บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1204

บทที่ 1204 ดังไกลไปทั่วสำนัก

บทที่ 1204 ดังไกลไปทั่วสำนัก

หลังออกจากฝ่ายบำเพ็ญเต๋ามาแล้ว เฉินซีก็บอกลาเหลียงเริ่นกับกู่เยวหมิงแล้วกลับไปยังเคหาของตน

หลังจากการต่อสู้ในวันนี้ ศิษย์อาวุโสสายนอกเหล่านั้นคงไม่มาหาเรื่องกันอีก ส่วนตัวเขายังต้องเตรียมตัวกับการสอบสายในต่อไป ว่าแล้วชายหนุ่มจึงนั่งขัดสมาธิ คิดย้อนถึงทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ก่อนจะตระหนักทราบว่าคงมีคนยุยงอยู่เบื้องหลัง ซึ่งชายหนุ่มไม่จำเป็นต้องหาคำตอบแต่อย่างใด ด้วยต้องเป็นตระกูลจั่วชิวที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี่แน่!

โชคดีว่าที่นี่คือสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า หากเป็นภายนอกก็คงต้องทนรับการโจมตีจากตระกูลจั่วชิวไม่หยุดหย่อน

ศิษย์พี่หญิงเคยกล่าวไว้ว่าเมื่อเป็นศิษย์แห่งสำนักศึกษาจักรพรรดิเต๋า ตระกูลจั่วชิวก็หาทางรับมือกับตัวเขาอย่างโจ่งแจ้งไม่ได้ ดังนั้นในช่วงที่อยู่ที่นี่ต้องใช้เวลาและพัฒนาตนเองให้ได้มากที่สุด

เวลา! ตอนนี้เขาขาดเวลามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแข็งแกร่งขึ้นหรือการแก้แค้นตระกูลจั่วชิว เวลาทุกช่วงขณะก็ต้องใช้ให้คุ้มค่า และเมื่อตระกูลจั่วชิวสัมผัสได้ว่าเขามีพลังข่มขู่พวกมันได้ อีกฝ่ายก็คงหาทางลงมืออีกแน่…

หลังจากคิดอยู่นาน เฉินซีก็สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วกลับคืนสู่ความสงบ ดำดิ่งลงสู่โลกแห่งดารา

ศึกต่อเนื่องในฝ่ายบำเพ็ญเต๋าวันนี้ทำให้ได้รับแต้มดาราจำนวนมาก สิ่งสำคัญคือเขาเข้าใจวิธีการทำให้พลังแห่งกฎทับซ้อนกันแล้ว

สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือทำความเข้าใจวิธีการทับซ้อนของกฎต่อไป เพิ่มความแข็งแกร่งในพลังต่อสู้โดยเร็ว

ขณะที่เฉินซีปิดด่านบ่มเพาะ ข่าวการต่อสู้ที่ฝ่ายบำเพ็ญเต๋าก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งสำนักศึกษาอย่างรวดเร็วราวกับติดปีก

“เด็กใหม่อันดับหนึ่งของสายนอก!”

“กระทั่งศิษย์พี่หลิวเจ๋อเฟิงที่อยู่อันดับแปดเทียบอันดับทองคำมวลสวรรค์ยังประมือสู้เขาไม่ได้เลย นับเป็นตัวตนขอบเขตเซียนลึกลับที่เก่งหาผู้ใดเปรียบ”

“ใครกัน?”

“เจ้าโง่ ก็ต้องเป็นเฉินซีน่ะสิ!”

บทสนทนาเช่นนี้ไม่ได้มีเฉพาะในสายนอก กระทั่งสายใน ฝ่ายสงวนโอสถ ฝ่ายสงวนคัมภีร์ และสถานที่อื่น ๆ ก็เต็มไปด้วยบทสนทนานี้ เหมือนก้อนหินที่สร้างคลื่นน้ำมากมาย ทำให้ชื่อเสียงของเฉินซีโด่งดังเหมือนตะวันกลางแจ้ง ทั้งศิษย์และอาจารย์จำนวนนับไม่ถ้วนต่างรู้จักคนผู้นี้

“เก่งหาผู้ใดเปรียบเช่นนั้นหรือ? ฮ่า ๆ ! ระหว่างบททดสอบรับศิษย์ เขาอยู่ขอบเขตเซียนลึกลับขั้นต้นแต่กลับผ่านการทดสอบทั้งสามรอบมาได้ หากทำไม่ได้ก็ไม่คู่ควรกับอันดับหนึ่งหรอก” ภายในเรือนพัก จี้เซวียนปิงมองข้อมูลที่เพิ่งได้รับมาแล้วระเบิดเสียงหัวเราะ จากนั้นก็เหมือนนึกบางอย่างได้แล้วพึมพำออกมา “ห่วงก็แต่ว่าจะสามารถเข้าสู่ขอบเขตเซียนทองคำภายในสองปีได้หรือไม่…”

