บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1147

บทที่ 1147 ลูกหลานของราชันเซียนราตรีนิรันดร์

บทที่ 1147 ลูกหลานของราชันเซียนราตรีนิรันดร์

เป็นเพราะเข้าใจธรรมชาติของเผ่ามังกรดี จั่วชิวอินจึงไม่ได้ขุ่นเคือง เพียงแค่มองอ้าวอู่หมิงอย่างใจเย็น ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “ข้าจะกล่าวอย่างตรงไปตรงมา เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน”

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ชายหนุ่มก็หยุดชั่วครู่ และกล่าวต่อหลังจากเห็นว่าไม่มีผู้ใดคัดค้าน “ข้าเข้าใจว่าพวกเจ้าทุกคนรู้ว่ามาเพื่อจัดการใคร ดังนั้นข้าหวังว่าระหว่างนี้พวกเจ้าทุกคนจะฟังคำสั่งของข้าจนกว่าเราจะฆ่าเขาได้ มิฉะนั้นก็โปรดจากไป”

ความหมายนั้นเรียบง่ายมาก พวกเจ้าทุกคนมาช่วยข้าเพราะตระกูลจั่วชิวสัญญาบางอย่างกับเจ้า ดังนั้นจงฟังคำสั่งของข้า เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายในกลุ่มของเราจากการขาดผู้นำ

“แน่นอน” เจี้ยงฉางไฮ่ยิ้มบาง ๆ และไม่ได้สนใจอะไรอีก

“นั่นเป็นสิ่งที่ควรจะเป็น” เหวินเหรินเซียวพยักหน้าเช่นกัน

“ฮึ่ม! ข้าจะช่วยเจ้าฆ่าเป้าหมายเท่านั้น แต่ข้าจะทำตามคำสั่งของผู้ใดก็เรื่องของข้า” มีเพียงอ้าวอู่หมิงเท่านั้นที่แค่นเสียงเย็น และแสดงร่องรอยของความไม่พอใจ อย่างไรก็ตาม แม้จะกล่าวเช่นนี้ แต่นับว่าชายหนุ่มไม่ปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือ

เมื่อทั้งสามคนเห็นด้วย คนอื่น ๆ ก็ไม่คัดค้าน

สีหน้าของจั่วชิวอินผ่อนคลายลงเล็กน้อย ชายหนุ่มประสานมือและกล่าวว่า “ข้าขอบคุณพวกเจ้าทุกคน”

ต่อจากนั้น ชายหนุ่มก็หารือกับเจี้ยงฉางไฮ่ เหวินเหรินเซียว และอ้าวอู่หมิงเป็นการส่วนตัว และไม่มีใครอื่นนอกจากพวกเขา ว่าควรจัดการกับเฉินซีอย่างไร

ในทางกลับกัน ศิษย์คนอื่น ๆ ก็รวมตัวกันและพูดคุยกันเบา ๆ

บรรยากาศสงบยิ่งและลดการป้องกันลง อันที่จริง ไม่จำเป็นต้องระแวดระวังสิ่งใด ในขณะนี้ ศิษย์ของตระกูลจั่วชิว ตระกูลเจี้ยง ตระกูลเหวินเหริน และภพมังกรได้มารวมตัวกัน อาจกล่าวได้ว่า ผู้เยี่ยมยุทธ์มารวมตัวกันเหมือนเมฆบนท้องฟ้า ซึ่งอาจไม่มีใครในแดนโลหิตทั้งหมดที่กล้ามาหาเรื่องกับพวกเขาในขณะนี้

“ไม่นึกเลยว่าตระกูลจั่วชิวจะขอความช่วยเหลือจากคนนอกมามากมายเพียงนี้ พวกมันคงจ่ายไปไม่น้อย…”

ณ สถานที่แห่งหนึ่งห่างไกลมาก เฉินซีถอนเนตรเทวะแห่งความจริงออกเงียบ ๆ คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ใบหน้าเผยให้เห็นท่าทางถึงการครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง

ศิษย์ของตระกูลเจี้ยง ตระกูลเหวินเหริน และภพมังกรเข้ามาสมทบเช่นนี้ ทำให้เฉินซีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปฏิบัติอย่างระมัดระวัง ชายหนุ่มรู้สึกกดดันอย่างหนัก

ผู้เยี่ยมยุทธ์เหล่านี้มีเกือบสองร้อยคน และในจำนวนนั้นย่อมไม่ขาดผู้เยี่ยมยุทธ์ชั้นนำอย่างเจี้ยงฉางไฮ่ จั่วชิวอิน อ้าวอู่หมิง และเหวินเหรินเซียว

อาจกล่าวได้ว่ากองกำลังเหล่านี้เพียงพอที่จะเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระไปทั้งแดนโลหิต เว้นเสียแต่ศิษย์ของมหาอำนาจอื่น ๆ จะผนึกกำลังกัน มิฉะนั้น ก็คงไม่มีใครกล้ารุกรานกับกองกำลังดังกล่าว

เฉินซีทราบอย่างชัดเจนว่า ระยะเวลาของการร่วมมือขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เขาสามารถอยู่รอดได้

