บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1180

สรุปบท บทที่ 1180 หม้อสมบัติเก้าลึกล้ำ: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

บทที่ 1180 หม้อสมบัติเก้าลึกล้ำ – ตอนที่ต้องอ่านของ บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]

ตอนนี้ของ บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] โดย novelones ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1180 หม้อสมบัติเก้าลึกล้ำ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 1180 หม้อสมบัติเก้าลึกล้ำ

บทที่ 1180 หม้อสมบัติเก้าลึกล้ำ

ลู่ถิงกำลังจะเอ่ยคำ ทันใดนั้นใบหน้าก็แข็งค้างไป ทำอะไรไม่ถูกจนน่าสงสาร

โชคดีที่ไม่มีใครสนใจเขาในตอนนี้ เพราะมีตัวอักษรสีทองแถวหนึ่งปรากฏขึ้นอยู่บนม่านแสงใจกลางห้องโถง

“รางวัลภารกิจฟื้นฟูผังค่ายกลยันต์อักขระได้รับความเสียหายสูง รางวัลหนึ่งพันแต้มดารา ระดับความสำเร็จ สมบูรณ์ สำนักศึกษามอบให้อีกหนึ่งร้อยแต้มดารา! ผู้มอบภารกิจมอบให้อีกหนึ่งร้อยแต้มดารา”

วิ้ง~

ตัวอักษรแถวนั้นเพิ่งปรากฏขึ้นเพียงครู่เดียวก็แปรเปลี่ยนเป็นแสงสีทองแล้วหายไป พร้อมกับภารกิจนั้น เห็นได้ชัดว่าภารกิจเสร็จสมบูรณ์แล้ว!

ถึงแม้ว่ามันจะปรากฏเพียงพริบตาเดียว แต่ทุกคนในห้องโถงก็เห็นมันอย่างเด่นชัด ภารกิจนั้นเป็นภารกิจที่เฉินซีทำ!

ไม่ใช่เพียงทำภารกิจได้สำเร็จ แต่ยังทำได้สำเร็จอย่างสมบูรณ์เสียด้วย?

สำนักศึกษาและผู้มอบภารกิจมอบเพิ่มให้อีกคนละหนึ่งร้อยแต้มดาราเลยหรือ?

ทุกคนตกตะลึงจนนิ่งอึ้งไป แทบไม่อยากเชื่อสองตาตนเอง

ภารกิจทั้งหลายถูกแยกโดยระดับความสำเร็จทั้งหมดสามระดับ ได้แก่ธรรมดา โดดเด่น และสมบูรณ์

ผู้ที่สามารถทำภารกิจได้สำเร็จขั้นพื้นฐานก็จะได้รับแต้มดาราตอบแทนตามที่กำหนด

ผู้ที่ทำภารกิจได้สำเร็จขั้นโดดเด่น ซึ่งหมายความว่าผู้มอบภารกิจพึงพอใจกับผลลัพธ์มาก ก็จะมอบแต้มดาราเพิ่มเป็นรางวัลให้อีกส่วนหนึ่ง

แต่ถ้าอยากได้ขั้นสมบูรณ์ก็จะต้องมีเกณฑ์ที่ต้องทำให้ได้อยู่อีก อย่างแรกคือ จะต้องทำภารกิจสำเร็จในขั้นโดดเด่น และอย่างที่สองคือต้องทำภารกิจให้เสร็จภายในหนึ่งวัน

หรือก็คือใครก็ตามที่สามารถทำตามเงื่อนไขสองข้อนั้นได้ ก็จะได้รับการยอมรับจากสำนักศึกษา และจะได้รับแต้มดาราเพิ่มอีกด้วย!

และแน่นอนว่าแต้มดาราเหล่านั้นเป็นของขวัญที่สำนักศึกษามอบให้!

ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!

คนในห้องโถงยังไม่ทันหายตกใจ ตัวอักษรสีทองก็ปรากฏขึ้นบนม่านแสงอีกครั้ง

“ภารกิจสกัดอักขระ ยืนยันของรางวัลหนึ่งพันแต้มดารา ระดับความสำเร็จ สมบูรณ์ สำนักศึกษามอบให้อีกหนึ่งร้อยแต้มดารา! ผู้มอบภารกิจมอบให้อีกหนึ่งร้อยแต้มดารา”

“…รางวัลสามพันแต้มดาราสำหรับการทำภารกิจไขปัญหาผังค่ายกลยันต์อักขระลึกลับได้รับการยืนยันแล้ว”

“…”

ตัวอักษรสีทองกะพริบอยู่บนม่านแสงไม่หยุด เมื่อแถวหนึ่งหายไป อีกแถวก็ปรากฏ ภารกิจกว่าครึ่งทำสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์ทั้งสิ้น!

