บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1161

บทที่ 1161 การสรรเสริญทวยเทพหลั่งไหลลงมาดั่งห่าฝน

บทที่ 1161 การสรรเสริญทวยเทพหลั่งไหลลงมาดั่งห่าฝน

อวินฟูเซิงคือบุคคลในตำนานของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า

ในประวัติศาสตร์อันไร้ขอบเขตของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า มีตำนานมากมายได้ถือกำเนิดขึ้น แม้อวินฟูเซิงจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นที่สุดในหมู่ศิษย์ของสำนัก แต่ก็เป็นคนที่มิอาจมองข้ามได้

เมื่อหนึ่งหมื่นเก้าพันปีที่แล้ว อวินฟูเซิงเป็นเพียงชายหนุ่มที่หยิ่งทะนงเหมือนเหยี่ยว แต่สงบนิ่งเหมือนดอกบัว ต้นกำเนิดไม่อาจระบุได้แน่ชัด และจำได้เพียงว่า อวินฟูเซิงได้มาเข้าร่วมการทดสอบของสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าเพียงลำพัง

ในระหว่างการทดสอบรอบแรก เขาได้อันดับท้ายสุด

ในระหว่างการทดสอบรอบที่สอง เขาก็ยังคงได้อันดับท้ายสุด

ในเวลานั้น แทบจะไม่มีใครคิดว่าคนผู้นั้นจะสามารถผ่านการทดสอบรอบที่สามได้ แต่เหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นในการทดสอบรอบที่สาม อวินฟูเซิงเป็นเหมือนหยกที่ยังไม่ได้เจียระไน และได้สลัดเปลือกนอกอันหยาบกร้านออก เผยให้เห็นความแวววาวที่ไม่ธรรมดาภายใน!

เขาไม่เพียงแค่ได้อันดับหนึ่งในการทดสอบรอบที่สามเท่านั้น แต่การสรรเสริญจากทวยเทพที่ได้รับยังเหนือกว่าระดับฟ้าดินร้องสอดประสานอีกด้วย!

ทำให้เกิดความปั่นป่วนไปทั้งสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า

เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า การสรรเสริญจากทวยเทพมาจากพลังแก่นแท้ของประกาศิตทองคำของจักรพรรดิเต๋า และตามปรากฏการณ์แห่งฟ้าดินต่าง ๆ ที่เหล่าศิษย์ได้รับ มันถูกแบ่งออกเป็นสามระดับ อันได้แก่ ท่วงทำนองสราญรมย์ กัมปนาทเก้าชั้นฟ้า และฟ้าดินร้องสอดประสาน

ทว่าการสรรเสริญจากทวยเทพที่อวินฟูเซิงได้รับกลับไม่ได้อยู่ในสามระดับนี้ แต่มันกลับยิ่งใหญ่กว่าราวกับฝ่าฝืนกฎที่ตายตัว และสร้างปาฏิหาริย์ครั้งใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!

หลังการทดสอบ การแสดงของอวินฟูเซิงนั้นพิเศษยิ่งกว่า ชายหนุ่มบรรลุสู่ขอบเขตเซียนทองคำภายในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงสามปี และได้รับตราศักดิ์สิทธิ์หายากที่สวรรค์ประทานมาให้ นั่นคือกระแสเปลวเพลิงอำไพ ยิ่งกว่านั้น ยังได้รับการยอมรับจากราชันเซียนรัตติกาล ว่าเป็นผู้ครอบครองดวงจิตแห่งเต๋าที่ยอดเยี่ยมและภูมิปัญญาอันยิ่งใหญ่ เรื่องนี้สั่นสะเทือนไปทั้งโลก!

อย่างไรก็ตาม ผู้คนในโลกกลับต้องประหลาดใจ เมื่ออวินฟูเซิงได้หายตัวไปในช่วงปีที่สี่นับตั้งแต่เข้าสู่สำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า และไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย

บางคนกล่าวว่าคนผู้นั้นได้เข้าไปในสุสานของเหล่าทวยเทพ และเสียชีวิตลงที่นั่น

บางคนกล่าวว่า อวินฟูเซิงได้ประสบกับวาสนาที่ไม่ธรรมดา และกลายเป็นศิษย์ของสุดยอดนิกายลึกลับของภพทั้งสาม นั่งบำเพ็ญเพียรอย่างสันโดษเพื่อบ่มเพาะมหาเต๋า

แม้จะมีข่าวลือมากมาย แต่กลับไม่มีใครสามารถให้คำตอบที่แน่ชัดได้

ถึงอย่างนั้น ชื่อของอวินฟูเซิงก็ได้กลายเป็นตำนานของภพเซียนที่ไม่สามารถลบล้างได้ ชายหนุ่มเป็นดุจดาวตกที่พุ่งผ่านเต็มเปี่ยมด้วยความพร่างพราวและเจิดจรัส แม้จะเป็นเพียงชั่วพริบตา แต่ก็ทำให้ผู้คนในโลกได้เห็นตำนานราวกับปาฏิหาริย์ของเขา