‘ไม่เป็นไร ข้าจะปล่อยศิษย์ตระกูลจั่วชิวไปก่อน ทางที่ดีควรรีบไปที่พื้นที่ส่วนกลาง เหล่าศิษย์ของมหาอำนาจทั้งหลายอาจรวมตัวกันอยู่ที่นั่น และเมื่อข้าไปถึงที่นั่น พวกศิษย์ของมหาอำนาจอื่น ๆ จะต้องวิตกกังวลอย่างแน่นอน และบางทีปัญหาอาจเกิดขึ้น’

‘สรุปแล้ว ตราบใดที่ข้าสามารถสร้างความสับสนวุ่นวายได้ บางทีโอกาสอาจอยู่ข้างข้า’

เฉินซีครุ่นคิดอย่างรวดเร็วก่อนจะตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ศูนย์กลางของแดนโลหิต

ชู่ว!

ภายใต้ม่านสีดำสนิทแห่งรัตติกาล เงาสีดำแปรเปลี่ยนเป็นลำแสงที่พุ่งไปมาระหว่างภูเขาอย่างรวดเร็ว และหายไปอย่างไร้ร่องรอยในเวลาไม่กี่ลมหายใจ

หนึ่งถ้วยชาต่อมา ร่างสูงใหญ่ซ่อนตัวอยู่ในช่องเขาด้านข้างอย่างเงียบ ๆ ก่อนที่จะยับยั้งกลิ่นอายที่แผ่ออกมาทั้งหมด

หลังเก็บงำกลิ่นอายไม่กี่ลมหายใจ จู่ ๆ ก็มีร่างพุ่งผ่านท้องฟ้ามาจากไกลโพ้น

“จงระวังตัว ไม่ใช่แค่กลุ่มของเราที่ตั้งใจจะตามล่าเฉินซีในครั้งนี้ ข้าได้ยินมาว่าเหล่าศิษย์ของมหาอำนาจเหล่านั้นก็กำลังรีบมาจากทุกทิศทุกทางเช่นกัน ถ้าเราเจอพวกมันเข้า ไม่ต้องกล่าวถึงการตามล่า แม้แต่การป้องกันตัวเองก็เป็นเรื่องยาก”

“ศิษย์พี่ฮวา ในเมื่อมันเป็นเช่นนี้ แล้วเหตุใดเราถึงต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย?”

“หึ หึ เป็นเพราะมีกองกำลังมากมายที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ดังนั้นเราจึงใช้ประโยชน์จากมันได้และสามารทำกำไรได้อย่างง่ายดาย ถ้าเราสามารถฆ่าศิษย์ของมหาอำนาจไปสักสองสามคน ผลที่ได้รับกลับมาจะต้องน่าตกตะลึงถึงขีดสุด”

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนั้น ศิษย์พี่ฮวาไม่ได้มาเพื่อเฉินซีสินะ”

“ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ? แต้มดาราของหมอนั่นอยู่ในอันดับที่หนึ่ง เขาเป็นเหมือนกวางตัวน้อยที่ทุกคนต้องการตัว ดังนั้นจึงถูกไล่ล่าโดยทุกคน แต่พวกเจ้าทุกคนก็คงทราบอย่างชัดเจนว่า นอกจากคนที่มีอำนาจเท่ากันแล้ว คนอื่น ๆ ล้วนเป็นศัตรูในแดนโลหิต เมื่อทุกคนต้องการฆ่ากวางตัวนี้ ความขัดแย้งย่อมไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ในเวลานั้น สถานการณ์จะต้องวุ่นวายอย่างมากแน่นอน ข้าไม่ต้องการกินเนื้อกวาง แต่อย่างน้อยเราก็ควรจะได้น้ำแกงสักถ้วย จริงหรือไม่?”

“ถูกต้อง ถูกต้อง! หากเป็นเช่นนั้น เราสามารถเปิดใช้งานตราดาราม่วงได้ทันที เมื่อเราพบกับอันตรายและออกจากแดนโลหิต”

คลื่นของการสนทนาดังก้อง และเฉินซีได้ยินมันทั้งหมด

ชายหนุ่มโผล่ออกมาจากที่ซ่อน เมื่อคนกลุ่มนี้หายไป อย่างไรก็ตาม สีหน้าของเขากลับยิ่งหนักอึ้งมากขึ้น เพราะตระหนักได้ว่าสถานการณ์ตอนนี้อันตรายอย่างยิ่ง

“กลายเป็นว่าการมีแต้มดารามากเกินไปก็ไม่ดีเช่นกัน…”

เฉินซีหัวเราะเยาะตัวเอง ชายหนุ่มรู้ว่าถ้าตนเป็นศิษย์ของมหาอำนาจ สถานการณ์ที่ทุกคนเป็นศัตรูจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เหตุผลที่เขากระตุ้นความโลภในตัวทุกคน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแต้มดาราที่มีปริมาณสูงเกินไป แต่ที่สำคัญที่สุด คือเขาตัวคนเดียว ไม่มีนิกาย และไม่มีใครให้พึ่งพา!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]