บทที่ 1287 ชื่อเสียงที่น่าสะพรึงกลัว
บทที่ 1287 ชื่อเสียงที่น่าสะพรึงกลัว
เหล่าผู้ดูแลตั้งใจจะลงมือ แต่พวกเขากลับถูกชายชราที่สวมชุดคลุมปักลวดลายห้ามไว้
ชายชราขมวดคิ้วพลันเหลือบมองหลิงไป๋ที่ไร้ท่าทีเกรงกลัว แล้วเลื่อนสายตาไปทางอาหมานและไป๋คุยที่ไม่เคยสนใจผู้ใดตั้งแต่ต้น และด้วยเหตุผลบางอย่าง จู่ ๆ ลางร้ายก็ผุดขึ้นในใจของเขา
เนื่องจากเจ้าตัวประหลาดน้อยทั้งสามนี้ ดูมั่นใจมากเกินไป และหากมีอะไรผิดพลาด จะต้องเกิดเรื่องร้ายแรงอย่างแน่นอน ดังนั้นชายชราจึงต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะอีกฝ่ายอาจมีภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา
“บอกข้าว่ามันเกิดอะไรขึ้น?” สายตาของชายชราจับจ้องไปยังเสี่ยวเอ้อร์ที่ถูกอาหมานนั่งทับอยู่
ใบหน้าของเสี่ยวเอ้อร์บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดและมีน้ำลายฟูมปาก เขาร้องออกมาด้วยเสียงที่บ้าคลั่งทันที “ผู้จัดการจ้าว สามคนนี้สั่งอาหารโดยไม่ได้พกศิลาอมตะมาด้วย ข้าจึงขอให้พวกเขาออกไป แต่กลับทำร้ายข้าเช่นนี้ ช่างอวดดีเหลือเกิน… อ๊าก!!”
ในตอนท้ายของประโยค จู่ ๆ เขาก็ร้องโหยหวนออกมาอีกครั้ง เพราะอาหมานขยับก้นของมัน และทำให้ซี่โครงของเสี่ยวเอ้อร์หักอีกสองสามซี่
การกระทำดังกล่าว ได้กระตุ้นความโกรธของผู้ดูแลภัตตาคารเซียนเสน่หาที่อยู่ใกล้เคียงทันที และถ้าไม่ใช่เพราะชายชราห้ามไว้ พวกเขาคงโจมตีและสังหารไอ้ตัวเล็กทั้งสามไปแล้ว
“พวกเจ้า… มีอะไรจะอธิบายหรือไม่?” ชายชราขมวดคิ้ว พลางจดจ้องหลิงไป๋ด้วยสีหน้าดุร้าย ถ้ามันเป็นความจริง เขาจะไม่สนต่อสิ่งใด ๆ และจะจัดการกับคนเหล่านี้ทันที
ในขณะนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่ในภัตตาคารถูกดึงดูดด้วยเสียงวุ่นวายที่เกิดขึ้น ดังนั้น หากยังไม่จัดการกับปัญหานี้ มันก็จะส่งผลกระทบต่อการค้าในปัจจุบันอย่างแน่นอน และผลที่ตามมาก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาแบกรับไหว
ตึง!
หลิงไป๋ควักหินสีเทาออกมา แล้วโยนมันลงบนโต๊ะ “เป็นเรื่องจริงที่เราไม่มีศิลาอมตะ แต่สมบัตินี้คงเพียงพอให้เรากินดื่มที่นี่เป็นเวลาสามปี”
“กินดื่มเป็นเวลาสามปี!?”
ทุกคนตกตะลึงและแทบไม่เชื่อในหูของตัวเอง “ช่างมั่นใจเสียจริง! พวกเขาคิดว่าภัตตาคารเซียนเสน่หาเป็นร้านอาหารเล็ก ๆ ธรรมดาหรือ?”
เมื่อผู้คนเห็นหินที่หลิงไป๋โยนออกมาบนโต๊ะชัด ๆ พวกเขาก็โกรธและหัวเราะอย่างดูแคลน “ศิลาต้นกำเนิดวายุทมิฬ? สิ่งนี้มีค่าอย่างมากก็แค่ศิลาอมตะแปดสิบก้อน นับประสาอะไรจะดื่มกินอยู่ในภัตตาคารเป็นเวลาสามปี แม้แต่น้ำสักแก้วก็ยังซื้อไม่ได้!”
“นี่พวกเขาตั้งใจจะใช้ศิลาต้นกำเนิดวายุทมิฬธรรมดา ๆ แทนศิลาอมตะจริง ๆ หรือ? ไอ้ตัวเล็กทั้งสามนี้หาเรื่องใส่ตัวชัด ๆ!”
