บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1193

บทที่ 1193 เบญจธาตุขั้นสมบูรณ์

บทที่ 1193 เบญจธาตุขั้นสมบูรณ์

ครั้นพวกเขาเห็นว่าแผ่นหลังของหลิวอี่หมิงลับสายตา เสียงสนทนาเซ็งแซ่ก็อื้ออึงไปทั้งโถงผู้คุมกฎ

“พี่ใหญ่ ดูเหมือนการปล่อยเรื่องนี้ให้นางจัดการจะไม่เหมาะนัก ท่านเห็นด้วยหรือไม่?” ศิษย์ผู้หนึ่งของโถงผู้คุมกฎพูดขึ้น คนผู้นั้นสวมกวานทรงสูงและเสื้อผ้าที่ดูเก่าเกินสมัย ดวงหน้าแคบและยาว ก่อนหน้านี้มีคนเรียกเขาว่าจั่วชิวฉวน ใช่แล้ว คนผู้นี้คือน้องชายแท้ ๆ ของจั่วชิวจวิน

“ให้นางลงมือไปก่อน หากพลาด ผู้อาวุโสก็จะเป็นฝ่ายเคลื่อนไหว มันเป็นกฎที่พูดไม่ได้เมื่อศิษย์ใหม่เข้ามาภายในสำนักศึกษา ตราบใดที่พวกเขาเข้าร่วม ก็ไม่มีทางหลีกเลี่ยงการเป็นส่วนหนึ่งของกฎนี้ไปได้”

“แล้วถ้าหากไม่มีผู้ใด้สามารถกำราบเฉินซีเล่า?” จั่วชิวฉวนพูดด้วยความลังเล เปลวไฟไม่ไร้ควันฉันใด การที่เฉินซีได้เป็นศิษย์ใหม่อันดับหนึ่งก็ย่อมแปลว่าความสามารถของคนผู้นี้เป็นเรื่องจริงฉันนั้น

ดวงตาของจั่วชิวจวินฉายแววเย็นชา “หากเราไม่สามารถหาคนที่เหมาะสมซึ่งมีขอบเขตการบ่มเพาะในระดับเดียวกันได้ เช่นนั้นเราก็จะส่งผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนทองคำลงไป!”

จั่วชิวฉวนอดพูดขึ้นมาอย่างกระดากอายไม่ได้ “หกในสิบส่วนของศิษย์ฝ่ายนอกทั้งแปดพันคนล้วนอยู่ในขอบเขตเซียนลึกลับ ในขณะที่ทั้งหมดของศิษย์จำนวนหกในสิบส่วนนี้อยู่ในระดับสมบูรณ์ทั้งสิ้น บางคนมีระดับการบ่มเพาะเท่าเดิมมากว่าร้อยปีแล้ว ขณะที่บางคนอยู่เช่นนั้นมาหลายสิบปีแล้ว ยิ่งอยู่มานานเท่าไร ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น…”

จั่วชิวจวินขัดจังหวะโดยการถามอย่างตรงไปตรงมา “เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ในบรรดาผู้อาวุโสขอบเขตเซียนลึกลับทั้งหมด ผู้ใดมีความแข็งแกร่งในการต่อสู้มากที่สุด?”

จั่วชิวฉวนชะงัก ก่อนจะตอบอย่างไม่ลังเล “ต้องเป็นหนิงเมิ่งอย่างแน่แท้!”

เมื่อชื่อนี้ถูกเอ่ยถึง ภาพของบุรุษหนุ่มรูปงามที่มีลักษณ์คล้ายสตรีก็ปรากฏขึ้นในมโนสำนึกทันที

“หนิงเมิ่งหรือ?” จั่วชิวจวินพูดทวนอีกครั้งและพยักหน้า “นอกจากเขามีใครอีกหรือไม่?”

จั่วชิวฉวนสูดหายใจลึกเพื่อไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน “หากเป็นคนอื่นก็มีซิงเยวียนหัง กงหยางหลงเฟ่ย วังเหวินเยวียน ลี่เหวินชง…”

“จดชื่อไว้ให้หมด ข้าจะส่งคนไปพบพวกเขา” ท่าทางของจั่วชิวจวินยังคงไม่เปลี่ยนแปลง มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่ฉาบประกายมืดมน

ภายในเคหาระดับจักรพรรดิบนภูเขาเมฆาไพศาล เฉินซีกำลังหมกมุ่นกับมรดกจากยันต์เทวะอนันต์อย่างลึกซึ้ง

ในปัจจุบัน กฎแห่งมหาเต๋าที่ตนครอบครองประกอบด้วยธาตุทั้งห้า หยินหยาง วายุ สายฟ้า ดารา นิรันดร์ โชคชะตา การลืมเลือน การกลืนกิน และอื่น ๆ เป็นต้น

กฎแห่งมหาเต๋าทุกอย่างสามารถรับพลังที่มาจากมรดกจากยันต์เทวะอนันต์ได้

มรดกประเภทนี้สำแดงให้เห็นถึงความลึกล้ำของกฎอย่างชัดแจ้ง มันเป็นรูปร่าง เป็นอักขระยันต์ก่อนจะหลอมรวมเข้ากับปราณกระบี่ด้วยพลังอันน่าเหลือเชื่อ

ทว่าจนถึงตอนนี้ เฉินซีกลับบรรลุแค่เคล็ดกระบี่วารี และเคล็ดกระบี่อัคคีเท่านั้น

“เคล็ดกระบี่อัคคี!” ตอนนั้นเอง เฉินซีเงยหน้าขึ้นก่อนจะตะโกนด้วยเสียงทุ้ม นิ้วก่อรูปร่างของกระบี่ขึ้นมาขณะที่ชี้ออกไปยังเบื้องหน้า

