บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1181

บทที่ 1181 สร้างชื่อในสำนักศึกษา

บทที่ 1181 สร้างชื่อในสำนักศึกษา

สิ้นเสียงของเสิ่นฮ่าวเทียน ทั้งเซวียนหยวนถง และจั่วชิวเซิงต่างก็ต้องปิดปากลงแทบจะในทันที

เมื่อเห็นเช่นนั้น ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่ในห้องโถงก็พลันเข้าใจอย่างถ่องแท้ พวกเขารู้ดีว่าระหว่างเซวียนหยวนถงและจั่วชิวเซิงนั้นมีความคับข้องใจ และความขัดแย้งกันตลอดหลายปีที่ผ่านมา

เนื่องจากตระกูลเซวียนหยวนและตระกูลจั่วชิวยืนอยู่ไม่ห่างกันนัก ภาพเช่นนี้ทำให้สถานการณ์โดยรวมดูตึงเครียดขึ้นมาไม่น้อย พวกเขาแสดงท่าทางเขม่นใส่กันไปมาอยู่เป็นระยะ

โชคดี ที่แห่งนี้คือสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋าและมีผู้อาวุโสหลายคนอยู่ที่นี่ ไม่อย่างนั้นฝ่ายสงวนโอสถคงจะได้หัวหมุนเป็นพัลวัน

“ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ พี่เฉินคิดว่าเราควรทำเช่นไรต่อไปดีเล่า?” โม่หลิงไห่เอ่ยถาม

เสิ่นฮ่าวเทียนขมวดคิ้ว เขาครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะพูดขึ้น “ช่างเถิด มันสายเกินไปแล้วที่จะยกเลิกงานในตอนนี้ สิ่งสำคัญเร่งด่วนก็คือจะทำอย่างไรเพื่อซ่อมแซมหม้อสมบัติเก้าลึกล้ำให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

เซวียนหยวนถงเอ่ย “ญาติผู้พี่ของข้า เซวียนหยวนพัวจวินบัดนี้เดินทางกลับไปยังตระกูลแล้ว บางทีในไม่ช้า เขาอาจจะสามารถเชิญปราชญ์ค่ายกลยันต์อักขระชั้นยอดมาซ่อมแซมหม้อสมบัติเก้าลึกล้ำให้แก่พวกเราได้”

เสิ่นฮ่าวเทียนส่ายหน้า “ข้าเกรงว่าจะไม่ได้ผล ในหมู่พวกเรามีปราชญ์ค่ายกลยันต์อักขระชั้นยอดอยู่มากมาย แต่กลับไม่มีใครสามารถซ่อมแซมมันได้แม้คนเดียว”

ครั้นพูดเช่นนั้น เขาก็สืบเท้าไปหยุดเบื้องหน้าหม้อสมบัติเก้าลึกล้ำ สายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายจับจ้องไม่วางตา “กุญแจสำคัญของปัญหานี้ก็คือผังค่ายกลยันต์อักขระที่อยู่ด้านในหม้อสมบัติ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเหล่าผู้ฟังทอดสายตามองหม้อสมบัติเก้าลึกล้ำขนาดใหญ่ พวกเขาค่อนข้างเห็นด้วยกับความคิดของเสิ่นฮ่าวเทียน

แท้จริงแล้ว หม้อสมบัติเก้าลึกล้ำถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือของจักรพรรดิเต๋าเมื่อครั้งบรรพกาล ผังค่ายกลยันต์อักขระที่อยู่ภายในนั้นค่อนข้างลึกลับซับซ้อน แม้พวกตนจะเป็นถึงปราชญ์ค่ายกลยันต์อักขระชั้นยอด ทว่ากลับไม่มีใครเคยเห็นผังค่ายกลยันต์อักขระเช่นนี้มาก่อนในช่วงชีวิต

พวกเขาพยายามศึกษามันอย่างยากเข็ญ มุ่งมั่นที่จะทลายซึ่งความซับซ้อนและเข้าใจเกี่ยวกับมันอย่างถ่องแท้ ทว่า สิ่งที่คว้ามาได้กลับมีเพียงความว่างเปล่า เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดพวกเขาจึงได้มีสีหน้าที่วิตกกันได้ถึงเพียงนี้

