บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1199

บทที่ 1199 บดขยี้คู่ต่อสู้

บทที่ 1199 บดขยี้คู่ต่อสู้

เขตเซียนลึกลับ ลานบำเพ็ญเต๋า

ผู้คนมากมายจับจองเต็มพื้นที่ ที่นั่งใกล้เคียงเองก็เต็มไปนานแล้ว นอกจากศิษย์อาวุโสฝ่ายนอก ยังมีศิษย์และอาจารย์ใหม่อีกหลายคน รวมตัวกันเป็นกลุ่มคนหนาแน่นคึกคัก

ทุกสายตาจับจ้องไปที่ลานด้านล่าง พวกเขากำลังจ้องมองคนทั้งเจ็ด ด้วยสีหน้าหลากหลาย

ศิษย์อาวุโสรู้สึกประหลาดใจและขมวดคิ้ว

ศิษย์ใหม่ต่างตื่นเต้น

เหล่าผู้ฝึกสอนมีรอยยิ้มเต็มใบหน้าที่แฝงให้เห็นความประหลาดใจและความอยากรู้อยากเห็น

“อันดับหนึ่งของปีนี้ เฉินซีผู้นี้น่าทึ่งอย่างแท้จริง ตอนที่เขาเข้ามาในสำนักศึกษา เหล่าผู้อาวุโสของสำนักศึกษาต่างหมายมั่นหวังดึงคนผู้นี้มาเป็นศิษย์ของตน ในเวลาไม่ถึงสองเดือน เขาก็สร้างความฮือฮา สั่งสมชื่อเสียงอันยอดเยี่ยม และทำให้เกิดการถกเถียงกันมากมาย ช่างเป็นตัวตนที่โดดเด่นจริง ๆ”

“ต้นไม้ที่สูงมากไปสักวันคงจะถูกลมพัดโค่นในที่สุด บางทีชายหนุ่มที่โดดเด่นเกินไปผู้นี้ อาจจะทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ศิษย์อาวุโส และทำให้พวกเขาอยากจะสอนบทเรียนให้ตามธรรมเนียมของสำนักให้ แต่ตอนนี้ มันไม่ง่ายเลยที่จะเอาชนะคนผู้นี้ได้”

“เจ้าคิดว่าเขาจะชนะในสถานการณ์เช่นนี้หรือ?”

“มารอดูกัน”

เสียงการสนทนาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“พี่เฉิน ท่านต้องชนะ! เอาชนะศิษย์พี่เหล่านั้นและนำเกียรติยศมาสู่ศิษย์ใหม่อย่างเรา!”

เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังก้องไปทั่วบริเวณโดยรอบอย่างกะทันหัน มันกระตุ้นขวัญศิษย์ใหม่หลายคน ทำให้พวกเขาพากันส่งเสียงให้กำลังใจเฉินซี

แต่ศิษย์อาวุโสกลับขมวดคิ้ว และส่งเสียงฮึดฮัดอย่างไม่พอใจ

“เฮอะ ดูเหมือนว่าชื่อเสียงของเด็กคนนี้ ในหมู่ศิษย์ใหม่จะยิ่งใหญ่เสียจริง”

ในบริเวณที่ศิษย์อาวุโสรวมตัวกัน กลุ่มชายและหญิงรายล้อมชายหนุ่มผู้สวมชุดสีดำ ราวกับดวงดาวรายล้อมดวงจันทร์

ชายหนุ่มชุดดำคนนี้มีท่าทางเหมือนสตรี และมีใบหน้าน่าหลงใหล มุมปากโค้งเปล่งประกายเย็นชาราวกับใบมีด เขาเป็นเหมือนนกกระเรียนที่ยืนอยู่ท่ามกลางดงไก่ ดูสะดุดตาโดดเด่นจากฝูงชน

คนผู้นี้คือหนิงเมิ่ง ผู้เยี่ยมยุทธ์อันดับหนึ่งในหมู่ศิษย์อาวุโสขอบเขตเซียนลึกลับของสายนอก!

“ไม่ว่าชื่อเสียงของเขาจะยิ่งใหญ่เพียงใด แต่วันนี้เขาจะต้องจากไปด้วยความพ่ายแพ้ ธรรมเนียมของสำนักไม่อาจพังลงในรุ่นของเรา”

ชายหนุ่มร่างสูงที่อยู่ข้าง ๆ พูดขึ้นอย่างสงบ คิ้วกว้างและจมูกตรง รูปหน้าดุร้ายและหยาบกร้าน ทุกคำพูดและท่าทางล้วนแฝงรัศมีอันทรงพลังไว้

ชายหนุ่มร่างสูงคนนี้มีนามว่า วังเหวินเยวียน เขายังเป็นบุคคลมีชื่อเสียงและน่าเกรงขามในหมู่ศิษย์อาวุโสขอบเขตเซียนลึกลับสายนอก

“รอดูไปก่อน” หนิงเมิ่งเหลือบมองวังเหวินเยวียนพลันพูดอย่างเคร่งขรึม แต่รัศมีรอบ ๆ ตัวของเขากลับดูอ่อนโยนยิ่ง

โอม~

ชายชราผมขาวก้าวมาด้านหน้าและดึงแผ่นยันต์ออก แล้วเปิดใช้งานข้อจำกัดรอบลานเต๋า

เมื่อทุกคนเห็นฉากนี้ เสียงพูดคุยโดยรอบพลันหยุดชะงัก บรรยากาศเงียบงัน ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ลานบำเพ็ญเต๋า เฝ้ารอการต่อสู้ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น

ปัง!