ที่สำคัญคือ ทุกภารกิจที่ว่าคือภารกิจที่เฉินซีทำก่อนหน้านี้!

ภารกิจส่วนน้อยที่ไม่ได้สำเร็จขั้นสมบูรณ์ก็ยังอยู่ในขั้นโดดเด่น ไม่มีภารกิจที่สำเร็จในขั้นธรรมดาแมัแต่ภารกิจเดียว

สาเหตุที่ภารกิจเหล่านี้อยู่ในขั้นโดดเด่นแต่ไม่ถึงขั้นสมบูรณ์ไม่ได้มาจากเฉินซี แต่เป็นเพราะภารกิจปล่อยออกมานานแล้ว เวลาผ่านไปเกินหนึ่งวันก่อนที่เฉินซีจะรับภารกิจมาทำเสียอีก

แสงสีทองที่กะพริบอยู่บนม่านแสงนั้นสว่างจ้า กะพริบระยิบระยับไม่ขาด

ทุกคนในห้องโถงมีสีหน้ามึนงง ยืนนิ่งราวกับรูปปั้น

อีกทั้งบรรยากาศโดยรอบยังเงียบสนิท

ไร้สุ้มเสียงใด

“ไม่มีแม้แต่ภารกิจเดียวที่ทำสำเร็จระดับธรรมดา! เก่งกล้าเสียจริง! เฉินซีผู้นี้เป็นปราชญ์ค่ายกลยันต์อักขระมากความสามารถ!”

“ความสำเร็จขั้นสมบูรณ์นับว่าหาได้ยาก หากมีใครบอกว่าภารกิจเหล่านี้ไม่ใช่ปราชญ์ค่ายกลยันต์อักขระเป็นผู้ทำ ตีให้ตายข้าก็คงไม่เชื่อ”

“แปลกจริง ในเมื่อเฉินซีเป็นปราชญ์ค่ายกลยันต์อักขระผู้เลิศล้ำ เหตุใดจึงสนใจทำภารกิจเช่นนั้นด้วย? รางวัลสูงที่สุดมีเพียงสามพันแต้มดาราเท่านั้นเอง…”

เวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป ตัวอักษรสีทองบนม่านแสงจึงหายไป กลับคืนสู่ความปกติ ทุกคนจึงเหมือนตื่นขึ้นจากฝัน แต่ยังไม่อาจดับความตกตะลึงในใจไว้ได้

“ลืมเรื่องพวกนั้นไปเสียเถอะ ที่ข้าอยากรู้ตอนนี้คือเฉินซีเป็นใครกันแน่?” ใครคนหนึ่งมุ่นคิ้วถาม

ทุกคนจึงชะงักไป นั่นสิ เฉินซีเป็นใครกันแน่?

หม้อยานี้เป็นสมบัติอมตะระดับว่างเปล่าที่มีมาตั้งแต่ครั้งบรรพกาล จักรพรรดิเต๋าเป็นผู้สร้างมันขึ้น จนถึงตอนนี้มันก็อยู่ในฝ่ายสงวนโอสถมานานจนไม่อาจนับ เคยกลั่นยาเม็ดจิตวิญญาณและสมุนไพรลึกลับมามากมาย ช่วยให้ทั้งศิษย์และอาจารย์ทั้งหลายสามารถข้ามขอบเขตได้มานับไม่ถ้วน…

แต่ตอนนี้หม้อยากลับได้รับความเสียหาย!

แม้ทุกคนในที่นี้จะเป็นผู้อาวุโสภายในสำนักศึกษา แต่ในใจก็ยังอดรู้สึกเป็นกังวลไม่ได้อยู่ดี

“น่าเสียดายที่ผู้อาวุโสบู่ผิง ซึ่งเป็นเทพยันต์อักขระคนเดียวในสำนักศึกษา ออกจากสำนักไปท่องเที่ยวสามภพแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับ ไม่เช่นนั้นก็คงใช้ความสามารถในเต๋าแห่งยันต์อักขระแก้ปัญหานี้ได้อย่างง่ายดายไปแล้ว” ชายวัยกลางคนชุดม่วงส่ายหน้าแล้วหัวเราะเสียงขื่น จากนั้นครุ่นคิดอยู่นานแล้วเอ่ยขึ้น “จริง ๆ แล้วเรื่องนี้เราน่าจะขอความคิดเห็นจากอาจารย์ใหญ่ หากเราขอให้เขาช่วยลงมือได้ เช่นนั้นก็คงสามารถซ่อมหม้อยาได้โดยง่าย”