“อันที่จริง ข้างเกรงว่าจะมีเพียง… มีเพียงนิกายลึกลับเท่านั้นที่สามารถจดจำผังค่ายกลยันต์อักขระภายในหม้อได้” โม่หลานไห่คล้ายจะนึกบางสิ่งออก ท่าทางแปลก ๆ ประกอบกับใบหน้าลังเลแสดงถึงความละล้าละลังอยู่ไม่น้อย

ท้ายที่สุด เขาก็ไม่ได้พูดชื่อที่ติดอยู่ในใจออกไป หากแทนที่มันด้วยคำว่า ‘นิกายลึกลับ’ แทน

ถ้งอย่างนั้น พวกเขาต่างก็เข้าใจเมื่อได้ฟัง การแสดงออกแปลก ๆ ผุดพรายผ่านสีหน้าไม่ต่างกัน มันเต็มไปด้วยความนบนอบระคนสงสัย

“คารวะอาจารย์” ตอนนั้นเอง เสียงที่เปี่ยมไปด้วยความเคารพก็ดังขึ้นมาจากด้านนอกของห้องโถง

ทุกคนในห้องโถงเบือนสายตาไปยังต้นเสียง ภาพตรงหน้าคือชายหนุ่มในชุดสีดำ ท่าทางสง่างามและผ่าเผย มองเพียงแวบเดียว พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนผู้นี้คือหลิงซู่ ศิษย์ผู้กำลังบ่มเพาะเต๋าแห่งโอสถในความดูแลของเสิ่นฮ่าวเทียน

“มีเรื่องอะไรหรือ?” เสิ่นฮ่าวเทียนขมวดคิ้ว

หลิงซู่พูดอย่างร้อนใจ “มีข่าวบางอย่างที่สั่นสะเทือนไปทั้งภูเขาภารกิจเมื่อไม่นานมานี้ขอรับ ข้าน้อยเห็นว่ามันจำเป็นต้องรายงานให้ท่านอาจารย์ทราบ”

ชายหนุ่มเล่าเรียงถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

“เฉินซีน่ะหรือ?”

“ปราชญ์ค่ายกลยันต์อักขระชั้นยอด?”

“เขาเนี่ยนะสามารถทำภารกิจของเต๋าแห่นยันต์อักขระได้สำเร็จถึงเก้าสิบครั้งภายในหกชั่วยาม?”

“ภารกิจเหล่านั้นล้วนแต่เป็นภารกิจระดับสูง?”

เมื่อบรรดาผู้อาวุโสฟังเรื่องราวเหล่านี้จนจบ พวกเขาก็ไม่อาจสงบใจได้อีกต่อไป เสียงอุทานด้วยความตกใจดังระงมไปทั้งห้องโถง

“นี่เรื่องจริงอย่างนั้นหรือ?” เซวียนหยวนถงผุดลุก และถามอีกฝ่ายทั้งน้ำเสียงตื่นเต้น

“เป็นความจริงขอรับ เรื่องนี้ข้าน้อยได้ตรวจสอบด้วยตัวเองก่อนจะมาที่นี่ ทว่า ข้าน้อยกลับไม่อาจระบุตัวตนของคนที่ชื่อเฉินซีได้” หลิงซู่ตอบด้วยความลังเลใจ

ตอนนั้นเอง ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ในห้องโถงก็เข้าใจในทันที ใช่แล้ว ที่สำนักศึกษาของเรามีปราชญ์ค่ายกลยันต์อักขระชั้นยอดนามว่าเฉินซีอยู่อีกคนไม่ใช่หรือ?

