่จะท้าประลอง แต่ตั้งใจจะสอบถามว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นกันแน่

เพราะเฉินซีมีเวลาไม่มากนัก และเขาไม่สามารถถูกปฏิเสธเช่นนี้ไปได้เรื่อย ๆ หากสิ่งนี้ยังคงดำเนินอีกต่อไป การมาถึงดินแดนจักรพรรดิแห่งการต่อสู้ของเขาก็จะสูญเปล่า

แต่ก่อนที่เฉินซีจะไปหาคนอื่น ก็มีคนมาหาเขาเสียก่อน

“อย่าได้สร้างปัญหา ไม่มีใครโง่พอที่จะต่อสู้กับเจ้าหรอก” นี่คือชายหนุ่มรูปงามในชุดคลุมสีเขียว มีคิ้วยาวจรดขมับ และเต็มไปด้วยจิตวิญญาณอันสูงส่ง

เฉินซีขมวดคิ้ว พลางจ้องมองไปที่ชายหนุ่มแปลกหน้า จากนั้นเขาก็รู้สึกตกตะลึง คนผู้นี้คือผู้เยี่ยมยุทธ์! พลังชีวิตในร่างกายของคนผู้นี้คลุมเครือ อีกทั้งยังเผยให้เห็นถึงกลิ่นอายอันลึกล้ำและสมบูรณ์แบบ ค่อนข้างคล้ายกับกลิ่นอายของเหลียงปิง

“อ้อ ข้าลืมแนะนำตัว ข้ากู่อวี่ถัง แม้ว่าข้าจะไม่ถือว่ามีชื่อเสียงมากนักในดินแดนจักรพรรดิแห่งการต่อสู้ แต่เจ้าก็คงเคยได้ยินชื่อข้ามาบ้าง” ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ และกล่าวอย่างตรงไปตรงมา

กู่อวี่ถัง!

ในที่สุด เฉินซีก็เข้าใจ ปรากฏว่าอีกฝ่ายคือศิษย์ของตระกูลกู่ ซึ่งอยู่ในอันดับที่เก้าในเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีป และเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับขั้นสูง

สิ่งนี้ทำให้ดวงตาของเฉินซีหรี่ลง จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างเฉยเมย “ข้าย่อมเคยได้ยินชื่อเสียงของสหายเต๋ากู่อยู่แล้ว แต่ข้าสงสัยว่าเจ้ามาหาข้าด้วยเหตุใด”

“เฉินซี?” ดวงตาของกู่อวี่ถังสว่างวาบ และเขากล่าวซ้ำก่อนที่จะกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เช่นนั้นเรามาเป็นสหายกันดีหรือไม่?”

เฉินซีตกตะลึง “ตราบใดที่เจ้าจะไม่เสียใจในอนาคต ก็ไม่มีปัญหา”

‘ที่บอกว่าไม่เสียใจในอนาคตนั่นหมายถึงอะไรกัน?’ กู่อวี่ถังคิดไม่ออก แต่แค่ได้รู้ชื่อของเฉินซีก็ทำให้เขาพอใจแล้ว ด้วยพลังของตระกูลกู่เขาต้องตรวจสอบชื่อนี้และจะได้รับอานิสงส์มากมาย

เฉินซี!

เช่นเดียวกับกู่อวี่ถัง กองกำลังขนาดใหญ่ต่าง ๆ ในทวีปทักษิณาล้วนทราบชื่อของเฉินซี ชื่อนี้ถูกพูดถึงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และแพร่กระจายไปทุกเมืองในทวีปทักษิณา ทำให้เกิดความโกลาหลอย่างมาก

ในชั่วข้ามคืน โลกการบ่มเพาะของทวีปทักษิณาล้วนรู้จักชื่อของเฉินซี และรับรู้เกี่ยวกับการต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์ในดินแดนจักรพรรดิแห่งการต่อสู้ในวันนั้น

การต่อสู้ครั้งนั้น เกิดขึ้นระหว่างผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นต้นและผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับขั้นต้น และเฉินซีผู้อยู่ในขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นต้นก็ได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์

คู่ต่อสู้ของเขาคืออินหุน ผู้เยี่ยมยุทธ์ของตระกูลอินที่ครอบครองกระบี่ประกายชาดของอินเหมียวเมี่ยว และผู้เยี่ยมยุทธ์ทุกคนในวันนั้นต่างก็เห็นด้วยตาของตนเอง ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่สามารถปลอมแปลงได้เลย

สิ่งที่น่าตกใจกว่าก็คือ หลังจากที่เอาชนะอินหุน เฉินซีก็ไปท้าประลองกับอินเหมียวเมี่ยว!

นอกจากนี้ คำว่า ‘เจ้าไม่คู่ควร’ และ ‘เจ้าจะไม่มีคุณสมบัติที่จะท้าทายข้าในอนาคต’ กลายเป็นหัวข้อที่ผู้คนกล่าวถึงมากที่สุดเช่นกัน

ท่ามกลางการสนทนาเหล่านี้ ในที่สุดทุกคนก็พบว่าชายหนุ่มที่ชื่อเฉินซีนั่น แท้จริงแล้วอยู่ในอันดับสองร้อยสามสิบเก้าในเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีป!

มันจะเป็นเรื่องปกติ หากอันดับดังกล่าวถูกครอบครองโดยผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนลึกลับ แต่เมื่อมันถูกครอบครองโดยผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นต้น มันจึงเป็นเรื่องที่แปลกและยังน่ากลัวเสียด้วยซ้ำ

แม้ว่าจะเป็นหนึ่งในพันอันดับแรกของเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีปทักษิณา แต่ก็เป็นเรื่องยากมากที่จะมีผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนสวรรค์ แต่ยามนี้ชายหนุ่มที่อยู่ในขอบเขตเซียนสวรรค์ขั้นต้น กลับได้รับการจัดอันดับอยู่ในสามร้อยอันดับแรก นี่จึงเป็นเรื่องที่ทำให้โลกตกอยู่ในความโกลาหลครั้งใหญ่

ด้วยเหตุนี้ นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ดินแดนจักรพรรดิแห่งการต่อสู้ก็คึกคักเป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่จำนวนผู้เยี่ยมยุทธ์ที่เข้าสู่ดินแดนจักรพรรดิแห่งการต่อสู้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนพวกเขาเฝ้ารอที่จะเห็นท่าทางอันน่าเกรงขามของชายหนุ่มที่ชื่อเฉินซี

แน่นอนว่ายังมีบางคนที่กระตือรือร้นอยากเอาชนะเฉินซี

ตอนนี้ เฉินซีได้กลับสู่โลกภายนอกแล้ว เขาเดินออกจากห้องลับและไปพบเหลียงปิง ก่อนที่เขาจะเล่าทุกอย่างให้นางฟัง

เขาไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากเหลียงปิง แต่มาเตือนนางว่าการที่ตนต่อสู้กับศิษย์ของตระกูลอินในวันนี้ อาจส่งผลกระทบต่อตระกูลเหลียง ดังนั้นจึงอยากให้นางระวังตัว

เมื่อเผชิญกับเรื่องนี้ เหลียงปิงปลดปล่อยกลิ่นอายของราชินีที่ประทับลึกลงไปในกระดูกของนางอย่างเต็มที่ นางโบกมือในลักษณะแข็งกร้าว “ทำตามที่เจ้าต้องการเถิด ต่อให้ทะลวงฟ้าผ่าสวรรค์ก็หาเป็นไรไม่!”

———————————-

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]