“นั่นก็จริง แต่อาจารย์ใหญ่นั้นยากจะหยั่งถึง เราควรไปหาเขาที่ใดกัน? อีกทั้งข้ายังเกรงว่าเซวียนหยวนพัวจวินอาจถูกถลกหนังหากอาจารย์ใหญ่รู้เรื่องนี้เข้า” รองอาจารย์ใหญ่ฝ่ายสงวนโอสถโม่หลิงไห่ส่ายหน้า เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นด้วยกับความคิดของชายวัยกลางคนชุดม่วง

“หึ! ข้าคิดว่าเราควรบอกเซวียนหยวนพัวจวิน ให้มาขอโทษและรับโทษจากอาจารย์ใหญ่เสีย เขาเป็นคนทำ ก็ต้องเป็นคนรับผลของมันสิ” จั่วชิวเซิงคำรามเสียงเย็นชา ดูแล้วไม่ชอบใจกับการกระทำของเซวียนหยวนพัวจวินเท่าใดนัก

เป็นตอนนั้นเองที่ประตูห้องโถงถูกผลักเปิดออกพร้อมกับคนร่างสูงเดินเข้ามา เขามีท่าทีสูงสง่า มีผมสีดอกเลา อาจารย์ใหญ่ฝ่ายสงวนโอสถ เสิ่นฮ่าวเทียนนั่นเอง

แต่ตอนนี้ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความโกรธ เมื่อเข้าห้องโถงมาก็เอ่ยเสียงต่ำ “ใครเป็นคนมอบภารกิจซ่อมหม้อสมบัติเก้าลึกล้ำ?”

ทุกคนชะงักไป จากนั้นก็ตกตะลึง หม้อสมบัติเก้าลึกล้ำเป็นสมบัติล้ำค่าของฝ่ายสงวนโอสถ ข่าวที่มันเสียหายจึงถูกปิดบังไว้เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องใดขึ้น

แต่จากที่เสิ่นฮ่าวเทียนว่ามาเมื่อครู่ ดันมีคนเอาเรื่องนี้ไปประกาศเป็นภารกิจอย่างนั้นหรือ? เจ้าหมอนั่นรนหาที่ตายเสียแล้ว!

สีหน้าคนทั้งหลายดูไม่น่ามองอยู่พักหนึ่ง บรรยากาศทั้งหนักหน่วงและกดดันเป็นอย่างยิ่ง

“ข้าเอง” แต่ท่ามกลางความเงียบนั้น จั่วชิวเซิงลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยด้วยสีหน้าตรงไปตรงมา “ข้าทำไปก็เพื่อแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด อย่างไรเรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งปิดไม่มิด เหตุใดไม่รวมพลังของคนทั้งสำนักมาช่วยกันแก้ปัญหาเล่า?”

ทันทีที่พูดจบ ทุกสายตาก็มองมาทางจั่วชิวเซิงด้วยอารมณ์อันหลากหลาย

“ไร้สาระ!” ชายวัยกลางคนชุดม่วงผุดลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธ ก่อนเอ่ยเสียงเครียด “ขนาดเรายังหาทางแก้ไม่ได้ จะมีอาจารย์หรือศิษย์คนใดที่สามารถแก้ได้เล่า? การกระทำของเจ้าหวังโยนปัญหาให้เซวียนหยวนพัวจวินชัด ๆ !”

“เซวียนหยวนถง เจ้าหมายความว่าอย่างไร? หรือการที่ผู้อื่นพยายามหาวิธีแก้ปัญหาที่ญาติของเจ้าก่อไว้ จะเป็นการเหยียดหยามตระกูลเซวียนหยวนอย่างนั้นหรือ?” จั่วชิวเซิงพลันหันไปมองชายวัยกลางคนชุดม่วงด้วยความไม่พอใจ

“พอได้แล้ว!” อาจารย์ใหญ่ฝ่ายสงวนโอสถเสิ่นฮ่าวเทียนเห็นทั้งสองกำลังจะปะทะคารมกันก็มุ่นคิ้วทันที เอ่ยหยุดทั้งสองด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เรื่องมันเกิดไปแล้ว พวกเจ้าไม่คิดจะแก้ปัญหา ยังมีอารมณ์มายืนเถียงกันอีกหรือ? เช่นนี้จะให้คนอื่นคิดอย่างไร!?”

มันเป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยแววคำถามและแววตำหนิ

เห็นได้ชัดว่าเสิ่นฮ่าวเทียนโกรธเกรี้ยวจริง ๆ แล้ว!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]