ในขณะนี้ ผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ที่นี่ล้วนมีสีหน้าตกใจทันที เมื่อหวังต้าวหลูได้เอ่ยชื่อของอวินฟูเซิง และพากันจ้องมองเฉินซีที่นั่งตัวตรงอยู่บนศิลาลับเต๋าที่อยู่ไกลออกไป

“พี่หวัง เจ้าหมายความว่าเขาอาจทะลุขีดจำกัดเหมือนอวินฟูเซิง และได้รับการสรรเสริญจากทวยเทพที่อยู่เหนือฟ้าดินร้องสอดประสานหรือ?” อาจารย์ของตระกูลมู่กล่าวด้วยประหลาดใจ

“เป็นไปไม่ได้!” ก่อนที่หวังต้าวหลูจะตอบ มีคนปฏิเสธขึ้นมาเสียงแข็ง และคนคนนั้นคือจั่วชิวฮง เขาขมวดคิ้วขณะกล่าวว่า “อวินฟูเซิงคือใครกัน? เขาเป็นอัจฉริยะที่หาใครเปรียบไม่ได้ ได้รับการยกย่องจากราชันเซียนรัตติกาล และแม้กระทั่งตอนนี้ เขาก็ไม่ได้ด้อยกว่าสุริยันอันเจิดจ้าทั้งหกดวง เฉินซีไม่มีคุณสมบัติที่จะเปรียบเทียบกับคนผู้นี้!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ คนอื่น ๆ ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ลึก ๆ ในใจกลับรู้สึกว่ามันอาจเป็นไปได้เช่นกัน ความคิดที่ขัดแย้งกันอย่างมากนี้ มันไม่สามารถอธิบายได้ด้วยคำพูด

“โต้เถียงกันไปก็เปล่าประโยชน์ ไยไม่สงบสติอารมณ์แล้วรอดูผลเล่า?” โจวจื่อหลีกล่าวอย่างใจเย็น และหยุดคนอื่นจากการโต้เถียงเกี่ยวกับเรื่องนี้

ต่อจากนั้น พวกเขาทั้งหมดก็ระงับความรู้สึกที่ซับซ้อนในใจ และเริ่มรออย่างใจเย็น

บนศิลาลับเต๋าในขณะนี้ นอกจากเฉินซีแล้ว ศิษย์คนอื่น ๆ ที่อยู่ในสิบอันดับแรก กำลังได้รับการขัดเกลาจากการสรรเสริญจากทวยเทพ

มีเพียงเฉินซีเท่านั้นที่ยังไม่มีวี่แววเคลื่อนไหวใด ๆ และดูเหมือนว่าเขาจะผิดปกติอย่างมาก

เวลาได้ล่วงเลยไป

หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป

จั่วชิวอิน มู่อวี่ชง โม่ชีอวิน และคนอื่น ๆ ซึ่งเป็นพวกแรกที่ได้รับการสรรเสริญจากทวยเทพ ก็ตื่นขึ้นจากการนั่งสมาธิ พวกเขามีท่าทางตื่นเต้นและรอยยิ้มแต่งแต้มมุมปาก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับผลอันน่าอัศจรรย์จากการขัดเกลาของการสรรเสริญจากทวยเทพ

ในขณะเดียวกัน เฉินซียังคงอยู่ในสภาพเดิม และเงียบงัน

สิ่งนี้ทำให้ผู้ยิ่งใหญ่บนแท่นบวงสรวงเต๋าขมวดคิ้วเล็กน้อย ความรู้สึกปนเปกัน ทั้งงุนงง หมดความอดทน และวิตกกังวล

หลังจากช่วงเวลาสั้น ๆ อ๋าวอู๋หมิง เจี้ยงฉางไฮ่ จงหลีสวิน จ้าวเมิ่งหลี จี้เซวียนปิง และเจิ่นลู่ก็ได้ตื่นจากการทำสมาธิตามลำดับเช่นเดียวกับจั่วชิวอิน และคนอื่น ๆ ความสุขบนใบหน้าของพวกเขาก็ไม่สามารถปกปิดได้

ทว่าทุกคนกลับต้องตกตะลึง

“การทดสอบยังไม่สิ้นสุดอีกหรือ?”

ในขณะที่คำถามดังกล่าวผุดขึ้นในใจ พวกเขาจ้องมองไปยังผู้ยิ่งใหญ่บนแท่นบวงสรวงเต๋า และเห็นว่าผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้นกำลังจ้องมองไปยังทิศทางเดียวกัน

เมื่อมองตามไป พวกเขาก็เห็นเฉินซี

“หืม? เขายังไม่ได้ชักนำปรากฏการณ์แห่งฟ้าดินอีกหรือ?” มู่อวี่ชงสังเกตเห็นว่าไม่มีความผันผวนจากชายคนนั้นและยังคงนั่งสมาธิ ปราศจากการเคลื่อนไหวราวกับบ่อน้ำโบราณที่ไร้ระลอกคลื่น

“ทั้งที่เขายังไม่ได้ชักนำปรากฏการณ์แห่งฟ้าดินลงมา แต่กลับยังคงอยู่ได้จวบจนถึงตอนนี้ ช่างน่าแปลกยิ่งนัก…” เซวียนหยวนอวิ่นพึมพำ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]