“ตระกูลจั่วชิวอีกแล้วหรือ? น่าเสียดายที่สิ่งนี้กลับช่วยเพิ่มเกียรติยศให้เฉินซีแทน คิดจะทำร้ายคนแต่กลับได้ผลตรงกันข้าม น่าขบขันนัก!” ลึกเข้าไปภายในป่าอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งภายในฝ่ายสงวนคัมภีร์ มีต้นอู๋ถงโบราณจำนวนมากยืนต้นอยู่ นี่คือสถานที่พักของหัวหน้าอาจารย์ฝ่ายสงวนคัมภีร์ จ้าวไท่ฉื่อ

จ้าวไท่ฉื่อเป็นชื่อวิหคอมตะเฒ่าจากเผ่าวิหคอมตะที่มีชีวิตอยู่มาอย่างยาวนาน นางมีพละกำลังไม่น้อย ทุกคนในสำนักศึกษาล้วนรู้จัก

ตามคำร่ำลือนั้น จ้าวไท่ฉื่อได้เป็นอาจารย์ฝ่ายสงวนคัมภีร์ตั้งแต่ยังเป็นศิษย์สำนัก นางมีความอาวุโสมากถึงขั้นที่หัวหน้าอาจารย์คนอื่นของฝ่ายสงวนคัมภีร์ บรรพชนมังกรเขียวแห่งภพมังกรไม่อาจเทียบได้

แถบที่ปกคลุมไปด้วยต้นอู๋ถงโบราณเป็นแถบเรือนพักของจ้าวไท่ฉื่อ เรียกกันว่าป่าต้นอู๋ถง ด้วยความที่นางมีอารมณ์รุนแรง จึงไม่มีใครกล้าก้าวเข้ามาเยี่ยมเยียนที่แห่งนี้หากไม่ได้รับอนุญาต

ทว่าตอนนี้ จ้าวเมิ่งหลีที่สวมชุดสีแดงเพลิงนั่งขัดสมาธิอยู่ใต้ต้นอู๋ถงสูงเสียดฟ้า กำลังมองแผ่นหยกอยู่

“ขอบเขตเซียนทองคำไม่ใช่ว่าจะได้มาง่าย ๆ เจ้าจะสามารถสร้างปาฏิหาริย์อีกครั้งได้ภายในระยะเวลาสองปีจริงหรือ? อย่างไรการทดสอบของสายในขาดเจ้าไปคงน่าเบื่อแย่ ที่หนึ่งของศิษย์ใหม่เอ๋ย…” จ้าวเมิ่งหลีวางแผ่นหยกในมือลง จากนั้นมองไปยังเขาลูกที่อยู่ไกลออกไป ใบหน้าภาคภูมิงดงามเผยแววครุ่นคิด

“อีกสามวันถัดจากนี้เจ้าเริ่มขึ้นสู่ขอบเขตเซียนทองคำได้แล้ว ข้าได้ข่าวมาว่านักพรตน้อยจากภพพุทธองค์ก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนทองคำเมื่อครู่นี้เอง และกำลังไปเทียบอันดับทองคำมวลสวรรค์เพื่อวัดอันดับ” ทันใดนั้น ข้างหูนางก็ได้ยินเสียงเยือกเย็นลึกถึงกระดูก มันเป็นน้ำเสียงน่าฟังเหมือนเสียงธารน้ำไหลในหุบเขาอันว่างเปล่า แต่เจือกลิ่นอายโบราณและสง่างามไว้อยู่

จ้าวเมิ่งหลีใจสั่น เจิ่นลู่ขึ้นสู่ขอบเขตเซียนทองคำแล้วอย่างนั้นหรือ?

หลังจากนั้นนางก็สูดลมหายใจเข้าลึก สีหน้ากลับคืนสู่ความสงบ ก่อนจะพยักหน้าให้เล็กน้อย “บรรพชนไม่ต้องเป็นห่วง อีกสามวันข้าจะขึ้นสู่ขอบเขตเซียนทองคำได้แน่นอน”

“หยกยังไม่ขัดนั้นไร้ค่า เข้าสายในได้เมื่อไหร่ค่อยมาหาข้า” ภายในหอคัมภีร์ฝ่ายสงวนคัมภีร์ น้ำเสียงแหบแห้งนุ่มลึกทุ้มต่ำดูสูงสง่าดังขึ้น

คำกล่าวดูเรียบง่าย แต่ก็มีความหลากหลายยิ่ง ดังนั้นมันจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างมาก แสดงออกว่าสอดคล้องกับเต๋าอยู่เล็กน้อย

มันคือภาษาของมังกร ก็อย่างที่เขาว่า ทุก ‘แปดเสียงแห่งมังกร’ ล้วนมีความลึกล้ำแห่งเต๋าสวรรค์อยู่ มันจึงกลายเป็นวิชาเฉพาะของภพมังกร ทำให้ยืนอยู่เหนือเผ่าและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ได้

“บรรพชน!” นอกหอคัมภีร์นั้น สีหน้าอ๋าวอู๋หมิงที่กำลังคุกเข่าอยู่กับพื้นเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในน้ำเสียงมีกระแสความกังวล

“ไปเสีย! หากยังไม่ได้เข้าสายในก็ไม่ได้รับอนุญาตให้มาเหยียบที่นี่อีก”

ครืน!

พลังอันสูงส่งไม่อาจมองเห็น พาร่างอ๋าวอู๋หมิงที่อยู่บนพื้นหายวับไปทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]