บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 1286

บทที่ 1286 ความวุ่นวายในภัตตาคาร

บทที่ 1286 ความวุ่นวายในภัตตาคาร

เจ้าตัวน้อยทั้งสามนั้น คือ หลิงไป๋ อาหมาน และไป๋คุย

ภพเซียนได้รับการกล่าวขานว่าเต็มไปด้วยนิกายที่ตั้งตระหง่านดุจต้นไม้ในป่าใหญ่ และมีสิ่งมีชีวิตมากมายนับไม่ถ้วน ดังนั้นในเมืองเซียนสัประยุทธ์จึงไม่ขาดสิ่งมีชีวิตและเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ที่มาจากทั่วทั้งภพเซียน

ตัวอย่างเช่น เผ่าพันธุ์ที่น่าเกรงขามจากทะเลคุนหลุน เผ่าแมลงชีปะขาวแห่งแดนภูต เผ่าเถาวัลย์พฤกษา เผ่าภูตบทเพลงเพลิง เผ่าเห็ดจันทราเริงระบำ และเผ่าอื่น ๆ อีกมากมาย

สิ่งนี้ทำให้ผู้บ่มเพาะในเมืองเซียนสัประยุทธ์คุ้นเคยกับสิ่งมีชีวิตที่มีรูปร่างและขนาดต่าง ๆ ทว่าเมื่อพวกเขาเห็นกลุ่มของหลิงไป๋ ก็ยังรู้สึกสนใจอย่างอดไม่ได้

เหตุผลก็คือ เจ้าตัวน้อยทั้งสามนี้ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยสติปัญญา และเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก ยิ่งกว่านั้น เหล่าผู้บ่มเพาะก็ไม่สามารถคาดเดาถึงต้นกำเนิดของพวกมันได้

ดังนั้นจึงทำให้พวกเขาสงสัยกันถ้วนหน้าว่าพวกมันเป็นสัตว์เซียนชนิดใด?

เมื่อเผชิญกับสายตาใคร่รู้เหล่านี้ หลิงไป๋ก็มีท่าทางเฉยเมย อาหมานก็เฉยเมย และไป๋คุยก็เฉยเมยยิ่งกว่า พวกมันเดินส่ายอาด ๆ ไปตามถนน

อาหมานกินแตงโมไปครึ่งลูก และเลียริมฝีปากอย่างไม่พอใจ จึงใช้อุ้งเท้าอ้วน ๆ เกาหัวอย่างสบอารมณ์ แต่ก็ยังคงส่งแตงโมอีกครึ่งลูกไปทางไหล่ของมัน

ไป๋คุยแทบจะทนรอไม่ไหวแล้ว มันส่งเสียงร้องอย่างยินดี ก่อนจะคว้าแตงโมเข้าปากเคี้ยวซ้ำ ๆ น้ำแตงโมกระเซ็นใส่ไหล่ที่เต็มไปด้วยขนปุกปุยของอาหมาน แต่อาหมานกลับยิ้มและไม่ถือสาอะไร

หลิงไป๋ยังคงกอดอก ทั้งหล่อเหลาและเย็นชาเหมือนเช่นเคย มีเพียงเปลือกตาที่หุบลงเท่านั้นที่กระตุกเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ แล้วพลันก่นด่าอยู่ในใจ ‘เจ้าตัวตะกละ! กินมาตลอดทาง แต่ยังไม่รู้จักอิ่มรู้จักพอ พวกเจ้าทำให้ข้าต้องขายหน้าต่อผู้คน!’

“หลิงไป๋ ข้ารู้สึกอับอายเหลือเกิน” เมื่อไม่มีแตงโมให้กินอีก ความสนใจของอาหมานก็ถูกดึงดูดโดยผู้คนที่สัญจรไปมาบนท้องถนนทันที และสังเกตเห็นว่าผู้คนส่วนใหญ่กำลังจ้องมองมันอย่างสงสัย อาหมานจึงก้มหัวลงทันที แล้วพึมพำอย่างกระอักกระอ่วนเสียงเบา

หลิงไป๋ไม่สะทกสะท้าน แต่มุมปากกระตุกยิก แล้วกล่าวอย่างเฉยเมย “อย่าได้กังวล พวกเขามองข้า เจ้าเป็นเพียงใบไม้ที่ใช้เสริมรูปลักษณ์ของข้าเท่านั้น”

กล่าวจบ หลิงไป๋ก็ยืดอกขึ้นโดยไม่รู้ตัว สีหน้าเย็นชาและภาคภูมิมากขึ้น

“โอ้ ที่แท้ก็เป็นเช่นนั้นเอง” อาหมานพยักหน้าอย่างไร้เดียงสา จากนั้นมันก็ลูบท้องผอมแห้ง และเม้มริมฝีปากของมัน “ข้าเหมือนจะหิวอีกแล้ว แตงโมมีแต่น้ำ ไม่พอยาไส้เลย”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ไป๋คุยที่กลืนแตงโมอีกครึ่งลูกก็ผงกหัวเช่นกัน จากนั้นก็หอนราวกับกำลังบอกว่าอาหมานกล่าวถูกแล้ว!