“ไม่จำเป็นต้องคาดเดาให้เสียเวลา หากนี่เป็นเรื่องจริง ก็ย่อมต้องเป็นเฉินซี อันดับหนึ่งในหมู่ศิษย์รุ่นใหม่ไม่ผิดแน่” เสิ่นฮ่าวเทียนพูดทั้งแววตาเปล่งประกายชอบกล

อันดับหนึ่งในหมู่ศิษย์รุ่นใหม่อย่างนั้นหรือ? บรรดาผู้อาวุโสล้วนกระจ่างแจ้ง พวกเขารู้ดีว่าใครคืออันดับหนึ่งในบรรดาศิษย์ของปีนี้ เพราะตั้งแต่บรรพกาล นอกจากอวิ๋นฝูเซิง ที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนแล้ว ก็มีเพียงเฉินซีเท่านั้นที่ได้รับการสรรเสริญจากทวยเทพเหนือกว่าระดับฟ้าดินร้องสอดประสาน!

เหตุผลที่พวกเขาไม่เคยนึกถึงเฉินซีมาก่อน นั่นก็เพราะเห็นว่าเฉินซียังอยู่ในขอบเขตเซียนลึกลับขั้นกลางเท่านั้น จึงไม่กล้าแม้แต่มองว่าอีกฝ่ายจะเป็นถึงปราชญ์ค่ายกลยันต์อักขระชั้นยอดเสียด้วยซ้ำ แม้แต่ตอนนี้ คนทั้งหลายก็ยังคงคลางแคลงใจไม่น้อย

ยิ่งเป็นจั่วชิวเซิงด้วยแล้ว สีหน้ากลับไม่สู้ดีนักยามได้ยินคำว่าเฉินซี จนอดไม่ได้ที่จะเม้มปากคว่ำด้วยความรู้สึกเดียดฉันท์ระคนเหยียดหยาม

เพียงครู่เดียว จั่วชิวเซิงก็กลับมาสงวนท่าทีนุ่มลึกตามเดิม “เฉินซีจะเป็นปราชญ์ค่ายกลยันต์อักขระชั้นยอดแล้วอย่างไร? ไม่เป็นแล้วอย่างไร? นี่พวกท่านคิดกันจริง ๆ น่ะหรือ ว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ขอบเขตเซียนลึกลับขั้นกลางเช่นนั้นจะสามารถซ่อมแซมหม้อสมบัติเก้าลึกล้ำได้?”

สิ้นคำพูด ห้องโถงก็ตกอยู่ภายใต้ความเงียบทันที

ลองคิดดูเอาเถิด แม้แต่ปราชญ์ค่ายกลยันต์อักขระชั้นยอดทั้งหลายของสำนักศึกษายังจนปัญญา แล้วจะไปคาดหวังอันใดกับเด็กหนุ่มที่เป็นเพียงศิษย์ในสำนักศึกษาคนหนึ่งเล่า

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ การที่เฉินซีมาถึงจุดนี้ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ก็ย่อมหมายความว่าเขาเป็นผู้ที่โดดเด่นในเต๋าแห่งยันต์อักขระเหนือผู้ใด ดังนั้น ข้าจะลองไปพบเขาดูสักครั้ง หากเขาสามารถแก้ปัญหานี้ได้ ข้า เซวียนหยวนถง ยินดีจ่ายด้วยทุกสิ่งไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม” ฉับพลันนั้น เซวียนหยวนถงหยัดตัวขึ้นพร้อมกับความตั้งใจที่จะเดินออกไปนอกห้องโถง

คนอื่น ๆ ส่ายหน้าพลางถอนใจเบา ๆ เซวียนหยวนถงบัดนี้ไม่ต่างอะไรกับคนป่วยใกล้ตายที่กระเสือกกระสนทุกทางเพื่อตามหาวิธีรักษา เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้หุนหันพลันแล่นอยู่ประมาณหนึ่ง

“ช้าก่อน!” เสิ่นฮ่าวเทียนยั้งเซวียนหยวนถงไว้ “ภารกิจนี้ข้าได้มอบหมายเป็นที่เรียบร้อย ไม่นานเจ้าหนุ่มคนนั้นต้องเห็นมันอย่างแน่นอน หากเขาสามารถแก้ไขมันได้จริง มีหรือที่เขาจะไม่สนใจ? รางวัลสำหรับภารกิจนี้คือแต้มดาราจำนวนแปดแสนดวง คงไม่มีศิษย์ใหม่คนใดที่เห็นสิ่งนี้แล้วจะไม่สนใจหรอก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]