บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1137

บทที่ 1137 ลงมือ

บทที่ 1137 ลงมือ

เมื่อได้ยินคำถามของเฉินซี เจียงจูหลิวก็หัวเราะอย่างเย้ยหยัน ชายหนุ่มมองอีกฝ่ายราวกับกำลังดูตัวโง่งม ดวงตาเต็มไปด้วยความสมเพช

“คนที่ขึ้นมาจากภพมนุษย์เช่นเจ้า จะเข้าใจในเรื่องของภูมิหลังได้อย่างไร? เจ้าคู่ควรที่จะกล่าวเรื่องภูมิหลังกับข้าด้วยหรือ?”

เสียงของเจียงจูหลิวเผยให้เห็นถึงความขุ่นเคือง ราวกับหวนนึกถึงการเดินทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนามที่ประสบในตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน น้ำเสียงก็แสดงถึงความดูถูกเหยียดยามและเหนือกว่า ซึ่งเป็นคำตอบสำหรับคำถามของเฉินซี

ใช่แล้ว เขาดูถูกเฉินซี ดูถูกภูมิหลังของเฉินซี! ชายหนุ่มรู้สึกว่าแม้ตนจะยากจน แต่ถึงอย่างไรก็เกิดในภพเซียน ในขณะที่เฉินซี… เป็นเพียงคนที่ขึ้นมาจากภพมนุษย์!

ชายหนุ่มยังคงเฉยเมย และเหลือบมองเจียงจูหลิวด้วยหางตา “เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าต้องการเปรียบเทียบภูมิหลัง ดังนั้นข้าจึงไม่กลัวที่จะบอกเจ้าว่า บิดาของข้าก็เหมือนกับตัวข้า เป็นเพียงคนธรรมดาจากภพมนุษย์ ซึ่งอาจต่ำต้อยเหมือนมดปลวกในสายตาของเจ้า แต่มารดาของข้าเป็นบุตรสาวคนโตทายาทสายตรงของตระกูลจั่วชิว”

เมื่อได้ยินคำพูดครึ่งแรก นอกจากความรู้สึกดูถูกแล้ว เจียงจูหลิวยังรู้สึกชื่นชมเฉินซีเล็กน้อย แม้อีกฝ่ายจะเกิดมาต่ำต้อย แต่ก็ยังกล้าที่จะยอมรับมัน

แต่เมื่อได้ยินช่วงครึ่งหลัง สีหน้าของชายหนุ่มพลันแข็งทื่อทันที ดวงตาเบิกกว้าง และเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

‘บุตรสาวคนโตท่ามกลางทายาทสายตรงของตระกูลจั่วชิวหรือ!?’

‘เป็นไปได้อย่างไรกัน?’

‘หากมันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เหตุใดตระกูลจั่วชิวถึงต้องการฆ่าเขา?’

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของเจียงจูหลิวก็ดูไม่แน่นอนเอาเสียเลย มุมปากเต็มไปด้วยการเย้ยหยันอย่างหนาแน่นอีกครั้ง “เพื่อที่จะแข่งขันในแง่ภูมิหลังกับข้า คนผู้นี้ถึงกับอ้างว่ามีความสัมพันธ์กับตระกูลจั่วชิว ช่างน่าขันเสียจริง!”

อย่างไรก็ตาม เฉินซีหาได้ใส่ใจเจียงจูหลิว ชายหนุ่มเก็บงำความลับนี้ไว้ในใจมาเนิ่นนาน และไม่เคยบอกเรื่องนี้กับผู้ใดมาก่อน ทว่าตอนนี้เขาไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว

เพราะในไม่ช้า เขาจะได้เข้าสู่สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า ไม่มีความจำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการแก้แค้นของตระกูลจั่วชิวอีก

ถึงอย่างไร ตระกูลจั่วชิวก็รู้อยู่แล้วว่าตนยังมีชีวิตอยู่ และไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่ ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์ที่จะปกปิดเรื่องนี้อีกต่อไป!

แต่ถ้าภพเซียนทั้งหมดรู้ถึงเรื่องนี้เข้าล่ะ?