เมื่อเห็นสิ่งนี้ หลิงไป๋ดูเหมือนจะหวนนึกถึงบางสิ่งที่น่าเศร้าในอดีต ใบหน้าหล่อเหลาพลันหมองลง จนไม่สามารถรักษาท่าทางที่สง่างามได้อีกต่อไป เขากัดฟันและดุด้วยเสียงทุ้มต่ำ “กิน! กิน! กิน! พวกเจ้าเอาแต่กินตั้งแต่ที่ออกจากหุบเหวศักดิ์สิทธิ์แห่งความมืด ข้าได้กินแตงโมศักดิ์สิทธิ์ที่พี่ใหญ่มหาปราชญ์ย่ำสวรรค์มอบให้เพียงสามลูก ที่เหลือพวกเจ้ากินจนหมด! นี่ยังไม่พออีกหรือ!?”

อาหมานรู้สึกอายและเงียบไปทันที

ในขณะเดียวกัน ไป๋คุยมองหลิงไป๋ด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย จากนั้นก็นอนลงบนไหล่ของอาหมานอย่างอ่อนแรง

หลิงไป๋หายใจเข้าลึก ๆ และกล่าวอย่างขมขื่น “ต่อจากนี้ไป พวกเจ้าควรคำนึงถึงความรู้สึกของข้าบ้าง ข้าก็หิวมาหลายวันแล้ว!”

ทันทีที่สิ้นคำ ความขุ่นเคืองก็แล่นไปทั่วใจของหลิงไป๋ ตลอดการเดินทางเพื่อดูแลตัวตะกละสองตัวนี้ สิ่งที่เขาต้องทนคงไม่เลวร้ายไปกว่านี้แล้ว!

อาหมานรู้สึกอับอายมากขึ้นไปอีก ศีรษะที่ใหญ่โตของมันก้มต่ำลง

ในขณะที่ไป๋คุยกลอกตาไปมา ราวกับไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

เมื่อเห็นเช่นนี้ หลิงไป๋อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอีกครั้ง “เมื่อเราพบเฉินซี เรายังต้องกังวลเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มเลิศรสอยู่อีกหรือ? เจ้านั้นเป็นถึงปรมาจารย์พ่อครัววิญญาณชั้นยอด… โอ้ แค่คิดก็ทำให้ข้าตื่นเต้นแล้ว”

อาหมานและไป๋คุยดูเหมือนจะนึกถึงช่วงเวลาที่พวกตนติดตามเฉินซีเมื่อหลายปีก่อน ทั้งสองถึงกับกลืนน้ำลายพร้อมกัน

“เจ้าพวกตัวตะกละนี่!”

เมื่อได้ยินเสียงกลืนน้ำลายที่ไม่น่าพึงประสงค์ ใบหน้าของหลิงไป๋ก็หมองลง สองตัวนี้ไร้ยางอายเกินไปแล้ว

“โอ้ กลิ่นอะไรกัน?!” ดวงตาของหลิงไป๋ ไป๋คุย และอาหมานสว่างวาบ จากนั้นก็หันไปมองยังภัตตาคารที่อยู่ด้านข้างโดยพร้อมเพรียง ทั้งยังกลืนน้ำลายพร้อมกันด้วย

ภัตตาคารที่สูงตระหง่านทะลุก้อนเมฆนี้ คือภัตตาคารเซียนเสน่หาที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงวัน กลิ่นหอมเย้ายวนจึงลอยออกมาจากภายใน และทำให้พวกเขาน้ำลายสอด้วยความกระหาย

“หลิงไป๋ บางทีเราควรกินอาหารดี ๆ สักมื้อก่อนที่จะไปพบเฉินซี”

“อู้วว!”

“ข้ารู้สึกว่า…” คิ้วของหลิงไป๋ขมวดเข้าหากันแน่นพลันครุ่นคิดอยู่นาน จากนั้นพยักหน้าเห็นด้วย “ความคิดนี้ไม่เลว!”

ชู่ว!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]