กลุ่มของเปลวเพลิงพลันปรากฏขึ้นกลางอากาศ ขณะลอยสูงขึ้นไป พวกมันกลายเป็นทะเลหินหนืดที่ปะทุออกมาจากภูเขาไฟ เกลียวคลื่นอัดแน่นไปด้วยพลังงานมหาศาล ฉวัดเฉวียน และยากต่อการควบคุม มันแผดเผาอากาศและหลุมดำให้แหลกสลายในพริบตา

อย่างไรก็ตาม ที่นี่คือโลกแห่งดารา กฎแห่งมิติภายในดินแดนแห่งนี้ลึกลับและมั่นคงแข็งแกร่ง หากการโจมตีเมื่อครู่ของเฉินซีเกิดขึ้นในโลกภายนอก ฉากอันน่าสยดสยองของผืนอากาศและท้องฟ้าที่ถูกเพลิงผลาญก็คงปรากฏขึ้นไปทั่วทุกหย่อมหญ้า!

“สำเร็จ!” เฉินซีเผยสีหน้ายินดี “ทั้งกระบวนท่าเปลวอัคคีลุกโหม ม่านพิรุณเพลิง และทะเลเพลิงโลกันตร์ได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์ ในอนาคตมันจะต้องกลายเป็นพลังที่น่าเกรงขามกว่านี้แน่”

เช่นเดียวกับเคล็ดกระบี่วารี เมื่อเคล็ดกระบี่อัคคีบรรลุสู่ขั้นสมบูรณ์ กระบวนท่าทั้งหมดจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ด้วยคำสั่งจากเบื้องลึกของดวงจิต การโจมตีในแต่ละครั้งจะเปิดเผยรูปแบบต่าง ๆ ของกฎแห่งอัคคี โดยที่ตัวมันนั้นจะไม่ถูกควบคุมผ่านการเคลื่อนไหวใด ๆ

ข้าบรรลุเคล็ดตกทอดแห่งวารีและอัคคีปรุโปร่งแล้ว แต่นั่นยังไม่อาจทำให้ความแข็งแกร่งเปลี่ยนแปลงไปมากนัก เฉินซีครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะสลัดความรู้สึกลังเลใจออกไปและเริ่มทำความเข้าใจเคล็ดกระบี่พฤกษา เคล็ดกระบี่ทองคำ และเคล็ดกระบี่พสุธา…

สิ่งสำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ หากผู้ใดต้องการได้รับมรดกจากยันต์เทวะอนันต์ คนผู้นั้นจะต้องเริ่มทำความเข้าใจต่อมรดกแรกเสียก่อน จึงจะสามารถเข้าใจสิ่งอื่น ๆ ต่อไปได้

สำหรับเฉินซี ด้วยประสบการณ์จากการบรรลุเคล็ดกระบี่วารีและเคล็ดกระบี่อัคคี ก็อาจกล่าวได้ว่า ตนมีความคุ้นเคยต่อเรื่องเช่นนี้อย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้น ความเชี่ยวชาญยังเพิ่มทวีจากการบรรลุดังกล่าว

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ชายหนุ่มใช้เวลาในการบรรลุเคล็ดกระบี่วารีประมาณสองสามเดือน แต่ตอนนี้กลับสามารถบรรลุเคล็ดกระบี่อัคคีได้อย่างสมบูรณ์ภายในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน

เช่นนั้น เวลาข้างต้นก็เป็นเวลาที่เกิดขึ้นภายในโลกแห่งดารา หากเทียบกับโลกจริงแล้ว เวลาก็คงจะเดินช้าลงไปประมาณห้าเท่า

15 วันของโลกแห่งดาราผ่านไป

ฟึ่บ!

ปราณกระบี่ที่ล้นไปด้วยรัศมีสีเขียวอันไร้ขอบเขตพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ไม่ว่ามันจะเคลื่อนผ่านไปยังที่ใด คลื่นพลังของมันก็จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราวกับว่ายิ่งเวลาผ่านพ้น ความแข็งแกร่งก็จะยิ่งเพิ่มพูน…

เคล็ดกระบี่พฤกษาขั้นสมบูรณ์ การเติบโตอันไร้สิ้นสุด!

สิบวันต่อมาในโลกแห่งดารา

หึ่ง!

เสียงเล็กแหลมอย่างเสียงกระพือปีกของฝูงผึ้งก้องกัมปนาท สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั้งแผ่นฟ้าด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัว ปราณกระบี่สีทองคมกริบปรากฏขึ้น มันเฉือนกระชากอากาศออกเป็นสองส่วนอย่างง่ายดายราวกับกำลังฉีกทึ้งกระดาษแผ่นบาง!

การโจมตีของกระบี่ครั้งนี้เดินทางมาถึงขีดจำกัดทั้งในด้านความคม ความเร็ว และความแข็งแกร่งเป็นที่เรียบร้อย มันถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะจรดกระบี่ลงยังแห่งใด ความล้ำลึกของกฎแห่งทองก็สำแดงถึงพลังขั้นสูงสุดออกมาได้อย่างเต็มกำลัง!

มหาเต๋าแห่งทองนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของจิตสังหารอันเฉียบคม

ทั้งความเร็ว ความแข็งแกร่ง และความคมของมันนับว่าสูงที่สุดในบรรดาธาตุทั้งห้า การโจมตีด้วยกระบี่ที่มีกฎแห่งทองแฝงอยู่นั้น การเคลื่อนไหวของมันเรียกได้ว่าเร็วประหนึ่งเคลื่อนย้ายผ่านมิติ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะต้านทานการโจมตีนี้ได้อย่างทันท่วงที!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]