บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1110

บทที่ 1110 สองเนตร

บทที่ 1110 สองเนตร

ฟู่ ๆๆ…

รอบสะพานจรัสแสงเมฆา พายุห้วงมิติโหมกระหน่ำ มันส่งเสียงหวีดหวิวประหนึ่งเสียงร้องของภูตผีหมาป่า เห็นได้ชัดว่า พายุห้วงมิติอยู่ระหว่างสวรรค์และปฐพี ประหนึ่งเขตอาคมไร้ที่สิ้นสุด ที่แบ่งแยกเทือกเขาขุมทรัพย์เทพเจ้าเอาไว้

มีเพียงสะพานจรัสแสงเมฆา ที่ปลดปล่อยแสงสว่างศักดิ์สิทธิ์ของหมอกสีครามออกมา ราวกับสายรุ้งศักดิ์สิทธิ์ทอดยาวเข้าสู่ส่วนลึกของพายุห้วงมิติ มั่นคงดุจหินผา ไม่มีสิ่งใดสามารถสั่นคลอนได้

เบื้องหน้าสะพานจรัสแสงเมฆา หลูเฉินกับพวกอีกสามคนนั่งอยู่บนพื้น ทุกคนล้วนมีสีหน้าหมองหม่น

“ศิษย์พี่หลูเฉิน เจ้าหนูที่อ้างว่าเป็นอันดับหนึ่งบนเทียบอันดับเซียนภาคพื้นทวีป ไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของจ้าวติงกับชิวเยี่ยนได้ พวกเขาจะตายได้อย่างไร?”

องครักษ์โมฆะผู้หนึ่งอดที่จะถามไม่ได้

เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ เมื่อครู่ ป้ายชะตาวิญญาณของจ้าวติงกับชิวเยี่ยนแตกสลายพร้อมกัน

“อาจจะมียอดฝีมือให้การช่วยเหลือก็เป็นได้ แต่ในเมื่อพวกมันกล้าฆ่าองครักษ์โมฆะ ภายภาคหน้าพวกมันจะต้องถูกตามล่าอย่างแน่นอน”

หลูเฉินตอบอย่างแผ่วเบา “ทุกท่านไม่ต้องห่วง ศิษย์น้องเกาหลินนำจางซวิน เซี่ยเหิง และสือจุ่นไปตรวจสอบแล้ว พวกเราแค่ต้องรอข่าวเท่านั้น”

สิ้นคำ ทุกคนต่างพากันโล่งใจ เกาหลินแข็งแกร่ง เป็นรองเพียงหลูเฉิน ตามความเห็นของคุณชายจั่วชิว ด้วยพละกำลังของเกาหลิน ก็มากพอที่จะติดหนึ่งร้อยอันดับแรกของเทียบอันดับเซียนทะยานฟ้าได้แล้ว

นอกจากนี้เกาหลินยังเป็นคนที่มีนิสัยระแวดระวัง และเชี่ยวชาญเคล็ดวิชาลับมากมายที่ใช้ในการหลบหนี หากเขาลงมือ ต่อให้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย ก็สามารถถอยกลับมาได้อย่างง่ายดาย

แต่ใครบางคนยังอดที่จะกระซิบไม่ได้ว่า “ถ้าพวกศิษย์พี่เกาหลิน…”

เอ่ยเพียงเท่านั้น แต่ความหมายกลับชัดเจน

“ต่อให้พวกเขาโชคไม่ดีพลาดพลั้งจนตาย พวกเราก็ต้องประจำการอยู่ที่นี่”

หลูเฉินชำเลืองมองผู้พูด น้ำเสียงสงบ แต่มีกลิ่นอายที่ไม่อาจขัดขืน “หากการคาดเดาของข้าถูกต้อง เป้าหมายของพวกเราน่าจะเข้าสู่เทือกเขาขุมทรัพย์เทพเจ้าแล้ว เราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น!”

เสียงกรอบแกรบดังแว่วมาจากในป่า

ปรากฏร่างของคนสี่คน คนที่เป็นผู้นำ คือชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง มีนัยน์ตาแปลกประหลาดคู่หนึ่ง ระหว่างที่มันเปิดและปิด ฉากรอบข้างสะท้อนอยู่ในดวงตาอย่างละเอียด ดูแปลกประหลาดและลึกลับยิ่ง

คนผู้นี้คือเกาหลินที่หลูเฉินเอ่ยถึง เป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ที่มีพรสวรรค์ ‘สองเนตร’

“มันอยู่ข้างหน้า ตามมา!”