“แม้ว่าข้าจะไม่เต็มใจที่จะยอมรับ แต่ความจริงก็คือ สายเลือดครึ่งหนึ่งของข้ามาจากตระกูลจั่วชิว แต่ข้าก็ไม่ได้สนใจ เพราะมารดาของข้าเป็นผู้มอบให้ข้า ไม่ใช่ตระกูลจั่วชิว”

เสียงของเฉินซีนั้นสงบและทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง

“ยิ่งไปกว่านั้น มารดาของข้าก็ได้ตัดขาดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับตระกูลจั่วชิวเมื่อนานมาแล้ว สิ่งนี้อาจเป็นไปไม่ได้ในความคิดของเจ้า แต่มารดาของข้าก็ทำเช่นนั้น สำหรับเหตุผลนั้น เจ้าสามารถถามจั่วชิวคงได้ หากเจ้าต้องการทราบ แต่ข้าเดาว่าเขาคงไม่บอก และจะสังหารเจ้าแทน”

“อีกนัยหนึ่ง เจ้าไม่คู่ควรที่จะรู้ และเจ้าควรตระหนักถึงข้อดีข้อเสียของสิ่งนี้ให้มากยิ่งขึ้น” เฉินซีกล่าวคำต่อคำ ชายหนุ่มไม่ได้พยายามโน้มน้าวเจียงจูหลิว แต่หลังจากฟังจบ เจียงจูหลิวก็รู้สึกราง ๆ ว่า บางทีอีกฝ่ายอาจกำลังกล่าวความจริง…

สิ่งนี้ทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มไม่น่าดูเล็กน้อย ในหัวใจรู้สึกว่างเปล่าและเจ็บปวด สุดท้ายเขาก็กัดฟันและหัวเราะเสียงเย็น “ไร้สาระสิ้นดี เจ้ามันเสียสติไปแล้ว!”

เฉินซีผ่อนลมหายใจยาว ในแววตากลับสงบและไม่แยแสอีกครั้ง “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น วันที่ข้าก้าวผ่านประตูของตระกูลจั่วชิว และทวงคืนสิ่งที่มารดาของข้าสูญเสียไปเมื่อหลายปีก่อน ข้าจะทำลายทุกคนที่ทำร้ายมารดาของข้าเมื่อหลายปีก่อน!”

“และเจ้าสามารถบอกจั่วชิวคงว่า ข้า เฉินซี จะทำให้จั่วชิวเฟิง บิดาของเขาต้องชดใช้ทุกสิ่งที่ทำกับมารดาของข้าเมื่อหลายปีก่อน จงบอกตระกูลจั่วชิว เพียงแค่…รอ!”

รอ!

คำเพียงคำเดียว แต่กลับเต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่สั่งสมมาหลายปี อีกทั้งมันยังแฝงไปด้วยความเด็ดเดี่ยวและความแน่วแน่!

ใบหน้าของเจียงจูหลิวเปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง แม้ไม่อยากเชื่อ แต่ดวงจิตแห่งเต๋ากำลังบอกว่า เฉินซีกล่าวความจริง…

จั่วชิวคงเป็นหนึ่งในหกสุริยันอันเจิดจ้าของภพเซียน!

ส่วนจั่วชิวเฟิงเป็นผู้นำตระกูลคนปัจจุบันของตระกูลจั่วชิว!

อย่างไรก็ตาม เฉินซีได้กล่าวอย่างชัดเจนแล้วว่า ตนตั้งใจจะก้าวเท้าเข้าสู่ตระกูลจั่วชิว และแก้แค้นในสักวันหนึ่ง!

คำพูดเหล่านี้ฟังดูไร้สาระ แต่เจียงจูหลิวก็ตระหนักได้ถึงน้ำเสียงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ และมันทำให้หัวใจของเขาเต้นกระหน่ำด้วยความโกลาหลทันที

“เหตุใดเจ้าถึงต้องบอกเรื่องทั้งหมดนี้กับข้า!” เจียงจูหลิวกัดฟันและร้องออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว

เฉินซีกล่าวอย่างเฉยเมย “ข้าแค่อยากบอกเจ้าว่าด้วยฐานะของเจ้า เจ้าจะตายเร็วขึ้น หากยังเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความเป็นศัตรูระหว่างข้ากับตระกูลจั่วชิว!”

หัวใจของเจียงจูหลิวสั่นไหวอย่างรุนแรง ชายหนุ่มสีหน้าบิดเบี้ยวและซีดเซียว เพราะตนให้ความสำคัญกับภูมิหลังมากที่สุด จึงรู้ความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของเฉินซีได้อย่างแจ่มแจ้ง

หมายความว่า ตนไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับภูมิของเฉินซีแม้แต่น้อย…

“ทำไมกัน? ทำไมมันถึงเป็นเช่นนี้? ทั้งที่ข้าทุ่มเท แต่กลับต้องทนทุกข์กับความยากลำบาก เพียงเพราะชาติกำเนิดที่ยากจนของข้า ทำไม! ทำไมกัน!?” เจียงจูหลิวพึมพำ สีหน้าผิดหวังบิดเบี้ยวด้วยความวิปลาส

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]