ในเวลาเดียวกันกับที่เปิดใช้งานข้อจำกัด หลิวอี่หมิงและคนอื่น ๆ ก็เปิดการโจมตีอย่างดุเดือด พวกเขาเรียกใช้สมบัติอมตะและพุ่งเข้าใส่เฉินซีอย่างบ้าคลั่ง

ทันใดนั้น พื้นที่ลานทั้งหมดก็เต็มไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์หลากหลาย เสียงคำรามของสมบัติอมตะ และเสียงของเต๋าก้องกังวานไปทั่ว ทำให้ความว่างเปล่าในบริเวณใกล้เคียงสั่นสะเทือนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เห็นได้ชัดว่า หลิวอี่หมิงและคนอื่น ๆ ทุ่มพละกำลังทั้งหมดทันทีเพื่อโจมตี และตั้งใจจะบดขยี้เฉินซีอย่างสมบูรณ์ มิฉะนั้น ยิ่งพวกเขาอยู่ภายใต้สายตาของฝูงชนมากเท่าใด มันอาจจะทำให้พวกเขารู้สึกอับอายมากขึ้นเท่านั้น

หัวใจของทุกคนสั่นไหว พวกเขาโจมตีอย่างสุดกำลังทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น การต่อสู้ครั้งนี้ต้องโหดร้ายอย่างยิ่ง และไม่มีที่ว่างให้คิดทบทวนใด ๆ อย่างแน่นอน

ฟุ่บ!

ละอองดาราขยายตัวห่อหุ้มเฉินซี ก่อนจะกลายเป็นดวงดาวมากมายส่งเสียงร้องคำรามดังก้อง มันหมุนเวียนล้อมรอบชายหนุ่มทั่วทุกทิศทาง

ละอองดาราสวรรค์ชิงชัง!

มันเป็นสมบัติอมตะที่สามารถสร้างกลุ่มเมฆหมอกละอองดาราขึ้นมาเพื่อบดขยี้ศัตรู เป็นสมบัติล้ำค่าที่ซิงเยวียนหังใช้แต้มดารา 1,800,000 แต้มแลกมา เขาเคยลังเลที่จะใช้มัน ทว่าตอนนี้ ถึงเวลาที่ต้องใช้มันแล้ว

เฉินซีรู้สึกประหลาดใจ ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาล กลับไม่หวั่นเกรงแต่อย่างใด ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยรัศมีศักดิ์สิทธิ์ ปีกกำราบผกผันคู่หนึ่งปรากฏขึ้นด้านหลัง พวกมันสั่นไหวก่อนที่แสงศักดิ์สิทธิ์กำราบธาตุจะปะทุออกมา

ปัง!

แสงศักดิ์สิทธิ์กำราบธาตุกวาดไปทั่วบริเวณ ระเบิดดาวดวงหนึ่งและจากนั้นมันก็พุ่งต่อไปข้างหน้า ทุกที่ที่มันผ่าน ความว่างเปล่าโดยรอบจะระเบิดส่งเสียงดังก้อง ดาวหลายดวงแตกร้าวและถูกบดขยี้

ทุกคนตกตะลึง แสงศักดิ์สิทธิ์กำราบธาตุอย่างล้ำลึก! นั่นคือสมบัติอมตะที่สามารถสามารถกวาดล้างธาตุทั้งห้าได้ เป็นเรื่องยากยิ่งที่จะรวบรวมพวกมันมาได้ แต่เฉินซีกลับขัดเกลามันให้กลายเป็นสมบัติอมตะแล้ว!

ซิงเยวียนหังส่งเสียงคำรามก้อง เขาไม่สนใจสมบัติของตัวเอง ดึงดาบสีแดงเข้มออกมาและพุ่งเข้าหาเฉินซีอีกครั้ง

ขวับ!

เฉินซีทิ้งภาพติดตาไว้เบื้องหลัง ชายหนุ่มไม่ถูกดาบของซิงเยวียนหังโจมตี ปีกกำราบผกผันที่อยู่ข้างหลังเปล่งประกายขณะเคลื่อนตัวผ่านความว่างเปล่าและหลบหนีจากการถูกล้อม

“คิดจะหนีหรือ? ไม่มีทาง!” กงหยางหลงเฟ่ยตะโกนอย่างเฉียบขาด

ปัง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]