เกาหลินมองรอบข้างสักพัก ก่อนเดินตรงไปยังตำแหน่งดังกล่าว

ไม่ช้า กลิ่นโลหิตลอยฟุ้งในอากาศ องครักษ์โมฆะอีกสามคนได้กลิ่นคาวอย่างชัดเจน หนึ่งในพวกเขาจึงส่งกระแสจิตว่า “ศิษย์พี่เกาหลิน ข้าได้กลิ่นจ้าวติงกับชิวเยี่ยน”

เกาหลินพยักหน้าและกำลังจะเอ่ยบางอย่าง แต่ดวงตาพลันแข็งทื่อ ก่อนส่งสัญญาณมือ

หัวใจของคนที่เหลือเต้นระรัว ก่อนหยุดนิ่งตามคำสั่ง

“น่าสนใจ มีค่ายกลขนาดใหญ่ถูกติดตั้งเอาไว้…”

เกาหลินเย้ยหยันแผ่วเบา ดวงตากะพริบถี่รัว ก่อนเงาของธงค่ายกลสีเหลืองอมส้มปรากฏให้เห็นเลือนราง

ในหุบเขาที่ซ่อนเร้นอยู่ในป่าทึบ เฉินซีกับเหลี่ยปิงหาน ยืนเคียงข้างกัน เบื้องหน้าของทั้งสอง มีจานค่ายกลสีเงินราบเรียบลอยอยู่ตรงหน้า

ฉากรอบข้าง ‘มหาค่ายกลสยบมาร’ พลันปรากฏขึ้นบนจานค่ายกล ร่างของพวกเกาหลินสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจน

เมื่อชายหนุ่มเห็นเกาหลินยกมือขึ้นห้าม และสายตาของอีกฝ่ายจับจ้องไปยังธงค่ายกลสีเหลืองอมส้ม ดวงตาของเหลี่ยปิงหาน แข็งทื่อโดยพลัน “พวกมันรู้ตัวแล้ว!”

เฉินซีพยักหน้า สีหน้ายังคงสงบนิ่ง

“เจ้า… ไม่กังวลหรือ?” เมื่อเหลี่ยปิงหานเห็นดังนี้ ก็อดถามไม่ได้

“เจ้ารู้หรือไม่ว่า ‘ค่ายกลตรึงวิญญาณนพเก้าตำหนัก’ คืออะไร?” เฉินซีถามกลับ

เหลี่ยปิงหานตกตะลึง ก่อนส่ายหน้า

เฉินซีเอ่ย “เช่นนั้นรอดูให้ดี”

เหลี่ยปิงหาน ชำเลืองมองเฉินซี ก่อนเปิดปาก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยอะไร

ยามนี้เขาพอคาดเดาได้ว่า ชายหนุ่มหล่อเหลาตรงหน้า อาจเป็นเป้าหมายของกลุ่มคนที่ขวางทางสะพานจรัสแสงเมฆาเอาไว้

เห็นได้จากชายผู้นี้สังหารพวกจ้าวติงอย่างไม่ลังเล ก่อนทำการติดตั้งค่ายกลขนาดใหญ่ เพื่อล่อศัตรูเข้าไปในกับดัก

‘ไม่รู้ว่าชายผู้นี้เป็นใคร และไปยั่วโมโหกลุ่มคน จนโดนไล่ล่าได้อย่างไรกัน…’

เหลี่ยปิงหานครุ่นคิดซ้ำไปซ้ำมา

ทว่าอึดใจต่อมา เขาไม่กล้าคิดอะไรอีก เพราะเกาหลินผู้นั้นเริ่มดึงธงค่ายกลสีเหลืองอมส้มที่ฝังอยู่รอบ ๆ ขึ้นมา!

ตุบ! ตุบ! ตุบ!

ธงค่ายกลสีเหลืองอมส้มถูกเกาหลินดึงออกมาอันแล้วอันเล่า ก่อนสะบัดมือเพื่อกำจัดพวกมัน ทำให้กลายเป็นเศษเหล็ก การเคลื่อนไหวทั้งระมัดระวัง ละเอียด และประณีต สีหน้าเต็มไปด้วยความมั่นคงและสงบ

เมื่อองครักษ์โมฆะอีกสามคนเห็นฉากนี้ พวกเขาลอบนับถือในความระแวดระวังและรอบคอบของเกาหลิน ที่ขนาดคุณชายยังให้การชื่นชม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]