การแสดงออกของทุกคนดูไม่เป็นมิตรในทันที แววตาก็เต็มไปด้วยความโกรธ นอกจากนี้ ยังจ้องพวกหลิงไป๋อย่างกินเลือดกินเนื้อ
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หลิงไป๋กลับส่ายหน้าอย่างดูถูก แววตาเต็มไปด้วยร่องรอยของความสมเพช ราวกับเยาะเย้ยคนเหล่านี้ว่าโง่เขลาเบาปัญญาเสียยิ่งกว่าลา
ชายชราขมวดคิ้วเมื่อสังเกตเห็นสิ่งนี้ จึงหยิบหินสีเทาเข้มขึ้นมาตรวจสอบอย่างระมัดระวัง
ก้อนหินนี้มีขนาดเท่ากำปั้นทารก มีสีเทาเข้ม และไร้ความแวววาว แต่กลับมีน้ำหนักมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งจากประสบการณ์ของชายชราและสายตาที่เฉียบแหลม หินก้อนนี้คือศิลาต้นกำเนิดวายุทมิฬไม่ผิดแน่
ความมั่นใจนี้ทำให้คิ้วของเขาขมวดแน่นยิ่งขึ้น ในขณะที่สีหน้าค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นมืดมน พลางมองกลุ่มของหลิงไป๋ด้วยเจตนาฆ่าฟัน
ในทางกลับกัน หลังจากสังเกตเห็นสีหน้าของชายชราที่เปลี่ยนไป เหล่าผู้ดูแลก็ยิ่งแสดงสีหน้าโหดเหี้ยมยิ่งขึ้น ได้รับคำสั่งเมื่อใด พวกเขาก็พร้อมจะโจมตีโดยไม่ยั้งมือแม้แต่น้อย
บรรยากาศรอบข้างเริ่มตึงเครียด
หลิงไป๋เลิกคิ้วและมองไปทางอาหมาน หมีขนสีทองยกยิ้ม พยักหน้าเป็นเชิงว่าเข้าใจ
“ช้าก่อน ขอข้าดูสมบัติชิ้นนั้นได้หรือไม่?” ทันใดนั้น เสียงที่ชัดเจนและอบอุ่นพลันดังก้อง ทำให้บรรยากาศที่ตึงเครียดจากการเผชิญหน้า ก็คลายลงเล็กน้อย
ชายชราขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แต่เมื่อเห็นคนผู้นั้นชัด ๆ เขาก็ตกใจ และเผยรอยยิ้มเคารพนบนอบ “ที่แท้ก็เป็นนายน้อยหลัวเซวียนนี่เอง โปรดอภัยให้กับการเสียมารยาทของข้าก่อนหน้านี้ด้วย”
ชายหนุ่มผู้นี้มีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ดวงตาเปล่งประกายราวกับดวงดาว และท่าทางสง่างาม เขาคือหลัวเซวียน ศิษย์สายในผู้ที่ครองอันดับเก้าในเทียบอันดับทองคำตราดาราม่วง ผู้มีสมญานามว่า ‘เทพบุตรหน้าหยกแห่งความมั่งคั่ง’
เมื่อพวกเขาเห็นหลัวเซวียน ลูกค้าหลายคนก็จำชายหนุ่มผู้นี้ได้ ดังนั้นจึงแตกตื่นทันที ราวกับไม่คาดคิดมาก่อนว่าคนอย่างหลัวเซวียนจะมาที่นี่จริง ๆ
อย่างไรก็ตาม หลิงไป๋เพียงเหลือบมองหลัวเซวียนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะละสายตาออก
หลัวเซวียนเพียงยิ้มเบา ๆ ก่อนจะเดินตรงไปข้างหน้า จากนั้นก็หยิบก้อนหินขึ้นมา และตรวจสอบมันอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็ส่องประกาย “น้องชาย นี่คือเหล็กทมิฬแก่นแท้หิมะใช่หรือไม่?”
ทันทีที่สิ้นคำ หัวใจของทุกคนก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง “เหล็กทมิฬแก่นแท้หิมะ? นั่นคือสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในหลอมสร้างสมบัติอมตะระดับว่างเปล่า! มันเป็นสิ่งที่จะได้มาโดยวาสนา ทั้งยังแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพบมันในภพเซียน!”
“เป็นไปได้อย่างไรกัน!? เห็นได้ชัดว่ามันคือศิลาต้นกำเนิดวายุทมิฬชัด ๆ!” ชายชราร้องโพล่งออกมาด้วยความตกใจและไม่เชื่อ เพราะเห็นกันอยู่ว่ามันเป็นเพียงก้อนหินธรรมดาไร้ค่า แต่จู่ ๆ กลับมีคนบอกว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่าเสียอย่างนั้น
หลัวเซวียนเพียงยิ้มเบา ๆ และไม่ได้อธิบายใด ๆ พลางมองไปทางหลิงไป๋
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...
ลงวันละหลายตอนใต้ใหม่ครับ...
ไม่ลงต่อแล้วหรือครับ ผมยังรออยู่นะครับ...